Webull บุกไทยเต็มสปีด! เตรียมเปิดเทรด “หุ้นไทย” ชูลงทุน DCA ไม่มีค่าคอมฯ เริ่มต้นแค่ 160 บาท

Investment

Fund

Content Partnership

Content Partnership

Tag

Webull บุกไทยเต็มสปีด! เตรียมเปิดเทรด “หุ้นไทย” ชูลงทุน DCA ไม่มีค่าคอมฯ เริ่มต้นแค่ 160 บาท

Date Time: 16 พ.ค. 2568 15:00 น.
Content Partnership

Summary

  • Webull โบรกเกอร์ชั้นนำจากสหรัฐฯ รายแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาต ประกาศความสำเร็จจากการดำเนินธุรกิจ ฉลองครบ 1 ปีในไทย จ่อเปิดเทรดหุ้นไทย กันยายน 68 ด้วยค่าคอมต่ำ 0.10% พร้อมผนึกพาร์ทเนอร์ ดึงผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านราย

หากพูดถึงโลกของ “การลงทุน” หลายคนคงจะทราบดีว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เป็นตลาดหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลก และใครๆ ก็มักจะได้ยินชื่อหุ้น 7 นางฟ้า ที่ราคาขึ้นอย่างโดดเด่นแจกกำไรกับผู้ถือหุ้นอย่างมากมาย เม็ดเงินทั่วโลกพากันหลั่งไหลไปลงทุนในสหรัฐฯ จำนวนมาก ไม่เว้นแม้แต่นักลงทุนไทย จึงเป็นเหตุผลให้โบรกเกอร์ชื่อดังในสหรัฐฯ อย่าง บริษัทหลักทรัพย์ วีบูลล์ เลือกที่จะเข้ามาเปิดสาขาในเมืองไทย จนปัจจุบันก็ได้ฉลองความสำเร็จครบรอบ 1 ปี

และล่าสุด “วีบูลล์” จัดงาน “Webull Money Festival 2025” ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญบนเส้นทางการเติบโตของบริษัท และงานนี้ยังถือเป็นการเฉลิมฉลองความสำเร็จล่าสุดของวีบูลล์ ในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ตอกย้ำพันธกิจของบริษัทในการเปิดโอกาสให้นักลงทุนทั่วโลกเข้าถึงตลาดการเงินระดับโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดสัปดาห์ พร้อมนำเสนอเครื่องมือการลงทุนที่ล้ำสมัยและออกแบบมาเพื่อนักลงทุนชาวไทยโดยเฉพาะ ในฐานะนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์สัญชาติสหรัฐฯ รายแรกในประเทศไทย

เส้นทางสู่ความสำเร็จของ Webull

ทั้งนี้หากย้อนกลับไป “วีบูลล์” เริ่มก่อตั้งในปี 2559 และก้าวสู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดดในปี 2561 ภายใต้การบริหารงานของ “แอนโทนี เดเนียร์” ประธานกลุ่ม Webull Corporation และ CEO ของ Webull US บริษัทได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปัจจุบันวีบูลล์ให้บริการครอบคลุม 14 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, เม็กซิโก, บราซิล, อังกฤษ, เนเธอร์แลนด์, แอฟริกาใต้, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, และไทย พร้อมฐานผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนแล้วกว่า 23 ล้านบัญชีทั่วโลก

มุ่งพัฒนาแพลตฟอร์มบริการทางการเงินครบวงจร


ชลเดช เขมะรัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของวีบูลล์ ประเทศไทย
เปิดเผยว่า การเติบโตอย่างรวดเร็วของบริษัทในปีที่ผ่านมา ผลักดันให้เกิดความมุ่งมั่นในการพัฒนาแพลตฟอร์มบริการทางการเงินแบบครบวงจร ปัจจุบัน วีบูลล์เปิดโอกาสให้นักลงทุนในประเทศไทยสามารถลงทุนในหุ้น, อีทีเอฟ, ออปชัน และหุ้นเศษส่วนในตลาดสหรัฐฯ ได้ ความสามารถในการลงทุนเหล่านี้ยังมาพร้อมกับข้อมูลตลาดแบบเรียลไทม์ เครื่องมือการเทรดระดับมืออาชีพ และแหล่งความรู้ด้านการลงทุนที่ครบถ้วน ช่วยให้นักลงทุนสามารถซื้อขายและลงทุนได้อย่างมั่นใจ

ทั้งนี้ วีบูลล์ เปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2567 ในฐานะโบรกเกอร์สัญชาติสหรัฐอเมริกา รายแรกในประเทศไทยที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง และดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ประเทศไทย โดยทุกวันนี้มีจำนวนของผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกับวีบูลล์ ประเทศไทย ประมาณ 5 แสนคน

ส่วนสิ่งที่ทำให้วีบูลล์โดดเด่น คือ แพลตฟอร์มการเงินที่ครบครันภายใต้แนวคิด “All-in-Webull” ซึ่งมีอัตราค่าคอมมิชชันเพียง 0.10% พร้อมทั้งการแสดงราคาสินทรัพย์แบบเรียลไทม์และประสบการณ์ใช้งานที่ราบรื่น ทั้งหมดนี้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุนชาวไทยโดยเฉพาะ อีกทั้งเครื่องมือที่มีเหมือนกับนักลงทุนอเมริกันใช้ในอเมริกา จึงสามารถเปรียบเทียบได้ว่าวีบูลล์ยังคงเหนือกว่าบริการที่มีอยู่ในไทย ทำให้จุดยืนที่แข็งแกร่งนี้ส่งผลให้เกิดการเติบโตอย่างต่อเนื่องของฐานผู้ใช้วีบูลล์ในไทยตลอดปีที่ผ่านมา

มุมมองต่อตลาดหุ้นไทยและต่างประเทศ

ชลเดช ระบุว่า หุ้นอเมริกายังเป็นที่สนใจของนักลงทุนไทย โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยี, AI และ Health Tech ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ส่วนตลาดหุ้นไทยแม้เผชิญความท้าทายทางเศรษฐกิจและปรับตัวลดลงต่อเนื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันเริ่มเห็น Downside จำกัด และ หุ้นปันผล ก็ยังคงน่าสนใจ รวมทั้ง “หุ้นไทย” เป็นหุ้นที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุน เป็นอันดับ 2 รองจากหุ้นสหรัฐ ทำให้ Webull เตรียมเปิดเทรดหุ้นไทยเพื่อสร้างโอกาสใหม่ให้แก่นักลงทุน ภายในเดือนกันยายน 68 ที่จะรวมทั้ง DR, DW แต่ยังไม่สามารถซื้อขาย TFEX ได้ โดยจะมีอัตราค่าคอมมิชชันไม่เกิน 0.10% หรือต่ำสุดในอัตรา 0.06 -0.08% ที่สามารถแข่งขันได้

โดยคาดว่าหลังเปิดเทรดหุ้นไทย จะมีผู้ใช้งานเพิ่มอีก 5 แสนรายเป็น 1 ล้านราย นอกจากนี้ วีบูลล์จับมือกับพันธมิตรที่เป็น Local Partner ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเพิ่มผู้ใช้งาน

ขณะเดียวกันคาดว่าจะมีผู้เปิดบัญชีกับ วีบูลล์เพิ่มขึ้นเป็น 3 แสนบัญชี หรืออย่างน้อย 30% ของผู้ใช้งานแพลตฟอร์ม Webull จากปัจจุบันมีอยู่ 1.3 แสนบัญชี ซึ่งเป็นบัญชี Active 1 แสนบัญชี โดยทั้งหมดอายุระหว่าง 25-45 ปี

“ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 70 ล้านคน มีนักลงทุนประมาณ 3 ล้านคน ถือเป็นขนาดที่พอเหมาะ และสามารถเติบโตได้อีก เพราะการลงทุนในปัจจุบันโดยเฉพาะหุ้นอเมริกา คนไทยให้การตอบรับที่ดีมีการติดตามข่าวหุ้น Apple, Nvidia, Tesla จำนวนมาก จึงเป็นโอกาสที่จะเข้ามาทำตลาดโดยนักลงทุนไทยให้ความสนใจทุกผลิตภัณฑ์ของวีบูลล์ ไม่ว่าจะเป็น DCA หรือการใช้ออปชัน นักลงทุนให้การตอบรับดีกว่าคาด และมีปริมาณการเทรดเยอะกว่าที่คาดไว้” ชลเดช กล่าว


ด้วยเหตุนี้เอง วีบูลล์ ประเทศไทย จึงได้จัดงาน “Webull Money Festival 2025” เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 9 ปีของ Webull Corporation และครบรอบ 1 ปีของการดำเนินงานในประเทศไทย พร้อมทั้งประกาศความสำเร็จในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ อย่างเป็นทางการ โดยงานจัดขึ้นภายใต้ธีม “Investing and Trading, All in Webull” ที่ผสมผสานโลกการลงทุนเข้ากับความบันเทิงในรูปแบบที่ทันสมัยและน่าดึงดูด โดยมุ่งเจาะกลุ่มนักลงทุนรุ่นใหม่ ภายในงานได้นำเสนอมุมมองและเครื่องมือการลงทุนสมัยใหม่ในบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยไฮไลต์และมีการเปิดตัวฟีเชอร์พิเศษและสิทธิประโยชน์สำหรับนักลงทุน อาทิ

● ดอกเบี้ยรายวัน (Daily Interest) : รับดอกเบี้ย 3.5% ต่อปีจากยอดเงินสด USD ที่คงเหลือในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์

● DCA ไม่มีค่าคอมมิชชัน : ลงทุนตามตารางเวลาแบบต่อเนื่อง ด้วยเงินขั้นต่ำ 5 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 160 บาทเท่านั้น โดยไม่มีค่าคอมมิชชัน

● Dynamic DCA : เครื่องมือการลงทุนอัจฉริยะที่ปรับจังหวะเวลาซื้อขายให้เหมาะสมตามการเคลื่อนไหวของตลาด

● Sage Tracker : ฟีเจอร์ระดับพรีเมียมที่ช่วยติดตามการซื้อขายแบบเรียลไทม์ของนักลงทุนรายใหญ่และการเคลื่อนไหวของพอร์ตโฟลิโอของนักลงทุนสถาบัน

● Dividend Reinvestment Plan (DRIP) : นำเงินปันผลกลับมาลงทุนใหม่โดยอัตโนมัติเพื่อเร่งการเติบโตของพอร์ตระยะยาว


นอกจากนี้ วีบูลล์ยังได้จัดกิจกรรมให้ความรู้ด้านการลงทุนร่วมกับพันธมิตรระดับโลก เช่น NASDAQ ซึ่งตอกย้ำบทบาทของวีบูลล์ ในฐานะแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงระหว่างความรู้ด้านการลงทุนและเทคโนโลยีวีบูลล์ ยังคงมุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์การลงทุนที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และใช้งานง่าย ที่ปรับให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์และเป้าหมายทางการเงินของนักลงทุนรุ่นใหม่ สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของวีบูลล์

ในการสร้างความมั่งคั่งในระยะยาวให้แก่ผู้ใช้งานทั่วโลก แอปพลิเคชัน Webull Thailand พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วทั้งบน App Store และ Google Play สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.webull.co.th/activity?source=Thairathmoneyth


Author

Content Partnership

Content Partnership