ก.ล.ต.จับมือ ThaiBMA เปิดตัวแพลตฟอร์มรวมข้อมูลตราสารหนี้ Green Bond

ก.ล.ต. ร่วมกับ ThaiBMA เปิดตัว Information Platform แหล่งรวมข้อมูลตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน หรือ ESG Bond

รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า การจัดทำ Information Platform ร่วมกับ ThaiBMA ถือเป็นอีกหนึ่งพัฒนาการสำคัญของการพัฒนาตลาดทุนอย่างยั่งยืน แพลตฟอร์มดังกล่าวประยุกต์แนวทางมาจาก Luxembourg Green Exchange (LGX) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแสดงข้อมูลตราสารด้านสิ่งแวดล้อมแห่งแรกของโลก

โดยคณะผู้บริหารของ ก.ล.ต. ได้มีโอกาสเข้าพบ และหารือกับคณะผู้บริหารของตลาดหลักทรัพย์ลักเซมเบิร์ก ถึงแนวคิดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการจัดตั้ง LGX เมื่อต้นปี 2563 ที่ผ่านมา และเชื่อมั่นว่า Information Platform ที่ ThaiBMA ได้พัฒนาขึ้นในครั้งนี้ถือว่าเป็นกลไกสำคัญกลไกหนึ่งที่จะช่วยให้ผู้ออกตราสารเพื่อความยั่งยืนเป็นที่รับรู้อย่างกว้างขวาง (visibility)

นอกจากนี้ จะเป็นศูนย์รวมข้อมูลตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน เปิดโอกาสให้ผู้สนใจลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างสะดวก ในการนี้ สำนักงาน ก.ล.ต. ขอขอบคุณความร่วมมือของ ThaiBMA ที่ได้ริเริ่มพัฒนา Information Platform นี้ขึ้น

ธาดา พฤฒิธาดา กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย หรือ ThaiBMA กล่าวว่า สมาคมฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า Information Platform สำหรับตราสารหนี้เพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมนี้ จะเป็นอีกหนึ่งในเครื่องมือที่เป็นประโยชน์เพื่อใช้ในการเรียนรู้และค้นหาข้อมูลของตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน หรือ ESG Bond ของประเทศไทย

โดยจะช่วยให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลและค้นหาข้อมูลได้ง่ายและสะดวก เพราะได้รวบรวมข้อมูลที่สำคัญไว้ให้อยู่ในที่เดียว โดยสมาคมยินดีที่จะร่วมผลักดันให้เกิดการพัฒนาตลาดตราสารหนี้ไทยให้มีความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

ทั้งนี้ การจัดทำ Information Platform สำหรับตราสารเพื่อความยั่งยืนเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของแผนยุทธศาสตร์ของ ก.ล.ต. ในเรื่องการพัฒนาสภาพแวดล้อมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุนอย่างยั่งยืน โดยเล็งเห็นถึงประโยชน์ของแพลตฟอร์มในการเป็นกลไกช่วยสนับสนุนให้ตราสารหนี้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond)

รวมทั้ง ตราสารเพื่อพัฒนาสังคม (Social Bond) และตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Bond) โดยผู้ออกตราสารหนี้ดังกล่าวเป็นที่รู้จักมากขึ้น โดยนับตั้งแต่ปี 2561 มีตราสารยั่งยืนที่ออกและเสนอขายแล้วคิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 90,000 ล้านบาท อีกทั้งปีนี้ยังเป็นปีแรกที่มีหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจระดมทุนผ่านตราสารเพื่อความยั่งยืนด้วย