
คนรวยเน้นออมและลงทุนอย่างต่อเนื่องในสินทรัพย์ต่างๆ เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์
ในวงการการลงทุน จะกล่าวกันอยู่เสมอว่า องค์ประกอบของการลงทุนให้ประสบความสำเร็จจะต้องมี 3 องค์ประกอบหลัก หรือที่เรียกกันว่า 3M ได้แก่
หมายความว่า จิตวิทยาและกระบวนการคิด หรือพูดภาษาชาวบ้านง่ายๆ ก็คือ นิสัยมีผลต่อความสำเร็จมากที่สุด ผมเองเคยถามเพื่อนที่เป็นนักขายประกันที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่งว่า ทำอย่างไรถึงมีลูกค้ารายใหญ่ที่เป็นคนรวยได้มากขนาดนี้
เพื่อนตอบว่า “ถ้าอยากจับปลาทะเล เราต้องออกมหาสมุทร ถ้าอยากมีลูกค้าคนรวย เราต้องอยู่ในกลุ่มคนรวย ใช้ชีวิตในสังคมคนรวย”
ฟังแล้ว ก็จริงแฮะ ถ้าเราอยากรวย เราก็ควรจะมีนิสัยหรือวิธีคิดแบบคนรวยเหมือนกัน แล้วคนรวยมีนิสัยอย่างไร
ว่าแล้ว ก็เลยพยายามหารายงานวิจัยที่พูดเกี่ยวกับนิสัยคนรวยทั่วโลก โชคดีพบรายงานวิจัยของ Thomas J. Stanley (The Millionaire Next Door, 1996), Credit Suisse Global Wealth Report และงานด้าน Behavioral Economics
นิสัยหลักของคนรวยในหลากหลายแง่มุมที่พบจากการวิจัย มีสิ่งที่น่าสนใจ สรุปได้ ดังนี้
ออมและลงทุนต่อเนื่อง: คนรวยมักกันรายได้ส่วนหนึ่งเพื่อการลงทุน เช่น หุ้น อสังหาริมทรัพย์ กองทุน ฯลฯ Warren Buffett เคยกล่าวถึงเรื่องนี้ในปี 2004 ว่า
“ถ้าคุณลงทุนในกองทุนดัชนีที่มีต้นทุนต่ำโดยที่ไม่ลงทุนหนัก ๆ ในครั้งเดียวแต่ลงทุนถัวเฉลี่ยอย่างน้อยเป็นเวลา 10 ปี คุณจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า 90% ของนักลงทุนที่ลงทุนในเวลาเดียวกัน”
“ให้ซื้อเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะดีหรือแย่ และโดยเฉพาะตอนที่มันแย่”
ไม่เน้นหนี้บริโภค: ใช้หนี้อย่างมีวินัย โดยเฉพาะหลีกเลี่ยงหนี้บัตรเครดิตที่ดอกเบี้ยสูง เหมือนอย่างที่ Warren Buffett เคยเล่าว่า
“จำได้ว่ามีเพื่อนคนหนึ่งมาหาผมเมื่อไม่นานมานี้ เขาเพิ่งได้เงินมา แล้วถามว่าจะเอาเงินไปทำอะไรดี?”
Warren Buffett ถามกลับว่า “แล้วคุณติดหนี้บัตรเครดิตบ้างมั้ย?”
หญิงที่เป็นเพื่อน ตอบว่า “ยังเป็นหนี้บัตรเครดิตอยู่จำนวนหนึ่ง คาดว่ามีดอกเบี้ย 18%”
Warren Buffett ตอบกลับว่า “ผมก็ไม่เคยรู้ว่าจะทำอะไรให้ได้เงิน 18% ถ้าผมติดหนี้ด้วยดอกเบี้ย 18% ผมต้องจนอย่างแน่นอน และถ้าผมได้เงินมา ผมก็จะไปจ่ายหนี้นั้นให้หมดก่อน”
และ Buffett ทิ้งท้ายว่า...
“ผมคิดว่าผู้คนควรที่จะเลี่ยงใช้บัตรเครดิตเพื่อก่อหนี้ เหมือนกับเลี่ยงใช้เงินในกระปุกออมสินที่บ้าน”
เสียดายที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยตระหนักในเรื่องนี้ เพราะประเภทหนี้สินที่คนไทยเป็นกันมากที่สุด ได้แก่ หนี้สินเชื่อส่วนบุคคล และ หนี้บัตรเครดิต ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหนี้เพื่อการบริโภค โดย
กระจายความเสี่ยง: ลงทุนหลายสินทรัพย์ และในหลายภูมิภาค เหมือนอย่างที่เราได้ยินบ่อยๆ ก็คือ “อย่าวางไข่ในตะกร้าใบเดียว” เพราะถ้าเกิดทำตก ไข่ในตะกร้าก็จะแตกหมด
คนรวยจะมีเป้าหมายระยะยาว: วางแผนทางการเงินเป็น 10–20 ปี
โฟกัสที่มูลค่า ไม่ใช่แค่ราคา ยกตัวอย่างง่ายๆ เวลาจะซื้อของ อันดับแรกให้พิจารณาว่า ของชิ้นนั้น จำเป็นหรือไม่ ซื้อมาแล้วได้ใช้หรือไม่ ไม่ใช่เจอของถูก ของลดราคา โปรโมชั่นพิเศษ อย่างเช่น 1 เดือน 1, 2 เดือน 2,..., 9 เดือน 9 ฯลฯ ตาลุกวาว รีบกดซื้อ กลัวโค้ดหมด กลัวของหมด แต่สุดท้ายซื้อมาก็ไม่ได้ใช้ เท่ากับเราซื้อขยะมารกบ้านเพิ่มอีก 1 ชิ้น ของที่ถูกกลายเป็นของแพงไปเลยทันที คนรวยจะเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ คือ สร้างมูลค่าให้กับชีวิต เช่น สุขภาพ ความรู้ ความสัมพันธ์ ฯลฯ การโฟกัสที่มูลค่า หมายถึงการมุ่งเน้นความสนใจไปที่สิ่งที่สร้างคุณค่าอย่างแท้จริง โดยพิจารณาจากเป้าหมายที่ชัดเจน การจัดลำดับความสำคัญของงาน และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
การประยุกต์ใช้ "โฟกัสที่มูลค่า" ในชีวิตประจำวันและการทำงาน:
ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน: หาเวลาทบทวนว่าคุณต้องการอะไรและสิ่งใดสำคัญที่สุด
จัดลำดับความสำคัญ: มุ่งเน้นพลังงานและเวลาไปที่งานสำคัญเพียงไม่กี่อย่างแทนที่จะกระจายไปกับหลายเรื่องที่ไม่เกิดผลลัพธ์ อาจใช้หลักพาเรโต (Pareto Principle): ให้ความสำคัญกับ 20% ของงานที่สร้างผลลัพธ์ 80%
สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการโฟกัส: ลดสิ่งรบกวน เช่น ปิดการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น หรือการเช็กอีเมลบ่อยเกินไป
ฝึกสมาธิและสร้างวินัย: เพื่อให้สามารถควบคุมพลังงานและโฟกัสได้ดีขึ้น
สร้างรายได้หลายทาง: เช่น ธุรกิจ การลงทุน ทรัพย์สินทางปัญญา ฯลฯ
อ่านหนังสือและเรียนรู้ตลอดชีวิต
ลงทุนกับการศึกษา ของตัวเองและบุตรหลาน ขอยกคำพูดของ Warren Buffett อีกนะ “การลงทุนในตัวเอง เพื่อพัฒนาทักษะและความสามารถให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน เพราะสิ่งนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้คุณได้อย่างมหาศาลและไม่สามารถถูกพรากไปได้ง่ายๆ”
ประหยัดแบบมีเหตุผล: งานวิจัยชี้ว่า คนรวยส่วนใหญ่มักไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินฐานะ อะไรที่จำเป็น ก็ซื้อ อะไรที่ไม่จำเป็น ก็ไม่ซื้อ เคล็ดลับการใช้เงินของเศรษฐีข้อหนึ่งที่ผมเคยได้ยินเสมอ ก็คือ “ไม่ใช้ ไม่ซื้อ ต่อให้ลดราคา ก็ไม่ซื้อ”
เลือกสังคมแวดล้อมที่สร้างแรงบันดาลใจ อันนี้ตรงกับมงคล 38 มูลเหตุแห่งความสุขจำนวน 38 ประการ ที่ช่วยส่งเสริมความสุข และความก้าวหน้า ข้อ 1 คือ การไม่คบคนพาล และ ข้อ 2 คือ การคบบัณฑิต
สุขภาพมาก่อน: ให้ความสำคัญกับการออกกำลังกายและอาหาร ผมนึกถึงคำพูดของอาจารย์หมอท่านหนึ่ง กล่าวไว้น่าฟังมาก
“ถ้าเรามีสุขภาพดี เราจะมีทุกอย่าง ถ้าเรามีสุขภาพแย่ เราจะเสียทุกอย่าง” เพื่อนๆ ว่า “จริงมั๊ย?”
ดูๆแล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรที่เราจะเริ่มมีนิสัยแบบคนรวย แต่สิ่งที่ยาก ก็คือ “เรามักจะเลิกทำเร็วเกินไป” เรามาลองตั้งปณิธานกันตอนนี้เลยดีมั๊ย ไม่ต้องรอปีใหม่ว่า “เราจะมีนิสัยแบบคนรวยตั้งแต่ตอนนี้อย่างน้อยจนถึงสิ้นปี 2569” เชื่อนะว่า แม้เราจะไม่รวยแบบเศรษฐีเขา แต่เราจะรวยกว่าตอนนี้แน่นอน