STA หุ้นยางพารา วิ่งทะลุ 18% EUDR กฎหมายป้องกันตัดไม้ยุโรป ดันราคายางขึ้น ลุ้นปีนี้พลิกกำไร

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น STA ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง ปิดตลาดช่วงเช้าราคาอยู่ที่ 23.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.70 บาท หรือ +18.69% จากราคาปิดวันก่อนหน้า โดยนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ คาดผลการดำเนินงานปีนี้พ้นจุดต่ำสุด และสามารถพลิกมีกำไรได้ จากราคายางที่ดีขึ้น และธุรกิจถุงมือยางที่ยอดขายฟื้นตัว

บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดแนวโน้มการดําเนินงานช่วงที่เหลือของปีผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยคาดว่า ปี 2567 ธุรกิจยางได้ผลบวกจากราคายางเพิ่ม โดยเฉพาะการขายยางมาตรฐาน EUDR เพิ่มขึ้น ส่วนธุรกิจถุงมือยางคาดจะดีขึ้นจากปริมาณขายเพิ่มและราคาขายเฉลี่ยเพิ่มขึ้นเช่นกัน

ทั้งนี้ คาดว่าการดําเนินงานจะพลิกกลับมากําไร 2,681 ล้านบาท เติบโต 717% จากปีก่อนขาดทุน 434 ล้านบาท ภายใต้ปริมาณขาย 1.49 ล้านต้น ราคาขายเฉลี่ย 59.50 บาท ต่อกิโลกรัม

ขณะเดียวกัน ประเมินว่าแนวโน้มไตรมาส 2/67 จะฟื้นต่อเนื่อง แม้ปริมาณขายจะทรงตัวก็ตาม แต่ทว่าราคาขายเฉลี่ยคาดเพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อน ขณะที่ราคาวัตถุดิบคาดจะลดลงจากเป็นสต๊อกที่ชื้อมาตั้งแต่ไตรมาส 4/66 ทําให้คาดจะได้ผลบวกมากขึ้น

ในส่วนยางมาตรฐาน EUDR นั้นคาดจะเริ่มส่งในเดือน มิ.ย. ราว 10,000-15,000 ตัน และจะทยอยขายมากขึ้นในช่วงไตรมาสถัดไป โดยเป้าปริมาณขายปีนี้ยังคงที่ 1.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 14.5% จากปีก่อน ส่วนเป้าการขายยาง EUDR นั้นคาดสิ้นปี 2567 จะอยู่ที่ 50% ของปริมาณขายยาง และเพิ่มเป็น 80% ในปี 2568

นอกจากนี้ ยังได้ผลบวกจากการเป็น 1 ใน 2 ของตลาดฯ ที่ผ่าน มาตรฐานของผู้ผลิตยางรายใหญ่ในยุโรปเพื่อการขายยางมาตรฐาน EUDR คาดว่าปัจจัยที่กล่าวข้างต้นจะสะท้อนไปที่การดําเนินงานให้กลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้ง

โดยมาตรฐาน EUDR มีผล 31 ธ.ค. 2567 สหภาพยุโรปประกาศใช้กฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ ทําลายป่า โดยกําหนดให้การส่งออกและนําเข้าสินค้า กลุ่มของสหภาพยุโรป ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ํามัน วัว ไม้ กาแฟ โกโก้ และถั่วเหลือง รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปจาก สินค้าเหล่านี้ เช่น ถุงมือยาง กระดาษ และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ต้องผ่านการตรวจสอบและรายงานที่มาของสินค้าว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทําลายป่า หรือการทําให้ป่าเสื่อมโทรม ซึ่งกฎนี้จะมีผล 31 ธ.ค. 2567 ผู้บริหารแจ้งว่ามีเพียงไทยและไอวอรี่โคสต์ ที่ผ่านมาตรฐานดังกล่าว โดยยุโรปนําเข้ายาง 30% จากตลาดโลก (เทียบเท่า 4 ล้านตันต่อปี)

สำหรับประเทศไทยคาดจะมีศักยภาพการส่งออก จากเป็นผู้ผลิตยางอันดับ 1 ของโลก ประกอบกับผู้ประกอบการในไทย เป็นผู้ส่งออกให้กับผู้ผลิตยางล้อรายใหญ่หลายราย และร่วมกันทํามาตรฐานเพื่อรองรับ EUDR แล้ว โดยเฉพาะ 3 รายใหญ่คือ คอนติเนนทัล, มิชลิน และพิลลารี่

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney