หาดทิพย์ รับศึกภาษีความหวาน เปิดแผนลุย “Zero Sugar” ดันยอดขายโตรับเทรนด์สุขภาพ

บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือ HTC หนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่ม “โคคา-โคล่า” ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ กำลังเผชิญกับความท้าทายจากนโยบายจัดเก็บภาษีความหวาน (ภาษีน้ำตาล) ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตอย่างเลี่ยงไม่ได้

แม้บริษัทยังไม่มีแผนปรับขึ้นราคาสินค้าในปีนี้ แต่ต้องจับตาสถานการณ์ต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและผลประกอบการ

และท่ามกลางแนวโน้มผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น “หาดทิพย์” จึงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ไม่มีน้ำตาล (Zero Sugar) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและลดผลกระทบจากภาษีน้ำตาลในระยะยาว

จับตา “ภาษีน้ำตาล” หวั่นกระทบต้นทุน

พลตรี พัชร รัตตกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น HTC เปิดเผยว่า นโยบายการปรับขึ้นภาษีน้ำตาลนั้น กระทบโดยตรงต่อต้นทุนของบริษัทให้เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีแผนการขึ้นราคาสินค้าในปีนี้ และจะไม่ปรับขึ้นหากไม่จำเป็น เนื่องจากจะกระทบต่อผู้ค้ารายย่อย

ทั้งนี้ ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ส่วนราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวขึ้นมาในปัจจุบันนั้น บริษัทจะต้องบริหารจัดการรายได้ให้เติบโตสูงสุด ตั้งแต่การจัดการสายการผลิต ไปจนถึงช่องทางการจัดจำหน่าย

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายการเติบโตผลิตภัณฑ์ประเภท  Zero Sugar มากขึ้น จากจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาขยายได้เป็นอย่างดี โดยปี 2567 สามารถเติบโตได้ถึง 27% จากปีก่อน ส่วนหนึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ผู้บริโภคที่มีการใส่ใจด้านสุขภาพมากขึ้นด้วย

“เราจะจับมือกับโคคา-โคล่าสร้างความเติบโตจากผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ไม่มีน้ำตาล ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วต่อเนื่องมาหลายปี และยังคิดเป็นเพียง 5% ของยอดขายทั้งหมด ซึ่งหมายถึงยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกมาก”

อย่างไรก็ดี การผ่อนปรนมาตรการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของรัฐบาล มองว่าส่งผลทั้งด้านบวกและลบ โดยการขยายเวลาจำหน่ายจะช่วยกระตุ้นยอดขายได้ แต่ในขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องมีแนวทางจัดระเบียบสังคมที่เหมาะสมด้วย ซึ่งบริษัทต้องปรับตัวไปตามสถานการณ์เพื่อให้อยู่รอด

เปิดแผนปี 68 เร่งขยายธุรกิจ ดันยอดขายโต 5-7%

พลตรี พัชร รัตตกุล ระบุว่า ในปี 2568 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่บริษัทฯ เติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยตั้งเป้าอัตราการเติบโตของยอดขายที่ 5-7% และมีรายได้รวมที่ 8,700 ล้านบาท โดยจากการศึกษาของธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าเศรษฐกิจภาคใต้จะขยายตัวมากขึ้นในช่วง 3.1-4.1%

จากผลผลิตเกษตรที่กลับมาขยายตัว ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวและบริการที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงการผลิตเพื่อส่งออกจะขยายตัวตาม อุปสงค์ต่างประเทศที่ปรับดีขึ้น ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นตามไปด้วย

ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ในภาคใต้ จะเดินหน้าพัฒนาการปฏิบัติการในตลาดให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในช่องทางที่กำลังเติบโตรวดเร็วอย่างกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร และคาเฟ่ (HoReca) ซึ่งมีความเหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ขวดแก้วคืนขวดรุ่นใหม่ และยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากจากกระแสการลดใช้พลาสติกของลูกค้า และลุคที่ดูพรีเมียมของขวดแก้วซึ่งเป็นบรรจุภัณฑ์ที่คู่แข่งหลักของเราไม่มี

ปักธงมาร์เก็ตแชร์ปี 2575 แตะ 35% ยอดขายทะลุ 1.5 หมื่นล้าน

ในส่วนของแผนงานระยะกลางและระยะยาว บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะขยายการเดิบโดและ รักษาความเป็นผู้นำในตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ในพื้นที่ภาคใต้ให้ได้อย่างต่อเนื่อง 

ปัจจุบันบริษัทสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเครื่องดื่มพร้อมดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ในพื้นที่ภาคใต้ได้ที่ 25% และมีเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนนี้ให้ได้ถึง 30% ภายในปี 2570 และ 35% ภายในปี 2575 โดยมีรายได้อยู่ที่ 15,000 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี

"ระยะ 10 ปีที่เราตั้งเป้าตามแผนงาน มีปัจจัยระหว่างทางที่ทำให้บริษัทฯ ต้องปรับตัวเพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงมากมาย ซึ่งเราก็สามารถข้ามผ่านสิ่งท้าทายต่างๆ เหล่านั้นมาได้ทุกครั้ง ผมเชื่อมั่นว่ากว่า 55 ปีที่ผ่านมาเป็นบทพิสูจน์แล้วว่า หาดทิพย์จะยืนหยัดทำธุรกิจเคียงคู่กับสังคมภาคใต้และ สังคมไทยด้วยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นปรัชญาในการดำเนินธุรกิจที่บริษัทฯ ยึดมั่นเสมอมา" พลตรี พัชร กล่าวทิ้งท้าย

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney