เลือกประธานสภาจบสวย ดันตลาดหุ้นบวก ลุ้นทดสอบ 1,550 จุด

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เลือกประธานสภาจบสวย ดันตลาดหุ้นบวก ลุ้นทดสอบ 1,550 จุด

Date Time: 4 ก.ค. 2566 15:46 น.

Video

3 ยุทธศาสตร์ สร้างเสน่ห์ตลาดหุ้นไทย ทำอย่างไรให้เติบโตและเท่าเทียม ? | Money Issue

Latest


ความเคลื่อนไหวการซื้อขายในตลาดหุ้นไทยประจำวันที่ 4 ก.ค.2566 พบว่า มีการซื้อขายอย่างคึกคัก หลังจากการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยมี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร

 

นายเอกราช ศรีศุภวิชากิจ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจดิจิทัลและออนไลน์ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพของตลาดหุ้นไทยตอบรับในเชิงบวกหลังจากการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยในระยะสั้นปัจจัยการเมืองยังมีผลกับตลาดหุ้นจนกว่าจะมีการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วเสร็จ

 

“ตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น  หลังจากการเลือกประธานสภาผ่านพ้นไปด้วยดี ซึ่งหลังจากนี้เรามองว่าตลาดจะ bullish ต่อเนื่องจนกว่าจะถึงวันเลือกนายกรัฐมนตรีที่เราต้องรอดูผลว่าจะออกมาอย่างไร”

 

ทั้งนี้สิ่งที่น่าสังเกตในการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมา พบว่า นักลงทุนสถาบันมีการปรับพอร์ตมีการซื้อหุ้น biglot ในหุ้นขนาดใหญ่ทั้งในกลุ่มพลังงานและค้าปลีกนั้น เป็นการปรับพอร์ตของนักลงทุนสถาบัน ซึ่งสะท้อนว่าพวกเขายังมีมุมมองที่ดีกับตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น แต่ต้องจับตาว่าการปรับตัวเพิ่มขึ้นในครั้งนี้จะยืนระยะได้ยาวนานแค่ไหน โดยจับตาการเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีที่จะถึงนี้

 

อย่างไรก็ตาม แม้ภาพของตลาดหุ้นไทยจะดูสดใสในระยะสั้น แต่หากพิจารณาในด้านปัจจัยพื้นฐานนั้นเรามองว่า ตลาดหุ้นไทยมีระดับราคาปิดกำไรต่อหุ้น หรือ P/E และมูลค่าหุ้นทางบัญชี หรือ P/BV ที่สูงกว่า ประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ทำให้เม็ดเงินของต่างชาติที่จะไหลเข้าประเทศไทยนั้นน่าจะยาก ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นมีความดึงดูดมากกว่า จะส่งผลกดดันให้ตลาดหุ้นไทยยังคงเป็นขาลงในระยะยาว

 

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ช่วงที่ผ่านมาดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) เคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทางจากความไม่แน่นอนด้านการเมืองในประเทศ ซึ่งวันนี้มีความชัดเจนเรื่องการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ถือเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นไทย ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวขึ้นมาได้

 

ขณะเดียวกัน หากมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ราบรื่นและมีนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทยให้เดินหน้าต่อไปได้หลังจากนี้ จะช่วยหนุนให้ดัชนีตลาดปรับตัวได้ดีขึ้น และจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั้งภาคเศรษฐกิจจริง (Real Sector) และความเชื่อมั่นในตลาดหุ้นไทยให้ดียิ่งขึ้นด้วย

 

อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนให้ติดตามการเลือกนายกรัฐมนตรีในระยะถัดไป ว่าจะมีความราบรื่นหรือไม่ จากที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่ามีความยืดเยื้อสำหรับประเด็นการเมืองค่อนข้างมาก

 

ทั้งนี้ คาดการณ์ความเคลื่อนไหวของดัชนีแบ่งเป็น 3 กรณี ได้แก่ 1.ในกรณีดีที่สุด คาดว่าดัชนีจะสามารถเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,600-1,700 จุดได้ ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองจะต้องมีความราบรื่น สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ มีฝ่ายค้าน และมีการเสนอแผนการบริหารงานจากรัฐบาลใหม่ 2. ในกรณีที่ยังมีความไม่ราบรื่นเล็กน้อย คาดว่าดัชนีจะกลับมายืนในกรอบ 1,500-1,600 จุด และ 3. ในกรณีแย่ที่สุด หรือมีการจัดตั้งรัฐบาลได้ล่าช้า ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 1,400-1,500 จุด

 

น.ส.วิลาสินี กล่าวอีกว่า สำหรับกรอบดัชนีตลาดหุ้นไทยเดือนนี้ ประเมินว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ราว 1,490-1,550 จุด พร้อมแนะนำนักลงทุนให้ติดตามผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 2/66 ว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร ซึ่งคาดว่าจะมีการทยอยประกาศเร็วๆ นี้


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ