ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 7 ก.พ.67 ปิดที่ 1,400.02 จุด บวก 3.06จุดมีมูลค่า ซื้อขาย 45,570.86 ล้านบาท ต่างชาติขายสุทธิ 2,006.40 ล้านบาท
บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุ หลังคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน (กนง.) มีมติไม่เอกฉันท์ มี 5 เสียงให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% ตามเดิม แต่มี 2 เสียงหนุนการลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% มองเป็น Dovish (ยืดหยุ่น) อ่อนๆ หนุนโอกาสการลดดอกเบี้ยในการประชุมช่วงที่เหลือของปี 67 เร็วขึ้น
นอกจากนี้ยังมีมุมมองเป็นบวกต่อ SET Index และบวกต่อกลุ่มที่ได้ประโยชน์วงจรดอกเบี้ยขาลง อาทิ กลุ่มเช่าซื้อ เน้น SAWAD กลุ่ม Growth เน้น BBIK, INSET กลุ่มโรงไฟฟ้า เน้น GPSC กลุ่มหนี้สูง เน้น MINT, TRUE กลุ่มอิงบริโภค CPAXT, CPALL
ด้าน บล.เอเซียพลัส ประเมินมี 4 เรื่อง ที่หนุนให้ Fund Flow ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยคือ 1.แรงขายหุ้นไทยจากต่างชาติเริ่มจำกัดมากขึ้น คือต่างชาติเคยซื้อสุทธิหุ้นไทยปี 64 กว่า 2 แสนล้านบาท แต่เริ่มขายสุทธิออกมาจนเกือบหมดช่วงกลางเดือน ธ.ค.66 จากความกังวลเศรษฐกิจไทยฟื้นได้ช้ากว่าที่คาดมาก แต่ด้วยมูลค่าที่ต่างชาติซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นปี 64 ถูกขายจนเกลี้ยงพอดี น่าจะช่วยหนุนให้แรงขายต่อจากนี้จำกัดมากขึ้น
2.ยังมีช่องว่างให้ Fund Flow ไหลเข้าต่อ คือ จุดที่ต่างชาติเริ่มกลับมาขายสุทธิหุ้นไทยอีกครั้ง คือ 5 ม.ค.67-31 ม.ค.67 ต่างชาติขาย 3.2 หมื่นล้านบาท เป็นช่วงที่เริ่มเห็นนโยบายการเงินและการคลังไม่สอดคล้องกันพอดี แต่ถ้าแนวทางนโยบายการเงินการคลังเริ่มไปทิศทางเดียวกัน เชื่อว่า Fund Flow ยังมีช่องว่างให้ไหลกลับมาอยู่
3.แรงซื้อต่างชาติเดือน ก.พ.67 โดดเด่นที่สุดในตลาดกลุ่ม TIP โดยเดือน ก.พ.67 ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 224 ล้านเหรียญ (mtd) สูงสุดในกลุ่ม TIP โดยอินโดนีเซียซื้อสุทธิ 166 ล้านเหรียญ และฟิลิปปินส์ 12 ล้านเหรียญ
ปริมาณการ Short Sell หุ้นไทยเดือน ก.พ.67 (mtd) ลดน้อยลงจากเดือน ม.ค.67 ดังนั้น ประเมินว่าแรงกดดันจากการ Short Sell ของต่างชาติมีโอกาสลดน้อยลงเป็นตัวช่วยหนุนให้หุ้นที่ย่อตัวลงมาลึกมีโอกาสย่อตัวได้ช้าลงหรืออาจจะรีบาวน์กลับขึ้นมาจากการถูก Cover Shortได้
ในความคาดหวัง Fund Flow น่าจะเริ่มจำกัดการขายและกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยมากขึ้น แนะกลยุทธ์เก็งกำไรหุ้นพื้นฐานที่ต่างชาติซื้อสุทธิสะสมเด่นในช่วงเดือน ก.พ. (mtd) อย่าง KTC, AOT, BCP, SCC, BDMS, HANA, SPRC, CPN, CPALL, SAWAD เป็นต้น!!
อินเด็กซ์ 51
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่