ส่องอนาคตหุ้น LH ปันผลสูง..แต่ราคาไม่ไปไหน โบรกฯ ชี้กำไรพ้นจุดต่ำสุดแล้ว

บริษัท แลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น LH ผู้พัฒนาโครงการที่พักอาศัย หนึ่งในหุ้นที่ให้ปันผลสูง และสามารถทำกำไรได้ต่อเนื่อง ทำให้นักลงทุนหลายคนต่างให้ความสนใจ แต่ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา อาจไม่เป็นไปอย่างที่นักลงทุนคาดหวังนัก

โดยราคาหุ้น LH ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 7.15 บาท จาก 9.60 บาท หรือลดลงกว่า 25.52% ในภายในเวลาเพียงปีเดียวเท่านั้น วันนี้ “Thairath Money” จะพาทุกคนไปหาคำตอบว่า ทิศทางผลประกอบการของ LH จะเป็นอย่างไร และราคาที่ปรับตัวลดลงมาจะเป็นโอกาสของนักลงทุนหรือไม่

หากสำรวจจากความเห็นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ จากข้อมูลสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA Consensus) จะพบว่ามีบริษัทหลักทรัพย์ถึง 9 แห่ง ให้คำแนะนำ “ซื้อ” ส่วนอีก 3 แห่ง แนะนำ “ถือ” โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2567 สูงสุดที่ 10.00 บาท ส่วนราคาเป้าหมายต่ำสุดอยู่ที่ 7.95 บาท

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 1/67 ทรงตัวทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้มีแรงหนุนจากสินค้าพร้อมขายแนวราบระดับบนที่เปิดตัวช่วงปลายไตรมาส 4/66 จำนวนมาก อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวโครงการแนวราบใหม่ ไตรมาส 1/67 จะอยู่ปลายไตรมาสเป็นหลัก

ทั้งนี้ คงประมาณการปี 2567 คาดกำไรปกติ 6.9 พันล้านบาท หรือเติบโต 21.3% จากปีก่อนเพราะฐานต่ำ หลังมีโครงการแนวราบเปิดใหม่ Segment ระดับบนเพิ่มขึ้น (ราคาเฉลี่ยมากกว่า 15 ล้านบาท/หน่วย) พร้อมกับการรับรู้รายได้เต็มปีของโรงแรม Grande Centre Point สุรวงศ์ ที่เปิดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 และการระบายสินค้าพร้อมขาย ซึ่ง ณ สิ้นไตรมาส 4/66 บริษัทฯ มีสินค้าพร้อมขายพร้อมโอนมูลค่ารวมกว่า 6.8 หมื่นล้านบาท

อย่างไรก็ดี คงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเหมาะสม 8.60 บาทต่อหุ้น เชิงกลยุทธ์ประเมินว่าในระยะสั้นราคาหุ้นยังขาดปัจจัยบวกหนุน ยกเว้นนักลงทุนระยะกลาง-ยาวที่คาดหวังผลตอบแทนจากเงินปันผล โดยบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลงวดการดำเนินงานครึ่งหลังของปี 2566 ที่ 0.30 บาท/หุ้น คิดเป็น Dividend Yield ที่ 4% และจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พฤษภาคม 2567

ด้านบทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ระบุว่า LH ตั้งเป้าฟื้นตัวอย่างมีนัยสําคัญในปี 2567 โดยเชื่อว่ากําไรปกติทําจุดตํ่าสุดไปแล้วในปี 2566 ขณะที่ backlog ในปัจจุบันอยู่ที่ 7.2 พันล้านบาท โดย 28% จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567 และส่วนที่เหลือจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2569-2570

ด้วยความต้องการที่อยู่อาศัยที่คาดว่าจะฟื้นตัวในปี 2567 รวมถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจให้เช่า จึงคาดการณ์รายได้ปี 2567 ที่ 3.5 หมื่นล้านบาท โต 32.7% แต่คาดการณ์กําไรสุทธิปี 2567 ที่ 7.1 พันล้านบาท หดตัว 4.5% จากปีก่อน ทั้งนี้บริษัทวางแผนขายศูนย์การค้าแห่งหนึ่งให้กับ REIT ซึ่งยังไม่ได้นํามารวมไว้ในประมาณการณ์ของเรา

สําหรับผลประกอบการไตรมาส 1/67 คาดว่ายอด presales จะเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการเปิดใหม่ที่ได้กระแสตอบรับที่ดี เช่น นันทวัน บางนา กม.15 ซึ่งทําอัตราการขายได้ 10% ในช่วงเปิดตัวโครงการ ส่งผลทําให้ยอด presales ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 4 พันล้านบาท เติบโต 30% ดังนั้นคาดกําไรปกติจึงน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน

อย่างไรก็ตาม คงคําแนะนํา “ถือ” ให้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 9 บาท โดยยังคงคําแนะนํา tactical call ไว้ที่ “NEUTRAL” คิดเป็น P/E ที่ 14.9 เท่า เงินปันผลสําหรับงวดครึ่งหลังปี 2566 อยู่ที่ 0.30 บาท/หุ้น (XD วันที่ 3 พ.ค.) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 4%

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่

https://www.thairath.co.th/money/investment

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้

https://www.facebook.com/ThairathMoney