
ตลาดหุ้นไทยเปิดไตรมาส 3 ปี 2568 ในเดือนกรกฎาคม บรรยากาศการลงทุนกลับมาคึกคักและสร้างความหวังให้แก่นักลงทุนอีกครั้ง หลังจากที่ตลาดซบเซามานานภายใต้แรงกดดันรอบด้าน
เพียงแค่ครึ่งเดือนแรกของกรกฎาคม ดัชนีทะยานบวกไปแล้วมากกว่า 100 จุด Thairath Money พาเปิดสถิตินักลงทุนกลุ่มไหนซื้อมากสุด พร้อมเปิดความเห็นนักวิเคราะห์ว่าความร้อนแรงนี้จะไปต่อได้ไกลแค่ไหน ?
ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยเริ่มส่งสัญญาณบวกชัดเจน โดยเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2568 ดัชนีปิดที่ 1,198.11 จุด เพิ่มขึ้นถึง 108.55 จุด หรือ +9.96% เมื่อเทียบกับสิ้นไตรมาส 2 ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ปิดไว้เพียง 1,089.56 จุด โดยเฉพาะการซื้อขายในวันที่ 17 ก.ค. ที่ดัชนีพุ่งขึ้นแรงกว่า 40 จุด
เมื่อเจาะลึกข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในช่วงวันที่ 1-17 กรกฎาคม 2568 พบว่าสถิติการซื้อขายแบ่งตามกลุ่มนักลงทุน มีดังนี้
ผู้ลงทุนสถาบัน (กองทุน) ซื้อสุทธิ 8,035.47 ล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 2,824.11 ล้านบาท
นักลงทุนรายย่อยในประเทศ ขายสุทธิ -10,522.95 ล้านบาท
บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ขายสุทธิ -336.63 ล้านบาท
จากข้อมูล จะเห็นได้ว่าแรงซื้อสุทธิรวมกว่า 10,859 ล้านบาท มาจากกลุ่ม "นักลงทุนสถาบันและต่างชาติ" ซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ในรอบนี้
ในขณะที่ "นักลงทุนรายย่อย" เป็นผู้ขายสุทธิรายสำคัญ ซึ่งเป็นภาพสะท้อนการเปลี่ยนมือของหุ้นจากรายย่อยไปยังผู้เล่นกลุ่มสถาบันและต่างชาติ
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด ชี้ว่า การที่ดัชนีพุ่งขึ้นแรงถึง 40 จุดวานนี้ ถือเป็นการปรับขึ้นแรงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของปีนี้ มาพร้อมกับมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่นถึง 6.3 หมื่นล้านบาท
ส่งผลให้ดัชนีตั้งแต่ต้นไตรมาส 3/68 (QTD) บวกไปแล้วเกือบ 10% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้น สูงสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
อย่างไรก็ตามบทวิเคราะห์ได้เตือนว่า "การขึ้นเร็วและแรงในช่วงสั้นๆ อาจมีการย่อตัวลงมาได้บ้าง" เพื่อเป็นการพักฐาน
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มองว่า การปรับขึ้นแรงกว่า 40 จุดล่าสุด มีแรงหนุนหลักมาจากการพุ่งขึ้นของหุ้นใหญ่อย่าง DELTA และ AOT
ทั้งนี้ ยังคงมุมมองว่าหลังจากนี้ ตลาดจะกลับมาพิจารณาว่าแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2568 สอดคล้องไปกับทิศทางของราคาหุ้นที่ปรับขึ้นมาหรือไม่
นอกจากนี้ ปัจจัยบวกที่ชัดเจนต่อตลาดยังมีจำกัด ทั้งประเด็นการเจรจาทางการค้าที่ยังต้องรอความชัดเจนก่อนเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคมนี้ รวมถึงประเด็นการเมืองในประเทศที่ต้องจับตาการพิจารณาคดีของนายกรัฐมนตรีและทักษิณ ชินวัตร ในเดือนหน้า ซึ่งอาจสร้างความผันผวนให้ตลาดได้อีกครั้ง
แม้ตลาดหุ้นไทยจะกลับมาสร้างความหวังอีกครั้งในช่วงครึ่งแรกของเดือนกรกฎาคม แต่ก็มาพร้อมกับเสียงเตือนจากนักวิเคราะห์ให้ระวังการพักฐานระยะสั้น อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนและสถานการณ์การเมืองยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้