
ตลาดหุ้นไทยกลับมาหายใจได้คล่องขึ้นเยอะ หลังจากดัชนีฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดของปีที่ 1,062.78 จุด (23 มิ.ย. 68) ดีดกลับมาแถวๆ 1,300 จุด ได้สำเร็จ หรือบวกขึ้นมากว่า 200 จุด
สัญญาณบวกนี้ส่งผลทันที หลายบริษัทที่รอจังหวะเข้า IPO ก็เหมือนได้ไฟเขียว พากันกลับมาเดินสาย Road show พบปะและให้ข้อมูลนักลงทุนกันคึกคัก ทั้ง ONSENS ที่เพิ่งผ่านไป และล่าสุดอย่าง TURBO ในวันนี้ ที่จะเป็นหุ้นตัวแรกในกระดาน SET
แม้บรรยากาศจะดูดี ตลาดจะฟื้น แต่สถิติฟ้องว่าสนาม IPO ปี 2568 นี้ "โหด" เอาเรื่อง เพราะถ้าไปดูหุ้นที่เข้าตลาดมาปีนี้ พบว่า "เกินครึ่ง" ตอนนี้ราคา "ต่ำจอง" ไปเรียบร้อย ทั้งๆ ที่วันแรกส่วนใหญ่ก็เปิดบวกกันทั้งนั้น
นี่คือความจริงที่ว่า การลงทุนหุ้นไอพีโอเพื่อหวังจะเป็น “หัวแถว” ไม่ได้แปลว่านักลงทุนจะรอดเสมอไป การไล่ราคาหุ้น IPO ที่เปิดเขียวๆ อาจหมายถึงการพาตัวเองไปติด "ดอย" อย่างรวดเร็ว
สิ่งที่นักลงทุนควรรู้ จึงไม่ใช่แค่ "ส่อง" ว่ามีหุ้นอะไรน่าสนใจจ่อคิวเข้าตลาดบ้าง แต่คือการ "รอด" ให้ได้ในสนามนี้ Thairath Money เลยไม่เพียงแต่รวบรวมลิสต์หุ้นใหม่ที่กำลังจะมา แต่ยังนำ "5 กฎเหล็กพารอด" จากเซียนหุ้น VI ตัวจริง "เชาว์ เฉลิมเดช" มาฝากกันด้วย ว่าต้องมีวิธีคิดและเทคนิคแบบไหน ถึงจะไม่ติดดอยซ้ำรอยเดิม
จากข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทที่เตรียมนำหุ้นเสนอขายไอพีโอ แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ทั้งในกระดาน SET และกระดาน mai ดังนี้
กลุ่มที่ 1 พร้อมลุย ไฟลิ่งมีผลบังคับใช้ (Effective)
กลุ่มที่ 2 จ่อคิวรอ ไฟลิ่งได้รับอนุญาตแล้ว (Approved)
กลุ่มนี้มีกว่า 9 บริษัท แต่ Thairath Money ขอยกตัวอย่างหุ้นที่หลายคนคุ้นหูในชีวิตประจำวันมาให้ดูกัน เช่น
ถ้าเรามาดูสถิติหุ้น IPO ที่เข้าตลาดในปี 2568 นี้ ต้องบอกว่าน่าใจหาย เพราะจาก 6 บริษัทที่เข้ามา มีเพียง 2 บริษัทเท่านั้นที่ราคายังยืน "เหนือจอง" ได้ในปัจจุบัน แม้ส่วนใหญ่เปิดตัววันแรกก็ดูดี "เปิดบวก" กันทั้งนั้น คำถามคือ แล้วเราจะเอาตัวรอดในสนามนี้ยังไง?
เรื่องนี้ Thairath Money ได้เทคนิคดีๆ มาจาก "เชาว์ - เฉลิมเดช ลีวงศ์เจริญ" เซียนหุ้น VI และอดีตนายกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (Thai VI) ที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ Thairath Money Night Stand EP.14 โดยให้ 5 เทคนิคเพื่อรอดตายในสนาม IPO ดังนี้
กฎเหล็กข้อแรก - รายย่อยได้หุ้นจอง ต้อง "เอ๊ะ" ไว้ก่อน
ต้องบอกว่าโดยปกติแล้ว หุ้น IPO ดีๆ มักจะถูกเสนอขายให้นักลงทุนรายใหญ่ก่อน ดังนั้น หากนักลงทุนรายย่อยได้รับการจัดสรรหุ้นจอง อาจเป็นสัญญาณว่าหุ้นตัวนั้นไม่เป็นที่ต้องการของรายใหญ่
กฎเหล็กข้อสอง - ถ้าเทรดวันแรก "เปิดแดง" ต้อง "โยน" ทิ้งทันที! ไม่ต้องลังเล
หากหุ้น IPO ที่เราจองไว้เปิดตลาดวันแรกด้วยราคาที่ต่ำกว่าราคาจอง ควรตัดสินใจขายทันที เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่คนขาย คือ “เจ้าของ” หรือ “ผู้ถือหุ้นเดิม” ที่มีต้นทุนต่ำมาก (เช่น เท่าราคาพาร์) ซึ่งยังคงได้กำไรแม้จะขายในราคาที่ต่ำกว่า IPO
กฎเหล็กข้อสาม - จับจังหวะจากราคาเปิดวันแรกแม้ “เปิดเขียว”
เชาว์ เฉลิมเดช ให้แนวคิด 2 รูปแบบ คือ ถ้า "เปิดเขียวนิดๆ" เป็นจังหวะที่ดีที่สุดในการเข้าซื้อเก็งกำไร เพราะเป็นสัญญาณว่าเจ้าของไม่ได้เทขาย และอาจเป็นช่วงที่ Market Maker กำลังเก็บหุ้นเพื่อลากราคาต่อ
แต่ถ้า "เปิดเขียวเยอะๆ" (เช่น +100%) ต้องระวัง เพราะการเปิดราคาสูงมากในวันแรกอาจเป็นกลยุทธ์ของเจ้ามือที่รวบหุ้นไว้แล้วดันราคาขึ้นไปสูงๆ เพื่อขายหุ้นให้กับนักลงทุนรายย่อย (เม่า) ที่ตามเข้าไป
กฎเหล็กข้อสี่ - ต้องประเมิน "เจ้าของ" ให้ออก ว่าอยาก “Exit” หรืออยาก “เติบโต”
สังเกตง่ายๆ จากสัดส่วน "หุ้นเก่า" ที่เอามาขาย ยิ่งถ้ามาจากกองทุน Private Equity หรือ Venture Capital ซึ่งมีโอกาสเข้าตลาดมาเพื่อขายทำกำไร นอกจากนี้ ยังแนะนำให้นักลงทุนจำลองตัวเอง ว่าหากเราเป็นเจ้าของธุรกิจนี้ จะยังอยากทำธุรกิจต่อหรือไม่ เช่น ประเมินจากโอกาสการเติบโต หรือประเมินจากอุตสาหกรรมธุรกิจ
กฎเหล็กข้อห้า - ลงทุนในสิ่งที่รู้จริงเท่านั้น
พื้นฐานที่สำคัญที่สุดคือการเลือกลงทุนในธุรกิจที่เราเข้าใจและมั่นใจจริงๆ การซื้อตามคนอื่น เมื่อหุ้นราคาตก เราจะไม่สามารถรับมือกับสถานการณ์ได้ แต่ถ้าเรามั่นใจจริงๆ การปรับตัวลดลงของราคาหุ้น อาจเป็นโอกาสของการซื้อเพิ่ม
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องย้ำเตือนกันเสมอคือ "การลงทุนมีความเสี่ยง" หุ้น IPO ก็เช่นกัน แม้จะมีเทคนิคดีแค่ไหน ก็ไม่มีอะไรการันตีผลตอบแทนได้ 100% ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง อย่าลืมศึกษาข้อมูลบริษัทและหนังสือชี้ชวน (ไฟลิ่ง) ให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ด้วยตัวเองก่อนตัดสินใจลงทุน
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้