
วานนี้ (18 ก.พ.) CPAXT หรือ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการปี 2567 มีกำไรสุทธิเติบโตกว่า 22.3% ที่ 10,563 ล้านบาท ด้านราคาหุ้น CPAXT ล่าสุด วันนี้ (19 ก.พ.) อยู่ที่ 28 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ +1.82% จากราคาปิดวันก่อนหน้า
ก่อนหน้านี้ CPAXT เผชิญดราม่าในประเด็นการลงทุนโครงการ “The Happitat” เป็นมิกซ์ยูสระดับพรีเมียม ส่วนหนึ่งของโครงการ “The Forestias” อภิมหาโปรเจ็กต์อสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มซีพี มูลค่ากว่า 1.25 แสนล้านบาท ซึ่งหลายฝ่ายตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของดีลนี้ พร้อมวิจารณ์ถึงต้นทุนที่สูงซึ่งจะมีผลกระทบต่อกระแสเงินสดหรือไม่ ทำให้ราคาหุ้นช่วงปลายปีก่อนลดลงอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งกรณีดังกล่าว CPAXT ก็ได้ออกมาชี้แจงอย่างชัดเจนว่า จะมีการลงทุนโครงการดังกล่าวผ่านบริษัทย่อย มูลค่า 8 พันล้านบาท ซึ่งมีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ รวมถึงเป็นการต่อยอดธุรกิจในส่วนของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสานด้วย
ขณะที่กระแสข่าวลือเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในการเข้าลงทุนในบริษัทค้าปลีกของประเทศญี่ปุ่น หรือ “Seven & i Holdings” บริษัทแม่ของเซเว่นอีเลฟเว่นนั้น CPAXT ออกประกาศผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว โดยชี้แจงว่า “บริษัทไม่ได้มีแผนงานในการเข้าร่วมการลงทุนดังกล่าวแต่อย่างใด”
ล่าสุด CPAXT กลับมาเรียกความเชื่อมั่นคืน หลังประกาศผลประกอบการปี 2567 ออกมาแข็งแกร่ง โดยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 512,042 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,093 ล้านบาท หรือ 4.5% จากปีก่อน โดยมีรายได้จากการขายสินค้าจำนวน 488,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22,627 ล้านบาท หรือ 4.9% จากปีก่อน
หนุนจากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ภายใต้แบรนด์ "Makro" และ "Lotus's" ซึ่งได้รับอานิสงส์จากยอดขายสินค้าอาหารสด สินค้าพร้อมปรุง และการขยายสาขาพร้อมกลยุทธ์ Omni Channel
สำหรับปี 2567 มีกำไรสุทธิ 10,569 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,929 ล้านบาท หรือ 22.3% จากปีก่อน หากไม่รวมรายการปรับปรุง กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 10,837 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,060 ล้านบาท หรือ 23.5% จากปีก่อน ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้นที่เติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่ลดลง จากการปรับโครงสร้างเงินกู้ยืมของกลุ่มค้าปลีก
ขณะที่แนวโน้มผลงานในปี 2568 นี้ CPAXT ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นกลยุทธ์ในการเติบโตของธุรกิจที่ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งการขยายสาขาทุกรูปแบบ การเพิ่มประสิทธิภาพจากการขาย Omni Channel และการสร้างศูนย์การค้าให้เป็นศูนย์กลางชุมชนที่รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัย เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และมูลค่าเพิ่มในสินทรัพย์ได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทฯ มุ่งพื้นที่เช่าและปรับโฉมสาขา พร้อมทั้งการบริหารพื้นที่ศูนย์การค้าให้เป็นศูนย์กลางชุมชน ที่รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทของคนทุกวัย โดยเฉพาะสาขาในย่านธุรกิจเมืองหลักและพื้นที่กำลังพัฒนาที่มีศักยภาพในการเติบโต ผ่านการนำเสนอในรูปแบบและขนาดตามความต้องการของกลุ่มลูกค้าในแต่ละพื้นที่
บริษัทฯ เน้นย้ำการนำเสนอสินค้าคุณภาพดีในราคาคุ้มค่า พร้อมทั้งเพิ่มสัดส่วนกลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private label) และสินค้าแบรนด์ในราคาที่คุ้มค่าที่มีจำหน่ายเฉพาะที่แม็คโครและโลตัส (Exclusive brand) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาด และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้วย
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ประเมินว่า แนวโน้มผลประกอบการปี 2568 จะมีอัตรากำไรจะสูงขึ้นจากปีก่อน จากสัดส่วนที่มากขึ้นของผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงในยอดขาย และผลประโยชน์จากการควบรวมกิจการ Makro และ Lotus’s จะถูกรับรู้มากขึ้น เพื่อช่วยให้กำไรเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม กำไรในไตรมาส 1/68 คาดจะอ่อนแอตามฤดูกาลสำหรับ CPAXT เมื่อตรวจสอบกับผู้บริหารพบว่า อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมในเดือน ม.ค. จะอยู่ที่ 1-2% สำหรับ Makro ประเทศไทย และ 3-5% สำหรับ Lotus's
ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรหลักปี 2568 ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 18% จากปีก่อน คงคำแนะนำ “ซื้อ” CPAXT อิงจากคาดการณ์การเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่งในปี 2568 นอกจากนี้ คาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสำหรับครึ่งหลังของปี 2567 ที่ 1.9% จะช่วยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้นด้วย
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า CPAXT รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 4 พันล้านบาท โต 21% จากปีก่อน และโต 103% จากไตรมาสก่อน ใกล้เคียงกับที่เราคาด ผลจากยอดขายที่โต 4% จากปีก่อน หนุนจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ขยายตัว 70 bps จากการขายอาหารสดและการเพิ่มสัดส่วน Private label รวมถึงการลดการขายสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำ แม้ว่าค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเติบโตของ Omni Channel ทำให้ทั้งปี 2567 มีกำไรสุทธิแตะ 1 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 22%
และคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่มูลค่าพื้นฐาน 33.00 บาท แนวโน้มการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ช่วงเดือนมกราคม 2568 ของทั้ง Makro และ Lotus's ที่สดใสต่อเนื่อง ระดับ +3% ถึง +6% จากยอดขายอาหารสดที่โตดีต่อเนื่อง คาดกำไรทั้งปีอยู่ที่ 12,526 ล้านบาท
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney