อัปเดต 10 กองทุนปันผล 5 ดาว ให้ผลตอบแทนดีสุดจากต้นปี 68 เริ่มต้นบาทเดียว ลงทุนได้เลย

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

อัปเดต 10 กองทุนปันผล 5 ดาว ให้ผลตอบแทนดีสุดจากต้นปี 68 เริ่มต้นบาทเดียว ลงทุนได้เลย

Date Time: 25 ส.ค. 2568 12:57 น.

Video

Jack Ma กลับมา จะพา Alibaba สร้างอำนาจใหม่ให้วงการเทคจีนได้ยังไง ? | Digital Frontiers EP.50

Summary

รวม 10 กองทุนปันผล ที่ทำผลตอบแทนดีที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ที่ผ่านมา พร้อมเรทติ้งระดับ 5 ดาว จาก Morningstar

Latest


สำหรับนักลงทุนมือใหม่ การลงทุนใน "กองทุนรวม" ถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะเหมือนมีผู้จัดการกองทุนมืออาชีพมาช่วยดูแลบริหารเงินให้เรา แถมถ้าเลือกเป็น "กองทุนปันผล" ก็จะยิ่งน่าสนใจไปอีก เพราะจุดเด่นของมันคือการจ่ายเงินปันผลออกมาให้เราเป็นระยะๆ ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ต้องการขายหน่วยลงทุน แต่อยากได้ผลตอบแทนกลับมาใช้จ่าย หรือเห็นกำไรเป็นรูปธรรม

Thairath Money รวบรวมข้อมูลจาก Morningstar Thailand มาให้ทุกคนได้ส่องกันแบบจัดเต็มกับ "10 กองทุนปันผล ระดับ 5 ดาว" ที่ทำผลตอบแทนได้ปังที่สุดนับตั้งแต่ต้นปี 2568 ที่ผ่านมา

ที่สำคัญ เดี๋ยวนี้การลงทุนไม่ต้องใช้เงินก้อนโตอีกต่อไปแล้ว เพราะหลายกองทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ด้วยเงินแค่บาทเดียวเท่านั้น และเรทติ้ง 5 ดาว จาก Morningstar ก็เหมือนเครื่องหมายการันตีคุณภาพเบื้องต้น ช่วยลดเวลาและทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้นด้วย


ส่อง 10 กองทุนปันผล 5 ดาว ที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุด

Thairath Money รวบรวมกองทุนเด่นๆ ที่ไม่ซ้ำซ้อนกันมาให้แล้ว เพื่อให้ทุกคนได้เห็นตัวเลือกที่หลากหลายและเป็นกองทุนตัวท็อปในแต่ละกลุ่มอย่างแท้จริง ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลยว่ามีกองทุนไหนน่าสนใจติดอันดับเข้ามาบ้าง  (ข้อมูลผลตอบแทนจาก Morningstar Thailand ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2568)


1.กองทุนเปิด แอล เอช อีสปอร์ต ชนิดจ่ายเงินปันผล หรือ LHESPORT-D

  • ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 26.78%
  • ลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1,000 บาท ครั้งต่อไปขั้นต่ำ 100 บาท

กองทุน LHESPORT-D ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน VanEck Vectors Video Gaming and eSports ETF (กองทุนหลัก) ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แนสแด็ก ซึ่งลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวกับวิดีโอเกมส์, อีสปอร์ต, บริษัทที่พัฒนาวิดีโอเกมส์ และโปรแกรมหรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้อง


2.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน (ชนิดเพื่อการออมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) หรือ SCBCE (SSFE)

  • ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 20.46%
  • ลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1 บาท ครั้งต่อไปขั้นต่ำ 1 บาท

กองทุน SCBCE (SSFE) ลงทุนในหน่วยลงทุนของ Hang Seng China Enterprises Index ETF (กองทุนหลัก) เพื่อให้สามารถสร้างผลตอบแทนก่อนหักฯ ใกล้เคียงการลงทุนในดัชนี Hang Seng China Enterprises Index (H-Share Index)


3.กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี รีนิวเอเบิล เอนเนอร์จี ชนิดผู้ลงทุนทั่วไปที่รับเงินปันผล หรือ MRENEW-D

  • ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 15.63%
  • ลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1 บาท ครั้งต่อไปขั้นต่ำ 1 บาท

กองทุน MRENEW-D ลงทุนในหน่วยลงทุนของ BGF Sustainable Energy Fund (กองทุนหลัก) ในชนิดหน่วยลงทุน (share class) “I2” ภายใต้ BlackRock Global Fund


4.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Semiconductor (ชนิดเพื่อการออมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) หรือ SCBSEMI(SSFE)

  • ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 12.26%
  • ลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1 บาท ครั้งต่อไปขั้นต่ำ 1 บาท

กองทุน SCBSEMI(SSFE) ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน VanEck Vectors Semiconductor UCITS ETF ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ลงทุนในตราสารทุน และตราสาร depository receipts ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ในอุตสาหกรรม Semiconductor


5.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ หุ้นจีนเอแชร์ (ชนิดเพื่อการออมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) หรือ SCBCHA(SSFE)

  • ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 10.89%
  • ลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1 บาท ครั้งต่อไปขั้นต่ำ 1 บาท

กองทุน SCBCHA(SSFE) ลงทุนในหน่วยลงทุนของ ChinaAMC CSI 300 Index ETF (กองทุนหลัก) ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ที่ลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี CSI 300 เพื่อให้ผลการดำเนินงานของกองทุนก่อนหักฯ ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี CSI 300


6.กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ดัชนีหุ้นโลก (ชนิดเพื่อการออมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) หรือ SCBWORLD(SSFE)

  • ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 9.82%
  • ลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1 บาท ครั้งต่อไปขั้นต่ำ 1 บาท

กองทุน SCBWORLD(SSFE) ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน iShares MSCI World ETF เป็นกองทุน ETF บริหารโดย BlackRock Fund Advisors ลงทุนในหุ้นที่เป็นส่วนประกอบในดัชนี MSCI World Index ซึ่งประกอบด้วยหุ้นของกลุ่มตลาดที่พัฒนาแล้ว


7.กองทุนเปิด ทิสโก้ ดิวิเดนด์ ซีเล็ค หุ้นระยะยาว (ชนิดหน่วยลงทุน B) หรือ TDSLTF-B

  • ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 9.63%
  • ไม่กำหนดขั้นต่ำเงินลงทุน

กองทุน TDSLTF-B ลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ มีแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลที่ดี  รวมถึงมีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง มีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


8.กองทุนเปิด ทิสโก้ ดิวิเดนด์ ซีเล็ค อิควิตี้ หรือ TISCODS

  • ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 9.31%
  • ลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 1,000 บาท ครั้งต่อไปขั้นต่ำ 1,000 บาท

กองทุน TISCODS ลงทุนในหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ มีแนวโน้มการจ่ายเงินปันผลที่ดี  รวมถึงมีปัจจัยพื้นฐานดี มีความมั่นคง มีแนวโน้มการเจริญเติบโตทางธุรกิจ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย


9.กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลโกรทเพื่อการออม หรือ KFGGSSF

  • ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 9.09%
  • ไม่กำหนดขั้นต่ำเงินลงทุน

กองทุน KFGGSSF ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Baillie Gifford Worldwide Long Term Global Growth Fund, Class B USD Acc ที่ลงทุนในตราสารทุนทั่วโลก ซึ่งเป็นหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และจดทะเบียนซื้อขายใตลาดหลักทรัพย์ฯ


10.กองทุนเปิดกรุงศรีเกรทเทอร์ไชน่าอิควิตี้เฮดจ์ปันผล หรือ KF-GCHINAD

  • ผลตอบแทนนับตั้งแต่ต้นปี 7.86%
  • ลงทุนครั้งแรกขั้นต่ำ 500 บาท ครั้งต่อไปขั้นต่ำ 500 บาท หรือ 50 หน่วย

กองทุน KF-GCHINAD ลงทุนในกองทุนรวม FSSA Greater China Growth Fund ที่เน้นลงทุนในหุ้นที่ออกโดยบริษัทต่างๆ ซึ่งเป็นทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมีแหล่งรายได้จากประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน


อย่างไรก็ตาม ต้องย้ำไว้เสมอว่าข้อมูลนี้เป็นเพียงการคัดกรองเบื้องต้นเพื่อเป็นไอเดียเท่านั้น เพราะผลการดำเนินงานในอดีต ไม่ได้เป็นเครื่องยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต

ก่อนตัดสินใจลงทุนในกองทุนไหนที่สนใจจริงๆ ต้องใช้เวลาศึกษาข้อมูลเชิงลึกจากหนังสือชี้ชวน (Fund Fact Sheet) ของกองทุนนั้นๆ ให้ละเอียดอีกครั้ง เพื่อทำความเข้าใจนโยบายการลงทุน สินทรัพย์ที่ถือครอง ความเสี่ยง และค่าธรรมเนียมต่างๆ 

และที่สำคัญที่สุด คือการประเมินว่ากองทุนนั้นตอบโจทย์เป้าหมายการลงทุนและระดับความเสี่ยงที่ตัวเรายอมรับได้หรือไม่


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ