มีความเห็นที่น่าสนใจ จาก บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ที่ให้ความเห็นโดยระบุว่า หากเงินเฟ้อต่ำต่อเนื่องจะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Yield Play และ Defensive Play
หลังพบนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตราสารหนี้ไทยต่อเนื่อง ขณะที่ Bond Yield อายุ 10 ปีเคลื่อนไหวทรงตัวที่ 2.94% เทียบกับค่าเฉลี่ยของประเทศในเอเชียที่ปรับตัวลง -5bps. ตามทิศทาง Bond Yield ของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม คาดว่าต่างชาติมีโอกาสกลับมาซื้อตราสารหนี้ และ Bond Yield ไทยจะอ่อนตัวลงหลังประกาศเงินเฟ้อเดือน พ.ย. วันที่ 7 ธ.ค. โดยตลาดคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปจะ -0.3% YoY และเงินเฟ้อพื้นฐาน +0.6% YoY
หากเงินเฟ้อต่ำต่อเนื่องจะเป็นบวกต่อกลุ่ม Yield Play และ Defensive Play เช่น ADVANC, CPALL, BJC, GPSC เป็นต้น
หยวนต้ายังออกบทวิเคราะห์วางแผนการลงทุนหุ้นกลุ่ม ICT ด้วย 4 กลยุทธ์สำคัญชี้ว่าแม้ภาพรวมการลงทุนในปี 2567 จะเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่การจับจังหวะการลงทุนยังเป็นกลยุทธ์ที่หยวนต้า เชื่อว่ามีประสิทธิภาพ
จึงแนะนำ 4 กลยุทธ์สำคัญสำหรับกลุ่ม ICT ดังนี้ 1.กลุ่มสื่อสาร 1H67 เน้นไปที่ ADVANC เพื่อสู้กับภาวะตลาดที่ผันผวนสูงในช่วงเปลี่ยนผ่านดอกเบี้ยจากขาขึ้นเป็นขาลง โดย ADVANC มีงบดุลที่แข็งแกร่ง ให้เงินปันผลสูง รวมถึงมีภาระหนี้สินที่น้อย แต่ใน 2H67 ให้เปลี่ยนจาก ADVANC เป็น TRUE ส่วนต่างมูลค่าตลาดที่มากเกินไประหว่าง ADVANC กับ TRUE จะเริ่มลดช่วงห่างลง เมื่อ TRUE เริ่มส่งสัญญาณกลับมาทำกำไร
2.ใช้จังหวะปลายปี 2566 ที่ INTUCH อาจจะหลุด SET50 เป็นจังหวะในการสลับ ADVANC มาเป็น INTUCH ที่ให้เงินปันผลสูงกว่าและราคายัง Laggard ADVANC
3.ทยอยสะสม JASIF (Non-rate) เพื่อเล่นกับการจบรอบขาขึ้นของดอกเบี้ยโลก โดย JASIF ภายใต้ Sponsor ใหม่อย่าง ADVANC ควรจะต้องมี Discount rate ที่ลดลงในระยะยาวแต่ตลาดยังมองข้าม
4.เลี่ยงหุ้นกลุ่ม Growth และ Electronic ใน 1H67 และกลับเข้าลงทุนหลังหุ้นปรับฐานตาม Nasdaq ใน 2H67 โดยเน้นไปที่หุ้นที่ penetration ยังต่ำ เป็น Platform ที่แท้จริงและยังไม่เป็นที่นิยมในตลาด เช่น MEB!!
อินเด็กซ์51
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่