ไทยน้ำทิพย์ฯ ยื่นไฟลิ่ง เสนอขายหุ้น IPO 612.45 ล้านหุ้น รอปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ไทยน้ำทิพย์ฯ ยื่นไฟลิ่ง เสนอขายหุ้น IPO 612.45 ล้านหุ้น รอปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น

Date Time: 7 พ.ค. 2568 19:06 น.

Video

อย่ากลัว! วิกฤติใหญ่ยังไม่เกิด หาโอกาสลงทุน กับ กวี ชูกิจเกษม | Thairath Money Night Stand EP.21

Summary

"บมจ.ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น (TNCC)" ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายโค้กในไทย ยื่นไฟลิ่งขายหุ้น IPO จำนวน 612.45 ล้านหุ้น เข้า SET นำเงินลงทุนพัฒนาและขยายธุรกิจ

Latest


บริษัท ไทยน้ำทิพย์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TNCC ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 612,451,687 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 2 บาท โดยมี บล.ฟินันซ่า เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยมีวัตถุประสงค์การใช้เงินจากการระดมทุนครั้งนี้ เพื่อใช้ในการลงทุนเพื่อพัฒนาและขยายธุรกิจของบริษัทฯ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไปสำหรับการดำเนินงานของบริษัท

ทั้งนี้ TNCC เป็นผู้นำในตลาดการประกอบธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (Non-Alcoholic Ready-to-Drink หรือ NARTD) ประเภทเครื่องดื่มอัดลม (Carbonated Soft Drinks หรือ CSD) ชั้นนำในประเทศไทย โดยได้รับสิทธิในการจัดเตรียม บรรจุ จัดจำหน่าย และจำหน่ายเครื่องดื่มครอบคลุม 63 จังหวัดจากทั้งหมด 77 จังหวัดในประเทศไทย ภายใต้สัญญาระหว่างบริษัทฯ กับ The Coca-Cola Company และ Schweppes Holdings Limited

อีกทั้งบริษัทยังถือหุ้นทางอ้อม 100% ใน Lao Coca-Cola Bottling Co., Ltd. (LCCB) ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่ม (Bottler) ซึ่งประกอบธุรกิจในประเทศลาวภายใต้สัญญาในลักษณะเดียวกันกับสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับ The Coca-Cola Company และ Schweppes Holdings Limited

โดยเครื่องดื่มที่บริษัทได้รับอนุญาตในการจัดเตรียม บรรจุ จัดจำหน่าย และจำหน่ายในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มในประเทศไทย และ/หรือ ในสปป.ลาว รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์โคคา-โคล่า แฟนต้า สไปร์ท ชเวปส์ มินิทเมด เอแอนด์ดับบลิว (เฉพาะในประเทศไทย) ฟิวซ์ที และน้ำทิพย์

บริษัทยังได้เข้าทำสัญญาหลายฉบับ (เช่น สัญญาซื้อขายหุ้น สัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น และสัญญาจองซื้อหุ้น) กับ CC Cambodia Holdings Pte. Ltd. (CCCH) Coca-Cola Indochina Pte. Ltd. (CCIC) และ Swire Beverages (South East Asia) Pte. Ltd. (SWB) ซึ่งล้วนเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นทั้งหมดโดย Swire Coca-Cola Limited หนึ่งในผู้ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่ม (Bottler) ของ The Coca-Cola Company รายใหญ่ที่สุดในโลก ส่งผลให้ Swire Coca-Cola กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทางอ้อมของบริษัทฯ วัตถุประสงค์เพื่อสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ในประเทศไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ได้เข้าซื้อหุ้น 30% ในบริษัทย่อยของ Swire Coca-Cola ที่เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่ม (Bottler) ในประเทศกัมพูชา และบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเข้าลงทุน 30% ของทุนก่อตั้ง (Charter Capital) ทั้งหมดในบริษัทย่อยของ Swire Coca-Cola ที่เป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่ม (Bottler) ในประเทศเวียดนาม

ในปี 2567 บริษัทได้จำหน่ายเครื่องดื่มที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายจำนวนรวม 404 ล้านยูนิตเคส มีศูนย์กระจายสินค้ามากกว่า 50 แห่ง และโรงงานผลิตเครื่องดื่มจำนวน 5 แห่งในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มในไทย จำนวนพนักงาน (รวมการจ้างแรงงาน Outsource ตามความต้องการในฤดูกาลผลิต) มากกว่า 8,000 คน มีเครือข่ายที่ใช้ในการกระจายเครื่องดื่มที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มที่ให้บริการร้านค้าประมาณ 495,000 แห่งในไทย

มีฐานลูกค้าหลากหลายในไทย ประกอบด้วย (1) ร้านค้าแบบดั้งเดิม เช่น ร้านค้าส่งแบบดั้งเดิม (ร้านยี่ปั๊ว) ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิม (ร้านโชห่วย) เป็นต้น และ (2) ร้านค้าแบบสมัยใหม่ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ไฮเปอร์มาร์เก็ต เช่นเดียวกับในประเทศลาว กลุ่มลูกค้าของ LCCB ประกอบด้วยเครือข่ายร้านค้าและผู้จัดจำหน่ายในลักษณะใกล้เคียงกันกับกลุ่มลูกค้าในประเทศไทยของบริษัทฯ

บริษัทมีโรงงานผลิตเครื่องดื่ม 5 แห่งในไทย สายการผลิต 22 สาย กำลังการผลิตรวมสูงสุด 564 ล้านยูนิตเคสต่อปี และมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งมากกว่า 50 แห่ง ประกอบด้วยคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และรถขนส่งสินค้าที่มีเทคโนโลยีเทเลเมติกส์ (Telematics) และกล้องปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ทันสมัยและยานพาหนะรวมกันมากกว่า 1,500 คันสำหรับประกอบธุรกิจในประเทศไทย ส่วนในลาว โครงสร้างห่วงโซ่อุปทานของ LCCB ประกอบด้วยโรงงานผลิตเครื่องดื่ม 1 แห่ง พร้อมทั้งมีคลังสินค้าและรถขนส่งสินค้า

โครงสร้างผู้ถือหุ้น อันดับ 1 คือ SWB ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งในสิงคโปร์ เป็นบริษัทย่อยของ SWP ที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKSE) ถือหุ้นทั้งหมดทางอ้อมผ่าน Swire Beverage Holdings Limited และ Swire Coca-Cola SWB ถือหุ้น 55.59% ใน TNCC ซึ่ง SWB ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับ Bevsite ซึ่งผู้ถือหุ้นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทยที่ถือหุ้นใน Bevsite มีสิทธิจะขายหุ้น (Put Option) จำนวน 276,342,760 หุ้น ให้แก่ SWB ซึ่งคาดว่าจะทำรายการในวันแรกที่หุ้นของบริษัทฯ เริ่มเทรดผ่านการซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ หากมีการทำรายการดังกล่าวสัดส่วนหุ้นของ SWB หลัง IPO จะลดเหลือ 54.54%

อันดับ 2 คือ TNTL ถือหุ้น 29.95% หลัง IPO จะลดเหลือ 26.95% โดย TNTL เป็นบริษัทโฮลดิ้งส์ที่มีผู้ถือหุ้นในชั้นสุดท้าย คือบุคคลในครอบครัวสารสิน ครอบครัวบุญสูง และครอบครัวเคียงศิริ ผลประกอบการทางการเงินปี 2565-2567 บริษัทมีรายได้รวม 35,989.2 ล้านบาท 39,295.0 ล้านบาท และ 41,314.2 ล้านบาท ตามลำดับ กำไรสุทธิ 3,083.24 ล้านบาท 3,374.41 ล้านบาท และ 4,379.08 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิร้อยละ 8.6 ร้อยละ 8.6 และร้อยละ 10.6 ตามลำดับ โดยรายได้หลักราว 59% มาจากสินค้าโคคา-โคล่า

บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังจัดสรรสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ