“นฤชล” ซีอีโอใหม่ GUNKUL วางเป้า 3 ปี รายได้ 3.5 หมื่นล้าน ผลิตไฟฟ้าให้ได้ 2,000 เมกะวัตต์

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

“นฤชล” ซีอีโอใหม่ GUNKUL วางเป้า 3 ปี รายได้ 3.5 หมื่นล้าน ผลิตไฟฟ้าให้ได้ 2,000 เมกะวัตต์

Date Time: 11 มี.ค. 2568 17:27 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

GUNKUL เดินหน้ารับเมกะเทรนด์พลังงานสะอาด เปิดตัว "นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์" นั่งแท่นซีอีโอคนใหม่ ลุยขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 2,000 เมกะวัตต์ พร้อมตั้งเป้ากวาดรายได้ 35,000 ล้านบาท ใน 3 ปี ดันองค์กรสู่การเป็นพาร์ตเนอร์พลังงานสีเขียวระดับเอเชีย

Latest


ธุรกิจพลังงานสะอาดเป็นเมกะเทรนด์ที่ทั่วโลกจับตามอง ขณะที่ประเทศไทยกำลังเร่งลดการพึ่งพาพลังงานฟอสซิล และเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็น 51% ภายในปี 2580 ซึ่งหมายถึงโอกาสมหาศาลสำหรับธุรกิจที่สามารถเติบโตไปกับแนวโน้มดังกล่าว

ล่าสุด GUNKUL หนึ่งในผู้นำด้านพลังงานสะอาดของไทย เปิดตัว "นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์" ซีอีโอคนใหม่ พร้อมเผยวิสัยทัศน์พาองค์กรสู่การเป็นพาร์ตเนอร์พลังงานสีเขียวระดับเอเชีย โดยตั้งเป้าขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 2,000 เมกะวัตต์ และสร้างรายได้รวม 35,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปี

เปิดวิสัยทัศน์ “ซีอีโอ” คนใหม่

นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าเป็นพาร์ตเนอร์ที่ได้รับการยอมรับสูงสุดด้านพลังงานสีเขียวและโครงสร้างพื้นฐานแห่งภูมิภาคเอเชีย พร้อมมีเป้าหมายที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตให้เกิดขึ้น โดยใช้ธุรกิจหลักเป็นจุดตั้งต้นในการต่อยอดในอนาคต

ปัจจุบันตลาดพลังงานสีเขียวมีแนวโน้มเติบโตสูงมาก หากไปดูแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) จะพบว่าภาครัฐกำลังลดบทบาทของพลังงานฟอสซิลลง และเพิ่มบทบาทของพลังงานสะอาดขึ้นเป็น 51% ภายในปี 2580 ซึ่งต้องการโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงและพลังงานลมอีกประมาณ 30,000 เมกะวัตต์ คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมทั้งหมดกว่า 1 ล้านล้านบาท และจะเกิดการลงทุนอีกกว่า 70,000-80,000 ล้านบาท

“ตลาดอุตสาหกรรมนี้จะค่อยๆ เปลี่ยนบริบทไป จากเดิมที่ลูกค้าคนสำคัญของเราคือการไฟฟ้า แต่ปัจจุบันเราใกล้ชิดกับผู้ใช้ไฟฟ้ามากขึ้น เราจึงอยากปรับบทบาทใหม่ สู่การเป็นพาร์ตเนอร์ที่จะพัฒนาพลังงานสะอาดร่วมกับลูกค้าที่จะเกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต” นฤชล กล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้อุตสาหกรรมพลังงานสะอาดจะมีขนาดใหญ่ แต่ก็มีผู้เล่นรายใหม่เข้ามาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ส่งผลให้การแข่งขันสูงขึ้น ดังนั้น เพื่อบรรลุผลลัพธ์ทางธุรกิจ บริษัทได้แตกส่วนของกลยุทธ์ออกเป็น 3 แนวทางด้วยกัน ได้แก่

  • Build Business Muscles - สร้างกล้ามเนื้อทางธุรกิจที่แข็งแรงทั้งธุรกิจเดิมและธุรกิจในอุตสาหกรรมใหม่ที่สามารถสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน
  • Trim Operational Fat - ปรับธุรกิจให้มีความคล่องตัวมากขึ้น ลดขั้นตอนและต้นทุนการดำเนินงานที่ไม่จำเป็นออก และโฟกัสเรื่องของการนำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการโรงไฟฟ้าแบบ 100%
  • Create Stakeholder Impact - สร้างกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการดูแลทุกภาคส่วนอย่างเหมาะสม

เปิดแผน 3 ปี กวาดรายได้ 35,000 ล้านบาท

นฤชล กล่าวว่า สำหรับปี 2568 นี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% โดยรายได้รวมใน 3 ปี จะเติบโตกว่า 35,000 ล้านบาท จากการเดินหน้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดอย่างต่อเนื่อง โดยวางงบลงทุนไว้ที่ 12,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าว่ากำลังการผลิตรวมจะอยู่ที่ 2,000 เมกะวัตต์ ภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปัจจุบันอยู่ที่ 1,479 เมกะวัตต์ ซึ่งจะมาจากการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าทั้งในไทยและต่างประเทศ ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการพัฒนาและจะทยอยจ่ายไฟเข้าระบบ (COD) ปัจจุบันมีอยู่ราว 832 เมกะวัตต์

นอกจากนี้ บริษัทมีแผนศึกษาการลงทุนโรงไฟฟ้าในต่างประเทศเพิ่มเติม ในประเทศที่เปิดโอกาสให้บริษัทต่างชาติลงทุนด้านพลังงานสะอาด เช่น เวียดนาม ไต้หวัน และฟิลิปปินส์ โดยจะเป็นรูปแบบการลงทุนร่วมกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ

เมื่อธุรกิจโรงไฟฟ้ามีการเติบโตขึ้นในอนาคต ประเมินว่าในกรอบ 3 ปีข้างหน้า สัดส่วนกำไรขั้นต้นจากธุรกิจโรงไฟฟ้าจะปรับตัวขึ้นไป 70% จากเดิม 65% ส่วนธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและธุรกิจผลิต-จำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าจะมีสัดส่วนอยู่ที่ 15%

ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานรอรับรู้รายได้ (backlog) กว่า 3,800 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปี 2568 ราว 2,500 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทเดินหน้าที่จะหา backlog เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับธุรกิจใหม่ๆ หรือ New S-curve อยู่ระหว่างมองหาอุตสาหกรรมใหม่ๆ ที่ไม่จำกัดแค่พลังงาน แต่กำหนดชัดเจนว่าต้องเป็นอุตสาหกรรมที่อยู่ในเทรนด์ความสนใจของประเทศ ได้แก่ ศูนย์ข้อมูลสีเขียว หรือ Green Data Center และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ (Infrastructure Development) ซึ่งต่างเป็นพื้นที่ทางธุรกิจใหม่ทั้งคู่ที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายภาครัฐ

รวมไปถึงการทำ Co-investment สร้างความร่วมมือด้านการลงทุนร่วมกับพันธมิตรบริษัทในไทยและบริษัทต่างชาติเพื่อให้เกิด Green S-curve อื่นๆ ต่อไป เพื่อพุ่งไปสู่เป้าหมายรายได้ในกรอบ 3 ปีที่ตั้งไว้

รัฐบาลลดค่าไฟ “ไม่กระทบ”

นฤชล ชี้ให้เห็นว่า นโยบายการปรับลดค่าไฟฟ้าของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือประชาชนนั้น จะไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัท เนื่องจากรัฐบาลเน้นไปที่การกำหนดราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับโรงไฟฟ้า (pool gas) เพื่อช่วยลดภาระค่าไฟของประชาชน

ขณะเดียวกัน พอร์ตโฟลิโอโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ของบริษัทอยู่ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟแบบราคาคงที่ (Feed-in Tariff) ซึ่งจะคงที่ตลอดอายุโครงการ ทำให้ไม่มีผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว

ในส่วนของผลกระทบจากนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มองว่า "โลกร้อนไม่มีจริง" นั้น นฤชล ระบุว่า แนวโน้มของโลกยังคงให้ความสำคัญกับพลังงานสีเขียว และเป็นทิศทางที่ไม่สามารถหยุดยั้งได้

อย่างไรก็ตาม หากสหรัฐฯ ผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นในอนาคต อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลง และส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) ซึ่งอาจมีผลบางส่วนต่อธุรกิจของบริษัทเท่านั้น

เปิดประวัติ “นฤชล ดำรงปิยวุฒิ์”

นฤชล นับเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ของ GUNKUL อายุ 41 ปี จบการศึกษา ปริญญาตรี สาขาวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ (MBA) มหาวิทยาลัยบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ปริญญาโท สาขาศิลปศาสตรการบริหาร มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกา

มีประสบการณ์ทำงานในบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 2559 ดังนี้

  • ปี 2568 - ปัจจุบัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ เลขานุการคณะกรรมการบริษัท
  • ปี 2568 - ปัจจุบัน รักษาการประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจพลังงานและกลยุทธ์การลงทุน
  • ปี 2552 - ปัจจุบัน กรรมการบริษัท และ กรรมการบริหาร
  • ปี 2564 - ปี 2568 ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจพลังงานและกลยุทธ์การลงทุน
  • ปี 2559 - ปี 2564 ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานวางแผนกลยุทธ์และการลงทุน

นอกจากนี้ ยังได้รางวัล Women in Power Award 2020 โดย สมาคมสถาบันวิศวกรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ IEEE Power & Energy Society – Thailand ในปี 2563 รางวัล สตรีนักบริหารภาคเอกชนดีเด่น ประจำปี 2021 โดย กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในปี 2564 และรางวัล Best Emerging Women COO in Sustainable Energy โดย The Global Economics Awards 2565 ในปี 2565

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ