หุ้นไทยไปต่อ ลุ้นแตะ 1550 จุด  ผันผวนสูงแต่พื้นฐานดี จี้ทางการ เร่งออกมาตรการฟื้นความเชื่อมั่น

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

หุ้นไทยไปต่อ ลุ้นแตะ 1550 จุด ผันผวนสูงแต่พื้นฐานดี จี้ทางการ เร่งออกมาตรการฟื้นความเชื่อมั่น

Date Time: 22 ม.ค. 2568 13:02 น.

Video

“SOURI” อาณาจักรขนม วิน-เมธวิน | Brand Story Exclusive EP.6

Summary

  • InnovestX มองหุ้นไทยพื้นฐานดี คาดพลิกฟื้นแตะ 1,550 จุด ปี 2025 แม้เศรษฐกิจโลกผันผวนหนัก จี้หน่วยงานกำกับออกมาตรการเรียกคืนความเชื่อมั่น หนุนมาตรการกระตุ้นรัฐ

Latest


สุกิจ อุดมศิริกุล กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด วิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจและกลยุทธ์การลงทุนปี 2568 ในงาน SCB WEALTH Holistic Experts ในหัวข้อ “Tomorrow’s Wealth: Key Investment Trends Defining 2025

โดยมองว่าภาพรวมการลงทุนในปี 2025 จะมี “ความผันผวนสูง ผลตอบแทนต่ำ” จึงประเมินว่ากลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมสำหรับปี 2025 คือ “การลงทุนแบบเก็งกำไร (Trading)” โดยเน้นไปที่หุ้นที่มีอัตราการเติบโตดีและมีปัจจัยภายในประเทศสนับสนุน ซึ่งจะทำให้สามารถลดความผันผวนจากความท้าทายสำคัญในปี 2025 ได้แก่ 1) นโยบายด้านเศรษฐกิจและการเมืองโลกของนายโดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในอีก 4 ปีข้างหน้า 2) ตลาดการเงินโลกจะผันผวนมากขึ้นไปตามกระแสของข้อมูลข่าวสารที่คาดว่าจะมีความถี่เพิ่มขึ้นมาก หากพิจารณาจากพฤติกรรมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายอีลอน มัสก์ ที่มักจะใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางหลักในการสื่อสาร 3) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แม้ว่ายังมีแนวโน้มสดใส แต่ Valuation ของหุ้นที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยแล้ว ทำให้มีโอกาสเกิดการปรับตัวลดลงได้ หากเกิดเหตุการณ์ที่ผิดคาด โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี 4) เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับ 2 ปัญหาใหญ่ คือ ระดับหนี้สูง และผลกระทบจากอาภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง 5) ผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่าจะส่งผลให้เกิด Currency war ส่วนปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนตลาดการเงิน ได้แก่ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของหลายๆ ประเทศ เช่น จีน เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ

ทั้งนี้ในปี 2024 ตลาดหุ้นไทยต้องเผชิญกับวิกฤติความเชื่อมั่น เนื่องจากการกำกับดูแลที่อ่อนแอลง สะท้อนจากค่าเฉลี่ยของ SET Index ที่ต่ำกว่าระดับ 1,500 จุด และปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดลงเหลือประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 9 ปี นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องจากปี 2566 รวมกันกว่า 3 แสนล้านบาท แม้ว่า SET Index จะสามารถฟื้นตัวได้ดีในเดือนกันยายนจากการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหญ่ และการเปิดขายกองทุนวายุภักษ์

อย่างไรก็ตาม InnovestX มองว่าภาพรวมตลาดหุ้นไทยปี 2025 มีโอกาสฟื้นตัวไปสู่ระดับ 1550-1600 จุด หรือมี Upside ราว 7-10% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของผลการดำเนินงานบริษัทจดทะเบียน และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ทั้งนี้หน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น ก.ล.ต., ตลท. จะต้องร่วมกันยกระดับแนวทางกำกับดูแลเพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่นนักลงทุน เช่น การหานโยบายตั้งรับความผันผวนจากสหรัฐฯ ตอบสนองความคาดหวังของตลาด ในขณะที่ตลาดหุ้นทั่วโลกคาดว่าจะให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ย 10%-15%

ทั้งนี้ต้องติดตามความเสี่ยงที่มีผลต่อการลงทุนในตลาดหุ้นไทย จากปัจจัยภายนอก เช่น การใช้นโยบายการค้าและภาษีสินค้านำเข้าของสหรัฐฯ ภาวะเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวช้า และความกังวลเรื่องเงินเฟ้อและแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ไม่ชัดเจน รวมทั้งปัจจัยในประเทศอย่างเสถียรภาพทางการเมือง

ดังนั้น InnovestX จึงยังคงมุมมองระมัดระวังต่อการลงทุนในปี 2025 โดยเชื่อว่าการกระจายพอร์ตลงทุนในหลากหลายธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจะช่วยให้นักลงทุนสามารถ Outperform ตลาดได้ โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนโดดเด่น จะเป็นกลุ่มที่มีสัดส่วนรายได้ภายในประเทศสูงและเป็นกลุ่มเชิงรับ อาทิเช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มการแพทย์และกลุ่มพาณิชย์ สำหรับหุ้นแนะนำแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ 1) Value stock ได้แก่หุ้น AOT, BBL และ CPALL 2) Dividend stock ได้แก่หุ้น AP, BCP และ LHHOTEL 3) Laggard stock ได้แก่หุ้น BCH, GPSC และ HMPRO และ 4) Mid-small cap growth ได้แก่หุ้น AMATA, AU และ INSET

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ