
เปิดข้อมูลเปรียบเทียบสองบริษัท ผู้ได้รับลิขสิทธิ์จาก The Coca-Cola Company บริษัทเครื่องดื่มระดับโลก ให้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มในเครือฯ ที่แบ่งโซนกันอย่างชัดเจน ระหว่าง “บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TNCC” ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มโคคา-โคลา ครอบคลุม 63 จังหวัดทั่วไทยและลาว ที่กำลังจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และ “บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC" เจ้าของสิทธิ์ผลิตและจำหน่ายโคคา-โคลา ใน 14 จังหวัดภาคใต้ ที่ยืนหนึ่งในตลาดหุ้นไทยมาอย่างยาวนาน
สำหรับบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC นับว่าเป็นบริษัทเครื่องดื่มที่ครองใจนักลงทุนมายาวนาน ด้วยการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มโคคา-โคลาใน 14 จังหวัดภาคใต้แต่เพียงผู้เดียว จุดเด่นคือความมั่นคงของธุรกิจในพื้นที่ ซึ่งมีเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยการท่องเที่ยวและเกษตรกรรมเป็นหลัก และมีมูลค่าบริษัทกว่า 6.3 พันล้านบาท
สำหรับผลประกอบการของ HTC ย้อนหลัง ดังนี้
โดย HTC มีแผนการดำเนินงานสู่การเป็น Total Beverage Company ขยายการเติบโตด้วยการมีผลิตภัณฑ์ให้ผู้บริโภคที่หลากหลาย โดยมีเป้าหมายการเติบโตระยะกลางในปี 2570 จะเพิ่มมูลค่าส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ของเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ของบริษัทฯ และรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดของเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลมให้มากกว่า 80%
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายการเติบโตผลิตภัณฑ์ประเภท Zero Sugar มากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาขยายตัวได้เป็นอย่างดี ส่วนหนึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคที่มีการใส่ใจด้านสุขภาพมากขึ้นด้วย โดยจะจับมือกับโคคา-โคล่า สร้างความเติบโตจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขณะที่สัดส่วนสินค้ากลุ่มนี้คิดเป็นเพียง 5% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งหมายถึงยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น HTC โดยให้ราคาเป้าหมายสำหรับปี 2568 ที่ 20 บาทต่อหุ้น มุมมองหลักคือคาดการณ์ว่ารายได้ในปี 2568 จะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยหนุนมาจากการกระจายสินค้าที่เพิ่มขึ้นและการปรับขนาดการขาย
ขณะที่การบริหารจัดการต้นทุนยังคงทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ โรงงานขวดแก้วแห่งใหม่ยังเป็นปัจจัยหนุนสำคัญทั้งในแง่สัดส่วนการขายและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์กำไรสุทธิปี 2568 จะเติบโตประมาณ 4.9-5.2%
สำหรับเป้าหมายของ HTC เองในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ 5-7% จากปริมาณการขายที่คาดว่าจะโต 2-4% และมีความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นราคาขายบางรายการเพื่อรับมือกับภาษีความหวานที่อาจเพิ่มขึ้น บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 40% พร้อมแผนบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
แม้จะเป็นว่าที่น้องใหม่ในตลาดหุ้น แต่ บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TNCC คือ "ยักษ์ใหญ่" ในอุตสาหกรรม ด้วยพื้นที่การผลิตและจัดจำหน่ายที่กว้างขวางถึง 63 จังหวัดทั่วประเทศ รวมถึงประเทศลาว ทำให้มีฐานรายได้ที่ใหญ่กว่า HTC อย่างชัดเจน
โดย TNCC เป็นบริษัทที่มีรายได้รวมหลักหมื่นล้าน และมีอัตรากำไรสุทธิที่แข็งแกร่ง ซึ่งการเข้ามาระดมทุนในตลาดฯ ครั้งนี้ คาดว่าจะนำเงินไปขยายธุรกิจและเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับผลประกอบการของ TNCC ย้อนหลัง ดังนี้
ทั้งนี้ TNCC ได้ยื่นไฟลิ่งเตรียมเสนอขายหุ้นจำนวนไม่เกิน 612,451,687 หุ้น โดยมีมูลค่าที่ตราไว้ (Par Value) หุ้นละ 2 บาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
การตัดสินใจนำ TNCC เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงนับเป็นก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพการเติบโตของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต ทั้งในด้านการขยายกำลังการผลิต, การพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และการเสริมความแข็งแกร่งของช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการเติบโตในสเกลที่ใหญ่กว่า และเชื่อมั่นในศักยภาพการขยายตัวของตลาดเครื่องดื่มในภาพรวม ต้องติดตามข่าวสารการเข้าจดทะเบียนของ TNCC อย่างใกล้ชิด
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้