ตลาดหุ้นไทยอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก หลังจากดัชนีปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง จากความเชื่อมั่นที่ถดถอย ทั้ง ปัญหา SHORT SELL และ Algorithmic Trading ที่อาจเข้ามากระทบกับการซื้อขายหุ้น ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่น และออกจากตลาด
ส่งผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 3-4 หมื่นล้านบาท โดยนักวิเคราะห์ มองว่า การที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เตรียมเพิ่มกลไกควบคุม Short Selling-Program Trading เพื่อยกระดับการซื้อขาย อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนอีกครั้ง โดยมองจุดทริกเกอร์สำคัญ คือ มูลค่าการซื้อขาย ต้องกลับไปเหนือ 5 หมื่นล้านบาท จะช่วยพลิกตลาดหุ้นให้ฟื้นตัว
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส เปิดเผยว่า SHORT SELL จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิด จากทางการ Algorithmic Trading หรือที่เรียกว่าโปรแกรมเทรดอัตโนมัติ หรือโรบอตเทรด หรือ High-Frequency Trading (HFT) จากนักลงทุนต่างประเทศ ถูกมองว่าเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยผันผวน และ ทำให้มูลค่าซื้อขายตลาด ของนักลงทุนในประเทศที่เบาบางอย่างมีนัยฯ ตั้งแต่เดือน ก.ย. 66 โดยสัดส่วนการซื้อขายผ่านระบบ ALGO TRADE ที่สูงขึ้นเป็น 35% ของการซื้อขายทั้งหมดในตลาดฯ (ซึ่งค่าเฉลี่ยก่อน หน้านี้อยู่ที่ระดับ 20%-30% เท่านั้น) และทำให้ต่างชาติมีสัดส่วนการซื้อขายหุ้นไทยสูงถึง 50.8% สูงกว่านักลงทุนรายย่อย + พอร์ตโบรกเกอร์ + นักลงทุนสถาบันฯ ที่มี สัดส่วนรวมกันอยู่ที่ 49.2% เท่านั้น
ล่าสุด ตลท. เตรียมเพิ่มกลไกควบคุม Short Selling-Program Trading เพื่อ ยกระดับการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้มีความโปร่งใส และเสริมสร้างความเป็น ธรรมของผู้ลงทุนทุกประเภท เบื้องต้น ตลท.จะมีการดำเนินการใน 4 ด้าน ดังนี้
1. การควบคุม (Control) : การเพิ่มกลไกการควบคุม Program Trading และลด ความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ ทั้งในภาพรวมและในกรณี Short Selling อาทิ การกำหนดแนวทางในการติดตามการทำธุรกรรม Short Selling หรือ การมีกลไกควบคุมราคาเพื่อลดความผันผวนของราคาหลักทรัพย์
2. การรายงาน (Reports) : การปรับปรุงรายงาน Short Selling เพื่อให้ทราบถึง รายละเอียดและการติดตามได้ง่ายขึ้น รวมถึงการเปิดเผยต่อสาธารณชน
3. การติดตามและการบังคับใช้กฎเกณฑ์ (Monitoring & Enforcement) : โดย การเน้นย้ำความคาดหวังต่อบริษัทสมาชิกในการดูแลให้ผู้ลงทุนปฏิบัติตามเกณฑ์ รวมทั้งปรับบทลงโทษให้มีความเข้มข้น
4. การแบ่งความรับผิดชอบ (Responsibility) : ซึ่งจะมีการนำเสนอกำหนด ขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบของหน่วยงานกำกับดูแลและตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการดูแลการทำ Short Selling และ Program Trading ให้ สอดคล้องกับสากล เพื่อให้หน่วยงานกำกับดูแลสามารถลงโทษต่อผู้กระทำผิดได้โดยตรงและรวดเร็ว
กระบวนการแก้ไขปัญหาของตลท. ที่เกิดขึ้นคาดเป็นปัจจัยหนุนให้ความเชื่อมั่นของนัก ลงทุนทยอยกลับมาอีกครั้ง และหนุนให้มูลค่าซื้อขายกลับมาคึกคักขึ้น โดยฝ่ายวิจัยฯ เคยประเมินมูลค่าซื้อขายตลาดต้องเกิน 5 หมื่นล้านบาท หรือ TURNOVER สูงเกิน 70% ต่อปี จึงจะเพียงพอที่จะผลักดันให้ SET INDEX ปรับตัวขึ้น
สรุป ปัญหา Short SELLING-PROGRAM TRADING อาจได้รับการรับการแก้ไขที่ดี ขึ้นจาก ตลท. คาดเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนได้เป็นอย่างดี และหนุนให้ SET index แกว่งทรงตัวในขาขึ้นได้ในระยะถัดไป โดยคาดกรอบการเคลื่อนไหวไว้ที่ระดับ 1,385-1,397 จุด
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้