ต้องรู้อะไรบ้าง ถ้าเลือกเกษียณก่อนกำหนด

Experts pool

Columnist

สาธิต บวรสันติสุทธิ์

สาธิต บวรสันติสุทธิ์

Tag

ต้องรู้อะไรบ้าง ถ้าเลือกเกษียณก่อนกำหนด

Date Time: 21 ก.ย. 2568 08:01 น.

Video

Amazon ธุรกิจนี้เจ๋งยังไง ทำไมถึงเป็นหุ้นลูกรักของใครหลายคน ? | Digital Frontiers EP.48

Summary

ถ้าเราเลือกที่จะเกษียณ เราในฐานะ “ลูกจ้าง” ควรต้องรู้อะไรบ้าง

Latest


จำได้เลย เมื่อเดือนก่อน เพื่อนผู้จัดการสาขาธนาคารแห่งหนึ่งได้มาปรึกษา

“พี่แปะครับ ธนาคารได้ประกาศโครงการเกษียณก่อนกำหนด early retire ให้พนักงานที่มีอายุระหว่าง 45 ถึง 59 ปี สามารถสมัครใจลาออกก่อนเกษียณได้ โดยไม่จำกัดอายุงาน พร้อมกับมอบเงินชดเชยและเงินช่วยเหลือพิเศษเพิ่มเติมให้อีก 8 ถึง 12 เดือนตามช่วงอายุ ผมควรเอามั้ย เอาก็กลัวหางานใหม่ยาก ไม่เอาก็กลัวว่าอนาคตจะถูกเลิกจ้าง แล้วจะได้ package ดี ๆ อย่างนี้หรือเปล่า?”

ตอนแรกฟังก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะตั้งแต่มี mobile banking เข้ามาในชีวิตโดยเฉพาะช่วงโควิด-19 คนไทยก็คุ้นเคยกับการใช้แอปฯ เป๋าตังบนมือถือในการจับจ่าย โอนเงินกันแล้ว เมื่อเราทำทุกอย่างบนมือถือได้ ความจำเป็นต้องไปสาขาธนาคารก็ลดน้อยลง ยิ่งตอนหลังพนักงานธนาคารมักจะคะยั้นคะยอให้ช่วยซื้อประกันเอย กองทุนเอย หุ้นกู้เอย ฯลฯ ยิ่งทำให้การไปสาขาธนาคารยิ่งห่างเหินไป ผลก็คือ ธนาคารลดจำนวนสาขาลง พนักงานธนาคารก็ลดจำนวนลงตามกันไป

แต่เกษียณก่อนกำหนดครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะประกาศเป็นการทั่วไป และกำหนดช่วงอายุชัดเจนและครอบคลุมกว้างมากคือ ตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ว่าไปแล้วอายุ 45 ปีเป็นช่วงที่คนเรามีศักยภาพสูงสุด มีประสบการณ์ มีวุฒิภาวะ น่าจะเป็นช่วงอายุที่ทำประโยชน์ให้กับองค์กรได้มากที่สุด โครงการเกษียณก่อนกำหนดครั้งนี้จึงสั่นสะเทือนวงการมนุษย์เงินเดือนกันเลยทีเดียวว่าจุดจบของความมั่นคงทางการงานของมนุษย์เงินเดือนอย่างแท้จริงเริ่มขึ้นแล้ว

แล้วอย่างนี้ ถ้าเราเลือกที่จะเกษียณ เราในฐานะ “ลูกจ้าง” ควรต้องรู้อะไรบ้าง

บริหารเงินที่จะได้เพราะออกจากงาน

1.หากตอนเลือกเกษียณก่อนกำหนด ลูกจ้างที่มีอายุงานไม่น้อยกว่า 5 ปี ลูกจ้างสามารถเลือกเอาเงินชดเชยที่นายจ้างให้แยกยื่นภาษีตามมาตรา 48(5) ได้ไม่ต้องเอาไปยื่นรวมกับเงินได้อื่น หรือที่เรียกกันว่า แยกยื่นในใบแนบ เป็นการแยกคำนวณภาษีของเงินได้ทำให้เสียภาษีน้อยลง แต่ถ้าอายุงานลูกจ้างน้อยกว่า 5 ปี ลูกจ้างก็ต้องนำเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานไปยื่นรวมกับเงินได้ตามปกติ ดังนั้นตรวจสอบอายุงานเราให้ดีก่อนนะ จะได้ยื่นภาษีได้ถูกต้อง จะได้ประหยัดภาษี มีเงินเก็บสำหรับการใช้จ่ายที่จะมีอีกมาก

2.โดยทั่วไปเกษียณก่อนกำหนด แม้นายจ้างจะจ่ายเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานพร้อมเงินช่วยเหลืออื่น ๆ แล้ว นายจ้างมักจะให้ลูกจ้างเขียนใบลาออก แต่ถ้าเลือกได้ เลือกถูกเลิกจ้าง ไม่เขียนใบลาออก จะดีกว่า ดังนี้

  • เงินชดเชยจากการถูกเลิกจ้างส่วนที่ไม่เกินค่าจ้าง 400 วัน และต้องไม่เกิน 600,000 บาท จะได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ถ้าหากเงินชดเชยที่ได้รับมากกว่า 600,000 บาท ส่วนที่เกินจะต้องนำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่เงินชดเชยจากการเกษียณอายุหรือหมดสัญญาจ้างไม่มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ รวมถึงเงินชดเชยจากการลาออกด้วยความสมัครใจ แม้นายจ้างได้จ่ายเงินชดเชยที่คำนวณตามกฎหมายก็ “ไม่ถือว่าเป็นการจ่ายเงินชดเชย” ลูกจ้างจึงไม่มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ในส่วนนี้

ข้อดีของเงินชดเชยที่ได้จากการถูกเลิกจ้าง คือ เราเสียภาษีน้อยลง ตัวอย่างเช่น ถ้าฐานภาษีลูกจ้างอยู่ที่ 30% การได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ส่วนนี้จะประหยัดภาษีได้ถึง 30% * 600,000 = 180,000 บาทเลยทีเดียว แต่ลูกจ้างจะได้รับยกเว้นเงินได้ในการคำนวณภาษีไม่เกิน 600,000 บาท ต้องเป็นกรณีถูกเลิกจ้างเท่านั้น ดังนั้น ถ้าเป็นกรณีลูกจ้างลาออก หรือถูกเลิกจ้าง แต่บริษัทให้ลูกจ้างเขียนใบลาออก ถึงแม้บริษัทจะจ่ายเงินชดเชยให้ ลูกจ้างก็จะไม่ได้รับยกเว้นเงินได้ในการคำนวณภาษีส่วนนี้

  • เงินชดเชยกรณีว่างงาน จากกองทุนประกันสังคม

ถ้าเป็นกรณีถูกเลิกจ้าง ลูกจ้างจะได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 180 วัน ในอัตรา 60% ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยคำนวณจากฐานเงินเดือนขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินเดือนสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ถ้าคิดที่ฐานเงินเดือน 15,000 บาท ลูกจ้างจะได้รับเงินทดแทนกรณีถูกเลิกจ้างรวมทั้งหมด เท่ากับ 60% * 15,000 * 6 = 54,000 บาท

ถ้าเป็นกรณีลาออก ลูกจ้างจะได้รับเงินทดแทนระหว่างการว่างงานปีละไม่เกิน 90 วัน ในอัตรา 30% ของค่าจ้างเฉลี่ย โดยคำนวณจากฐานเงินเดือนขั้นต่ำเดือนละ 1,650 บาท และฐานเงินเดือนสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท ถ้าคิดที่ฐานเงินเดือน 15,000 บาท ลูกจ้างจะได้รับเงินทดแทนกรณีถูกเลิกจ้างรวมทั้งหมด เท่ากับ 30% * 15,000 * 3 = 13,500 บาท ได้น้อยกว่ากรณีถูกเลิกจ้าง เท่ากับ 54,000 - 13,500 = 40,500 บาท

กรณีนี้ ก็เช่นกันถ้าเป็นกรณีลูกจ้างถูกเลิกจ้าง แต่บริษัทให้ลูกจ้างเขียนใบลาออก ลูกจ้างก็จะได้เงินทดแทนระหว่างการว่างงานจากประกันสังคมแบบ “กรณีลาออก”

หากอายุสมาชิกประกันสังคมยังไม่ถึง 180 เดือน การเลือกสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา 39 ซึ่งเป็นผู้ประกันตนโดยสมัครใจหลังออกจากงานประจำ (มาตรา 33) เพื่อรักษาสิทธิประกันสังคม เพิ่มอายุสมาชิกและเงินสะสมเพื่อประโยชน์กรณีชราภาพ โดยจ่ายเงินสมทบเดือนละ 432 บาท

หากอายุงานไม่ถึง 5 ปี หรือ อายุงานตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป แต่อายุตัวลูกจ้างยังไม่ถึง 55 ปีบริบูรณ์ และอายุสมาชิกในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังไม่ถึง 5 ปีบริบูรณ์ ผลประโยชน์จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพยังคงต้องเสียภาษี การเลือกคงเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือโอนเงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปกองทุน RMF for PVD เพื่อให้อายุสมาชิกและอายุตัวลูกจ้างเป็นไปตามเกณฑ์ที่สรรพากรกำหนด ก็จะช่วยให้ผลประโยชน์จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพยกเว้นภาษี เป็นการประหยัดภาษีอีกทางหนึ่งนะ

บริหารสวัสดิการที่หมดไป

สวัสดิการที่เราเคยได้ ไม่ว่าจะเป็นประกันสุขภาพ ประกันชีวิต เงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินในประกันสังคม ที่บริษัทจัดให้ก็จะหมดตามอายุงานไปด้วย หากเราต้องการสวัสดิการนั้น ๆ ต่อ เราก็ต้องจัดหาด้วยตัวเราเอง

สวัสดิการด้านการรักษาพยาบาล เราเลือกได้ 3 ทางนะ คือ

  • จะใช้สิทธิบัตรทอง (สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ) ก็ได้ วิธีนี้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่มีวงเงิน เพียงลงทะเบียนเลือกหน่วยบริการหรือสถานพยาบาลประจำตัวแล้วใช้สิทธิได้ทันทีโดยใช้บัตรประชาชนใบเดียว หรือ
  • เลือกต่อประกันสังคมมาตรา 39 เพื่อรักษาสวัสดิการรักษาพยาบาล และเป็นการออมเงินเพื่อใช้ยามเกษียณ วิธีนี้ต้องส่งเงินสมทบเข้ากองทุนทุกเดือน ๆ ละ 432 บาท จึงจะสามารถใช้สิทธิได้ ใช้กับโรงพยาบาลที่เลือกสิทธิไว้ (อาจเป็นโรงพยาบาลเอกชนก็ได้) กรณีฉุกเฉินเข้าที่ไหนก่อนก็ได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ไม่มีวงเงิน และไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือ
  • ถ้าพอจะมีฐานะทางการเงินที่ดี และต้องการความสะดวกสบายในการรักษาพยาบาล ก็สามารถเลือกซื้อประกันสุขภาพก็ได้

เริ่มชีวิตใหม่ เตรียมพร้อมทางการเงิน

เริ่มตั้งต้นด้วยการประเมินสถานะการเงิน ตรวจสอบจำนวนเงินสำรองที่เก็บไว้ หนี้สิน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ฯลฯ เพื่อวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างรัดกุม ค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นตัดออก เพื่อยืดระยะเวลาการใช้เงินสำรองให้นานที่สุด เริ่มหารายได้จะเป็นงานในสายอาชีพเดิม หรือ งานสายอาชีพอื่น คนที่ถูกเกษียณก่อนกำหนดรายแรก ๆ อย่ามองว่าตัวเองโชคร้าย บางทีเราอาจโชคดีก็ได้ เพราะในช่วงแรก ๆ คนตกงานยังไม่เยอะ โอกาสหางานใหม่ยังมีมากเท่ากับเราได้เงินก้อนมาฟรี พร้อมโอกาสในการหางานใหม่ สร้างอนาคตใหม่

หรือใครไม่อยากเป็นลูกจ้าง อยากเป็นเจ้าของตัวเอง ก็ลองมองหางานอิสระ (freelance) หรืองานชั่วคราว ฯลฯ ที่ตนเองสนใจและคิดจะทำหลังเกษียณ ตอนนี้โอกาสมาถึงแล้ว ลองทำดูเลย อย่างเพื่อนผมคนหนึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน เงินเดือนเยอะ อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ไม่กล้า กลัวเจ๊ง เสียดายเงินเดือน ตอนหลังถูกเลิกจ้าง ก็เลยต้องทำธุรกิจที่ตนเองสนใจ แม้จะกลัวเจ๊ง แต่กลัวอดตายมากกว่า ตอนนี้ก็เป็นเจ้าของธุรกิจใหญ่โต มีรายได้มากกว่าตอนเป็นลูกจ้างอีก

“สิ่งใดเกิดขึ้นแล้ว สิ่งนั้นย่อมดีเสมอ”


Author

สาธิต บวรสันติสุทธิ์

สาธิต บวรสันติสุทธิ์
นักวางแผนการเงิน CFP