PTT กำไรไตรมาส 1/68 ที่ 23,315 ล้าน ลดลง 19.5% ธุรกิจปิโตรฯ ฉุด กำไรสต๊อกน้ำมันวูบ

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

PTT กำไรไตรมาส 1/68 ที่ 23,315 ล้าน ลดลง 19.5% ธุรกิจปิโตรฯ ฉุด กำไรสต๊อกน้ำมันวูบ

Date Time: 13 พ.ค. 2568 18:09 น.

Video

ทองคำถึงเวลา "ตักตวง" หรือ "เทขาย" ? จบรอบขาขึ้นหรือยัง ? | Night Stand EP.2

Summary

  • PTT รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิเหลือ 23,315 ล้านบาท ลดลง 19.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่ผลการดำเนินงานอ่อนแอลง ขณะที่กำไรสต๊อกน้ำมันลดลงเหลือ 1,500 ล้านบาท จากเดิม 2,600 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวม EBITDA ของบริษัทลดลงถึง 21.2%

Latest


บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น PTT ยักษ์ใหญ่พลังงานของไทย แจ้งผลประกอบการไตรมาส 1/68 กำไรสุทธิเหลือเพียง 23,315 ล้านบาท ลดลงไปถึง 19.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยตัวการหลักที่ฉุดกำไรครั้งนี้ หนีไม่พ้นกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น ที่ผลงานโดยรวมอ่อนแอลงอย่างชัดเจน 

เจาะลึกลงไปถึงสาเหตุ ปรากฏว่าธุรกิจโรงกลั่นเจอศึกหนักจากกำไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ที่ปรับตัวลดลง แถมยังโดนซ้ำเติมจาก Crude Premium ที่สูงขึ้น ขณะที่กำไรจากสต๊อกน้ำมันก็ลดลงไปเหลือเพียงประมาณ 1,500 ล้านบาท จากปีก่อนที่เคยทำได้ถึงประมาณ 2,600 ล้านบาท

กำไร Q1/68 ที่ 23,315 ล้านบาท ลดลง 19.5% จากปีก่อน


บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น PTT รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/68 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในไตรมาส 1/68 ปตท. และบริษัทย่อยมีกําไรจากการดําเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและ ค่าตัดจําหน่าย ต้นทุนทางการเงิน และภาษีเงินได้ (EBITDA) จํานวน 93,527 ล้านบาท ลดลง 25,190 ล้านบาท หรือ 21.2% จากไตรมาส 1/67 ที่จํานวน 118,717 ล้านบาท

โดยหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น โดยธุรกิจ การกลั่นมีผลการดําเนินงานลดลงจากกําไรขั้นต้นจากการกลั่น (Market GRM) ที่ลดลง ประกอบกับ Crude Premium ที่ปรับเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ใน ไตรมาส 1/2568 ปตท. และบริษัทย่อยมีกําไรสต๊อกน้ํามันสุทธิกับมูลค่าสุทธิที่จะได้รับของสินค้าคงเหลือประมาณ 1,500 ล้านบาท ขณะที่ใน ไตรมาส 1/2567 มีกําไรประมาณ 2,600 ล้านบาท

นอกจากนี้ ธุรกิจปิโตรเคมีมีผลการดําเนินงานลดลงโดยหลักจากส่วนต่างราคา ผลิตภัณฑ์กับวัตถุดิบของกลุ่มอะโรเมติกส์ที่ปรับตัวลดลง อีกทั้งกลุ่มธุรกิจสํารวจและผลิตปิโตรเลียมมีผลการดําเนินงานลดลงจาก ราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง และค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีผลการดําเนินงานลดลง เช่นกัน โดยหลักจากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ มีกําไรขั้นต้นลดลงจากต้นทุนขายเพิ่มขึ้นอย่างมากจากผลกระทบของการเริ่มคํานวณต้นทุน ราคาก๊าซฯ ด้วยนโยบาย Single Pool ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 เป็นต้นมา

แม้ว่าปริมาณขายรวมปรับเพิ่มขึ้น ประกอบกับผลการ ดําเนินงานของบริษัทย่อยในกลุ่มธุรกิจก๊าซฯ ปรับลดลง โดยหลักจากบริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จํากัด หรือ PTTLNG เนื่องจากมีการลด สัดส่วนการถือหุ้นในโครงการ LNG Receiving Terminal แห่งที่ 2 หรือ LMPT2 เป็น 50.0% เมื่อวันที่ 30 เม.ย. 2567

กําไรสุทธิ ของ ปตท. และบริษัทย่อยใน ไตรมาส 1/68 มีจํานวน 23,315 ล้านบาท ลดลง 5,653 ล้านบาท หรือ 19.5% จากกําไรสุทธิ จํานวน 28,968 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2567 จาก EBITDA ที่ลดลงตามกล่าวข้างต้น

แม้ว่ากําไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น และขาดทุน จากตราสารอนุพันธ์ลดลง ประกอบกับใน ไตรมาส 1/2568 มีการรับรู้รายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจํา (Non-recurring Items) สุทธิภาษีตามสัดส่วนของ ปตท. เป็นขาดทุนประมาณ 200 ล้านบาท โดยหลักจากส่วนแบ่งผลขาดทุนจากการด้อยค่าสุทธิกับการกลับรายการ ด้อยค่าเงินลงทุนของบริษัท อูเบะ เคมิคอลส์ (เอเชีย) จํากัด (มหาชน) หรือ UCHA ของบริษัท ไออาร์พีซี จํากัด (มหาชน) หรือ IRPC

ขณะที่ ในไตรมาส 1/2567 มีการรับรู้เป็นกําไรประมาณ 4,600 ล้านบาท โดยหลักจากกําไรจากการขายเงินลงทุนใน Alvogen Malta (Out-licensing) Holding Ltd. (AMOLH) ของบริษัท ปตท. โกลบอล แมนเนจเม้นท์ จํากัด หรือ PTTGM


อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ