
‘อยากซื้อทอง’ คำยอดฮิตช่วงนี้ดังขึ้นเพราะราคาทองโลกพุ่งทำจุดสูงใหม่ต่อเนื่อง ในวันที่ 8 ต.ค. 2568 แตะที่ 4,059 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงหนุนที่เฟดเริ่มลดดอกเบี้ยครั้งแรกของปี 2568 ในเดือน ก.ย. หลังตลาดแรงงานสหรัฐฯ อ่อนแอ ประกอบกับกระแสลดพึ่งพาเงินดอลลาร์ที่ผลักให้ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองเกิน 1,000 ตัน/ปีในช่วงปี 2565–2567 (สูงกว่าค่าเฉลี่ย 15 ปีย้อนหลังราว 600 ตัน/ปี) โดยเฉพาะจีนที่เพิ่มสัดส่วนทองคำในทุนสำรองเป็น 6.7% จาก 1.8% ในปี 2558 ซึ่งล้วนเป็นแรงหนุนเชิงโครงสร้างต่อทองคำในระยะยาว
ทีม Futures and Options หลักทรัพย์บัวหลวง ชวนมองทางเลือกลงทุนที่หลากหลายกว่าร้านทอง ตั้งแต่กองทุนไปจนถึงตลาดซื้อขายล่วงหน้า โดยจะอธิบายการเทรดทองคำแบบ Futures และเปรียบเทียบความต่างระหว่างซื้อผ่านร้านกับใช้ Futures เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพชัดขึ้น
ปัจจุบันตลาดซื้อขายล่วงหน้าในไทยที่เทรดสัญญาอ้างอิงทองคำคือ บริษัท ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ TFEX ซึ่งแยกจากตลาดหุ้นและใช้สำหรับซื้อขายตราสารอนุพันธ์ (Futures/Options) โดยในบทความนี้จะกล่าวถึง Futures เท่านั้น เพราะ ณ วันที่ 8 ต.ค. 2568 สินทรัพย์อ้างอิงทองคำที่ TFEX เปิดให้ซื้อขายมีเฉพาะรูปแบบ Futures
Futures คือสัญญาที่ผู้ซื้อ–ผู้ขายตกลงราคาของสินทรัพย์อ้างอิงในวันนี้ แต่กำหนดส่งมอบและชำระราคาในอนาคต สำหรับสัญญาทองคำใน TFEX (ณ วันที่ 8 ต.ค. 2568) มี 3 ประเภท แบ่งตามสินทรัพย์อ้างอิงและวิธีการชำระ/ส่งมอบ ดังนี้
การที่จะเปรียบเทียบการซื้อขายทองคำผ่านร้านทองและการซื้อขายด้วย Futures ให้เทียบเท่ากันได้นั้นจะต้องเป็นการเทียบด้วยสินค้าอย่าง Gold Futures เป็นเพราะว่าราคาที่ใช้อ้างอิงนั้นเป็นราคาทองคำแท่งในประเทศ ซึ่งมีหน่วยเป็นบาทต่อบาททองคำเหมือนกับการซื้อขายผ่านร้านทอง
Gold Futures มีลักษณะสัญญาตามรูปภาพด้านล่าง
การซื้อขายมีอยู่ด้วยกัน 2 ช่วงเวลา โดยจะเริ่มที่กลางวัน (Day Session) ตั้งแต่เวลา 09.45 น. ไปจนถึง 16.55 น. ไม่หยุดพักการซื้อขายช่วงกลางวัน และต่อด้วยช่วงกลางคืน (Night Session) ตั้งแต่เวลา 18.50 น. ไปจนถึง 03.00 น. (ของวันถัดไป) ครอบคลุมการซื้อขายทองคำในช่วงกลางคืนที่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อราคาทอง
ตารางข้างล่างนี้จะเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพที่ชัดขึ้นระหว่างการซื้อขายทองผ่านร้านทองและการซื้อขายผ่าน Gold Futures