ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 2 ก.ย.65 ปิดที่ 1,622.15 จุด บวก 0.20 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 61,287.91 ล้านบาท
หุ้นมูลค่าซื้อขายสูงสุด PTTEP ปิด 166.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท, IVL ปิด 40.75 บาท ลบ 1 บาท, BANPU ปิด 13.90 บาท ลดลง 0.10 บาท, KBANK ปิด 152.00 บาท ลบ 0.50 บาท, CPALL ปิด 60 บาท ลบ 0.75 บาท
บล.เอเซียพลัส ออกบทวิเคราะห์ แนะกลยุทธ์การลงทุน เดือน ก.ย. แนะสะสม 7 หุ้นฟื้นตามเศรษฐกิจ และมีกำไรโดดเด่น
ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดัชนี Dow Jones ปรับตัวลงแรงต่อเนื่อง แต่มีเทคนิคอลรีบาวน์กลับหลังด้านเทคนิคระหว่างชั่วโมงการซื้อขายเข้าเขต OVersold โดยในอดีต 1 ปีที่ผ่านมา เวลา RSI เข้าเขต Oversold ทำให้ดัชนี Dow Jones เริ่มมี Downside จำกัด และมีโอกาสฟื้นตัวในระยะถัดไป
ส่วน SET Index น่าจะได้อานิสงส์ด้วย เนื่องจากดัชนีมักเคลื่อนไหวคล้ายกับ Down Jones สะท้อนได้จากมีค่า Correlation ระหว่างกันราว 0.5% ทำให้คาดหวังการฟื้นตัว
มุมมองตลาดหุ้นเดือน ก.ย.65 ด้วยสภาวะตลาดหุ้นไทยที่ดูมีเสน่ห์มากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับหลายประเทศในช่วงครึ่งปีหลัง หนุนให้ฝ่ายวิจัยปรับระดับดัชนีเป้าหมายขึ้น ภายใต้ระดับ P/E 18 เท่า (แรงกดดันจากการเร่งขึ้นดอกเบี้ยต่ำกว่าประเทศอื่นๆ) พร้อมกับยก EPS65F ขึ้นมาอยู่ที่ 96.1 บาทต่อหุ้น (แรงหนุนจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนงวด 2065 ที่สร้างจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับราว 3.5 แสนล้านบาท แนวโน้มกำไรยังดีต่อเนื่องโดยเฉพาะจากหุ้นที่อิงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ) ซึ่งทั้ง 2 ส่วนหนุนให้ Target SET Index ณ สิ้นปี 65 อยู่ที่ 1,730 จุด
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนเดือน ก.ย. 65 แนะนำทยอยสะสม 7 หุ้นกำไรไฉไลในช่วง 2H65 คาดหวังผลตอบแทนที่สูงกว่าตลาด คือ TIDLOR, M, HMPRO, CK, CKP, PLANB, SCB!!
อินเด็กซ์ 51