ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 30 มิ.ย.66 ปิดที่ 1,503.10 จุด เพิ่มขึ้น 23.53 จุด มีมูลค่าซื้อขาย 56,920.35 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,707.87 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 33.50 บาท บวก 0.75 บาท, GULF ปิด 46.75 บาท บวก 2 บาท, BDMS ปิด 27.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, BBL ปิด 159.50 บาท บวก 3 บาท, CPALL ปิด 62.50 บาท บวก 1.50 บาท
บล.เอเซียพลัส มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยไตรมาส 3/66 มีโอกาสปรับตัวขึ้นมากกว่าลง เพราะช่วงที่ผ่านมาตลาดหุ้นได้ดูดซับปัจจัยลบเรื่องการเมืองในประเทศไปค่อนข้างมากแล้ว และการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ เชื่อว่าดัชนีหุ้นไทยน่าจะผ่านจุดต่ำสุดที่บริเวณ 1,450 จุดไปแล้ว ทั้งนี้ ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีไตรมาส 3/66 ไว้ที่ระดับ 1,450-1,540 จุด
แนะด้านกลยุทธ์ลงทุน ทยอยสะสมหุ้นเพิ่ม และปรับลดการถือเงินสดลง โดยเน้นเลือกหุ้นที่มีพื้นฐานดี โดยหุ้นเด่นไตรมาส 3/66 ที่แนะนำ ได้แก่ IVL, BEM, JMT และ SCGP
ขณะที่ทิสโก้มองหุ้นไทยไตรมาส 3/66 ดัชนีแกว่งผันผวนตามปัจจัยการเมืองในประเทศ โดยเฉพาะช่วงโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าใครจะได้เสียงข้างมากเกิน 376 เสียง ขณะที่ต่างประเทศยังต้องจับตาภาวะเศรษฐกิจโลก หลังคาดการณ์ว่าจะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฯเริ่มถดถอยช่วงไตรมาส 3/66 เป็นต้นไป ทั้ง 2 ปัจจัยอาจกดดันให้ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสเข้าสู่จุดต่ำสุดของปีนี้ โดยดัชนีมีโอกาสปรับลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 1,400 จุดได้
ทั้งนี้ ประเมินดัชนีไตรมาส 3 ที่ 1,400-1,550 จุด โดยแนวรับแรกอยู่ที่ 1,450 จุด และแนวรับถัดไปที่ 1,400 จุด
แนะกลยุทธ์ลงทุน ให้ปรับพอร์ต โดยหันมาถือเงินสดไว้บางส่วน พร้อมติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด หากดัชนีปรับตัวลงมาแถวระดับ 1,450 จุด ถือเป็นจุดที่น่ากลับไปทยอยเข้าสะสมหุ้นอีกครั้ง แต่หากราคาหุ้นปรับขึ้นมา โดยสถานการณ์การเมืองยังไม่มีท่าทีชัดเจน อาจหันไปถือเงินสดมากขึ้น
สำหรับกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจคือ กลุ่มค้าปลีก, ธนาคารพาณิชย์ (แบงก์) และกลุ่มท่องเที่ยว มีหุ้นเด่นรายตัว ดังนี้ CPALL (ราคาเป้าหมาย 76 บาท/หุ้น), BBL (เป้าหมาย 173 บาท/หุ้น), SCB (เป้าหมาย 130 บาท/หุ้น), MINT (เป้าหมาย 38 บาท/หุ้น), BDMS (เป้าหมาย 36 บาท/หุ้น), ADVANC (เป้าหมาย 252 บาท/หุ้น), AP (เป้าหมาย 15 บาท/หุ้น), OR (เป้าหมาย 25 บาท/หุ้น), MENA (เป้าหมาย 2.80 บาท/หุ้น) และ SISB (เป้าหมาย 46.25 บาท/หุ้น)
อินเด็กซ์ 51