ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 15 ก.ค.62 ปิดที่ 1,727.98 จุด ลบ 3.61 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 53,418.43 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,274.65 ล้านบาท
ตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์ทั้งในแดนบวกและลบ รอติดตามการทยอยประกาศงบไตรมาส 2 ของกลุ่มแบงก์มากขึ้นในสัปดาห์นี้
หุ้นมูลค่าการซื้อขายสูงสุด PTT ปิด 47.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง, TRUE ปิด 6.40 บาท บวก 0.25 บาท, CPF ปิด 28.75 บาท ลบ 1 บาท, BEM ปิด 10.30 บาท ลบ 0.30 บาท, KBANK ปิด 185.50 บาท ลบ 2.50 บาท
มีข่าว ก.ล.ต. เปิดรับฟังความคิดเห็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์การกำกับดูแลกองทุนที่มีกำหนดอายุโครงการ หรือเทอมฟันด์ เพื่อให้กองทุนมีการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนมากขึ้น ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลเพียงพอและเหมาะสมประกอบการตัดสินใจลงทุน และไม่เข้าใจผิดว่าการลงทุนในเทอมฟันด์เป็นการฝากเงินในธนาคารพาณิชย์!!
ทั้งนี้ กองทุนเทอมฟันด์มีลักษณะเฉพาะที่ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนดอายุกองทุนและอาจมีความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวในตราสารที่ออกโดยผู้ออกรายใดรายหนึ่ง
หากเกิดปัญหาความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกตราสารรายใดรายหนึ่งในพอร์ตของกองทุนรวม จะทำให้มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุนรวมลดลงมาก และอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมกองทุนรวมในวงกว้างได้
สำนักงาน ก.ล.ต. จึงมีแนวคิดปรับปรุงเกณฑ์การกำกับดูแลเทอมฟันด์ อาทิ การปรับลดเพดานอัตราส่วนการลงทุนของเทอมฟันด์เพื่อผู้ลงทุนทั่วไป (retail term fund) ในเงินฝากหรือตราสารเทียบเท่าเงินฝากจากผู้ออกรายใดรายหนึ่ง (single entity limit) เหลือร้อยละ 10 จากเดิมร้อยละ 20
และเพิ่มเติมการเปิดเผยข้อมูลในหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปข้อมูลสำคัญ (factsheet) เพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลอย่างเพียงพอและเหมาะสมประกอบการตัดสินใจลงทุน โดยไม่เข้าใจผิดว่า เทอมฟันด์เป็นเงินฝากธนาคารพาณิชย์ และเป็นการลงทุนที่ปราศจากความเสี่ยง!!
รวมทั้งให้แสดงแถบมิติสะท้อนความเสี่ยงแปรผันตามการลงทุนที่กระจุกตัวในประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง เช่น การลงทุนกระจุกตัวในหมวดอุตสาหกรรมหนึ่งมากกว่าร้อยละ 80 ของพอร์ตถือว่ามีความเสี่ยงสูง อีกทั้งกำหนดให้ระบุคำเตือนหน้าสมุดบัญชีแสดงสิทธิในหน่วยลงทุน!!
อินเด็กซ์ 51