เตือนอย่าลงทุนเงินดิจิทัล ก.ล.ต.ย้ำเสียหายเรียกร้องคืนไม่ได้

ก.ล.ต. เตือนการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล อาจมีคนฉวยโอกาสเอาเทคโนโลยีใหม่มาบังหน้าหลอกลวงประชาชน ชี้ถึงมีเกณฑ์ออกมากำกับก็ช่วยลดความเสี่ยงได้บางส่วน ด้านคลังยืนยันไม่นิ่งนอนใจออกแนวทางดูแล

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ตามที่มีคนสนใจระดมทุนด้วยการออก Initial Coin Offering (ไอซีโอ) หรือการ ระดมทุนด้วยการเสนอขายเหรียญดิจิทัลต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก และเริ่มมีการชักชวนให้ประชาชนลงทุนในไอซีโอ และคริปโตเคอเรนซี (Cryptocurrency) หรือสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น ซึ่ง ก.ล.ต. ได้มีการเตือนอย่างต่อเนื่องว่า ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจอย่างมาก มีความเสี่ยงในหลายแง่มุม หากไม่เข้าใจอย่างแท้จริงจะเสียหายโดยง่าย นอกจากนี้ อาจมีผู้ฉวยโอกาสนำเทคโนโลยีใหม่มาเป็นจุดขาย หรือมาบังหน้าเพื่อ หลอกลวงประชาชน ดังนั้น ผู้ที่จะลงทุนจำเป็นต้องทำความเข้าใจรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง ทั้งสินทรัพย์ที่จะลงทุน ตัวกิจการ สิทธิของผู้ลงทุน ตลอดจนระวังความเสี่ยงจากการที่ผู้ให้บริการ ไม่ใช่ธุรกิจที่อยู่ในการกำกับดูแลความเสี่ยง และไม่มีการกำหนดมาตรฐานด้านการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านไซเบอร์และอื่นๆ

ทั้งนี้ ปัจจุบันยังไม่มีเกณฑ์กำกับดูแลการออกไอซีโอ ผู้ลงทุนจึงไม่ได้รับความคุ้มครองใดๆ และข้อมูลในเอกสารประกอบการเสนอขายไอซีโอ หรือ white paper อาจเปรียบเสมือนเป็นสัญญาปากเปล่า สำหรับแนวทางกำกับดูแลที่อยู่ระหว่างพิจารณาของทางการจะช่วยลดความเสี่ยงได้เฉพาะบางส่วน เช่น ป้องกันการหลอกลวง แชร์ลูกโซ่ แต่ยังคงมีความเสี่ยงทางธุรกิจของกิจการ ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลที่ผันผวน ตลอดจนระบบเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัลอาจถูกโจรกรรมไซเบอร์ ที่สำคัญควรตระหนักว่า หากเกิดความเสียหาย มีโอกาสสูงที่จะไม่สามารถเรียกร้องจากใครได้ ดังนั้น ถ้าไม่เข้าใจ อย่าลงทุน

นายพรชัย ฐีระเวช รองโฆษกกระทรวงการคลังกล่าวว่า กระทรวงการคลังไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องการกำกับดูแลการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล และได้ตั้งคณะทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาแนวทางกำกับแล้ว ขณะนี้มีคำเตือนจากหน่วยงานต่างๆในสหรัฐฯ ให้ระมัดระวัง ว่า ใครคือคนที่คุณจะทำสัญญาด้วย คนออกแบบผลิตภัณฑ์การเงินนั้นเป็นใคร มีธุรกิจชัดเจนหรือไม่ เงินที่ลงทุนจะไปไหน ถูกใช้ประโยชน์เรื่องอะไร และสามารถขายได้อย่างไร เมื่อใด มีอะไรมารองรับการซื้อขาย นอกจากนี้ มีคำเตือนจากคนที่ดูแลด้านตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ของสหรัฐฯ ว่า เริ่มมีการออกผลิตภัณฑ์การเงินรูปแบบใหม่มาหลอกลวงด้วยการเสนอขายราคาต่ำๆ จากนั้นก็ฉ้อโกงไม่สามารถตามคืนได้.