น.ส.พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.66 นี้เป็นต้นไป กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือ TESG พร้อมเสนอขายหน่วยลงทุนพร้อมกันทั้งหมด 22 กองทุนจาก 16 บริษัทจัดการลงทุน (บลจ.) โดยผู้ที่มีเงินได้สามารถได้สิทธิหักลดหย่อนภาษี จากค่าซื้อหน่วยลงทุนดังกล่าวได้ ในอัตราไม่เกิน 30% ของเงินได้พึงประเมิน และไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับปีภาษี และจะต้องถือหน่วยลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 8 ปี นับตั้งแต่วันที่ซื้อ โดยสามารถใช้ลดหย่อนภาษีของปี 66 ได้นั้น ทั้งนี้ ใน 3 สัปดาห์ที่เหลือของปีนี้ ตั้งเป้าหมายจะสามารถระดมเงินลงทุนได้ 10,000 ล้านบาท และคาดว่าในปีต่อๆไป จะมีจำนวนกองทุนและเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า หลังจากเริ่มเปิดขายกองทุน TESG คาดจะมีนักลงทุนให้ความสนใจและเข้าซื้อกองทุนในช่วง 3 สัปดาห์ก่อนสิ้นปี 66 มากถึง 10,000 ล้านบาท และปีถัดไปคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 20,000-30,000 ล้านบาท.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่