หุ้นไทยไตรมาส 3

Investment

Capital Market

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

หุ้นไทยไตรมาส 3

Date Time: 1 ก.ค. 2566 04:35 น.

Summary

  • ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 มิ.ย.66 ปิดที่ 1,503.10 จุด เพิ่มขึ้น 23.53 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 56,920.35 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,707.87 ล้านบาท

Latest

ย้อนรอย JKN ปรับเกมธุรกิจ ขายสิทธิ์มิสยูนิเวิร์สฯ 5 ปี ให้ MGI ตลท. เตือนเสี่ยงเพิกถอนเหตุไม่ส่งงบ

ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 มิ.ย.66 ปิดที่ 1,503.10 จุด เพิ่มขึ้น 23.53 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 56,920.35 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,707.87 ล้านบาท

หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 33.50 บาท บวก 0.75 บาท, GULF ปิด 46.75 บาท บวก 2 บาท, BDMS ปิด 27.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, BBL ปิด 159.50 บาท บวก 3 บาท, CPALL ปิด 62.50 บาท บวก 1.50 บาท

บล.เอเซียพลัส มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยไตรมาส 3/66 มีโอกาสปรับตัวขึ้นมากกว่าลง เพราะช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นได้ดูดซับปัจจัยลบเรื่องการเมืองในประเทศไปค่อนข้างมากแล้ว และการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าดัชนีหุ้นไทยน่าจะผ่านจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,450 จุดไปแล้ว ทั้งนี้ ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไตรมาส 3/66 ไว้ที่ระดับ 1,450-1,540 จุด

แนะด้านกลยุทธ์ลงทุน ทยอยสะสมหุ้นเพิ่ม และปรับลดการถือเงินสดลง โดยเน้นเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี โดยหุ้นเด่นไตรมาส 3/66 ที่แนะนำ ได้แก่ IVL, BEM, JMT และ SCGP

ขณะที่ทิสโก้มองหุ้นไทยไตรมาส 3/66 ดัชนีแกว่งผันผวนตามปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะช่วงโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าใครจะได้เสียงข้างมากเกิน 376 เสียง ขณะที่ต่างประเทศยังต้องจับตาภาวะเศรษฐกิจโลก หลังคาดการณ์ว่าจะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มถดถอยช่วงไตรมาส 3/66 เป็นต้นไป ทั้ง 2 ปัจจัยอาจกดดันให้ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสเข้าสู่จุดต่ำสุดของปีนี้ โดยดัชนีมีโอกาสปรับลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 1,400 จุดได้

ทั้งนี้ ประเมินดัชนีไตรมาส 3 ที่ 1,400-1,550 จุด โดยแนวรับแรกอยู่ที่ 1,450 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,400 จุด

แนะกลยุทธ์ลงทุน ให้ปรับพอร์ต โดยหันมาถือเงินสดไว้บางส่วน พร้อมติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด หากดัชนีปรับตัวลงมาแถวระดับ 1,450 จุด ถือเป็นจุดที่น่ากลับไปทยอยเข้าสะสมหุ้นอีกครั้ง แต่หากราคาหุ้นปรับขึ้นมา โดยสถานการณ์การเมืองยังไม่มีท่าทีชัดเจน อาจหันไปถือเงินสดมากขึ้น

สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจคือ กลุ่มค้าปลีก, ธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) และกลุ่มท่องเที่ยว มีหุ้นเด่นรายตัว ดังนี้ CPALL (ราคาเป้าหมาย 76 บาท/หุ้น), BBL (เป้าหมาย 173 บาท/หุ้น), SCB (เป้าหมาย 130 บาท/หุ้น), MINT (เป้าหมาย 38 บาท/หุ้น), BDMS (เป้าหมาย 36 บาท/หุ้น), ADVANC (เป้าหมาย 252 บาท/หุ้น), AP (เป้าหมาย 15 บาท/หุ้น), OR (เป้าหมาย 25 บาท/หุ้น), MENA (เป้าหมาย 2.80 บาท/หุ้น) และ SISB (เป้าหมาย 46.25 บาท/หุ้น)

อินเด็กซ์ 51


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ