LPN กำไร Q2 หด 40% รายได้อสังหาฯ ตก ครึ่งปีหลังลุยเปิด 15 โครงการใหม่ ดันยอดขายเพิ่มขึ้น

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

LPN กำไร Q2 หด 40% รายได้อสังหาฯ ตก ครึ่งปีหลังลุยเปิด 15 โครงการใหม่ ดันยอดขายเพิ่มขึ้น

Date Time: 3 ส.ค. 2566 17:14 น.

Video

เมื่อเด็ก ป.6 (11 ขวบ) สร้างรายได้ "หลักแสน" แซงหน้าคนทำงาน! l Money Secret EP.12

Summary

LPN รายงานกำไรสุทธิ ส่วนที่เป็นของบริษัทลดลงจากไตรมาส 2/65 จํานวน 60.34 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 40.92 (โดยครึ่งปีแรกลดลงร้อยละ 31.48) ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลดลง ร้อยละ 23.81 (ครึ่งปีแรกลดลงร้อยละ 26.20)

Latest


บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผยงบผลประกอบการสำหรับไตรมาส 2/66 บริษัทและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ ส่วนที่เป็นของบริษัทลดลงจากไตรมาส 2/65 จํานวน 60.34 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 40.92 (โดยครึ่งปีแรกลดลงร้อยละ 31.48) ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ลดลง ร้อยละ 23.81 (ครึ่งปีแรกลดลงร้อยละ 26.20)


แต่ในขณะเดียวกันในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 บริษัทมีกำไรขั้นต้นจากธุรกิจดังกล่าวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.80 สําหรับกลุ่มธุรกิจให้เช่าและกลุ่มธุรกิจบริหารมีรายได้ในไตรมาส 2/66 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.47 และร้อยละ 29.55 ตามลำดับ (ครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.40 และร้อยละ 30.17 ตามลำดับ) เกิดจากความต้องการที่พักอาศัยภายหลังสถานการณ์โควิด-19 และการขยายธุรกิจเพิ่มเติมของธุรกิจบริหาร


สำหรับค่าใช้จ่ายขายและบริหาร ในไตรมาส 2/66 เพิ่มขึ้นจาก 223.60 ล้านบาท เป็น 247.07 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.50 (ครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 8.58) เกิดจากหมวดค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการขยายโครงการใหม่เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.71% ด้วยเหตุผลข้างต้น จึงทำให้ในไตรมาส 2/66 บริษัทมีผลกำไรสุทธิที่เป็นส่วนของบริษัทลดลงร้อยละ 40.92 (ครึ่งปีแรกลดลงร้อยละ 31.48) โดยคาดว่ารายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ และกำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นจากโครงการแล้วเสร็จในไตรมาส 3 และไตรมาส 4 ทั้งโครงการอาคารชุดพักอาศัย และบ้านพักอาศัย


ส่วนยอดขาย ประมาณ 5,400 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) ร้อยละ 80 ของยอดขาย มาจากโครงการอาคารชุดพักอาศัย 2) ร้อยละ 20 ของยอดขาย มาจากโครงการบ้านพักอาศัย ในไตรมาส 2/66 บริษัทมีการเปิดตัวโครงการใหม่จํานวน 2 โครงการ เป็นอาคารชุดพักอาศัย ได้แก่ 1) พาร์ค 168 นพรัตน์รามอินทรา 2) เฮ้าส์ 24 ราชพฤกษ์ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 2,300 ล้านบาท


ทําให้ครึ่งปีหลังของปี 2566 บริษัทจะเปิดตัวโครงการใหม่ตามแผนเพิ่มอีก จำนวน 15 โครงการ มูลค่ารวม 11,700 ล้านบาท แบ่งเป็น 1) อาคารชุดพักอาศัย 3 โครงการ มูลค่ารวม 3,100 ล้านบาท 2) โครงการบ้านพักอาศัย 12 โครงการ มูลค่ารวม 8,600 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทจะมียอดขายเพิ่มขึ้น


และ 2. ยอดขายรอโอน (Backlog) จำนวน 2,750 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2566 และ 2567


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ