
ในยุคที่การค้าโลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การทำธุรกิจนำเข้าส่งออกในปัจจุบันต้องเผชิญกับความท้าทายที่อาจส่งผลกระทบต่อฐานะการเงินของบริษัท หนึ่งในนั้นคือความผันผวนของค่าเงินที่เกิดขึ้นจากมาตรการ Reciprocal Tariffs (ภาษีตอบโต้) ที่กระตุ้นให้เกิดสงครามการค้า ซึ่งสร้างความปั่นป่วนต่อราคาสินค้าและต้นทุนในการทำธุรกิจระหว่างประเทศ โดยเฉพาะในธุรกิจที่ต้องพึ่งพาการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศ
ดังนั้น การป้องกันความเสี่ยงค่าเงินจึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการกับความผันผวนที่เกิดขึ้นจากสกุลเงินต่างประเทศ และทำให้สามารถวางแผนการเงินได้ดียิ่งขึ้น โดยเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในการป้องกันความเสี่ยงนี้ก็คือ Currency Futures (สัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศในอนาคต)
ในบทความนี้เราจะพูดถึงความสำคัญของการป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน, วิธีการใช้ Currency Futures เพื่อป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน, รวมไปถึงการยกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ของการใช้เครื่องมือนี้ในภาคธุรกิจ
ความเสี่ยงค่าเงินเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินระหว่างประเทศ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่มีการทำธุรกรรมระหว่างประเทศโดยตรง ปัจจัยต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ยของประเทศสหรัฐฯ การกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลาง หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก ล้วนแต่มีโอกาสส่งผลให้ค่าเงินของประเทศต่าง ๆ ผันผวนได้อย่างมาก
สำหรับธุรกิจที่ทำการนำเข้าและส่งออก สภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอนสามารถทำให้การคำนวณต้นทุนและรายได้เป็นเรื่องที่ท้าทายมากขึ้น หากไม่สามารถควบคุมความเสี่ยงนี้ได้ ธุรกิจอาจต้องเผชิญกับการขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนในแบบที่ไม่คาดคิด ซึ่งมีโอกาสที่ทำให้บริษัทพลิกขาดทุนได้เลยทีเดียว
ตัวอย่างเช่น บริษัท C นำเข้าถั่วเหลืองจากประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นจำนวนเงิน 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีกำหนดจ่ายเงินในอีก 2 เดือนข้างหน้า ค่าเงิน ณ ขณะนั้นอยู่ที่ 33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แต่เมื่อถึงกำหนดจ่ายเงิน ค่าเงินบาทกลับอ่อนค่าลงไปที่ 35.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ ทำให้ราคาต้นทุนของสินค้าสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
บริษัทต้องจ่ายค่าถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นถึง (35.00-33.50) x 1,000,000 = 1,500,000 บาท ในการนำเข้าสินค้าชนิดเดียวเพียง 1 ครั้งจากสหรัฐฯ ซึ่งในความเป็นจริงในหนึ่งปีอาจจะมีชนิดของสินค้า และจำนวนครั้งของการนำเข้าที่มากกว่านี้ ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถควบคุมต้นทุนราคาสินค้า และกำไรขั้นต้นได้
ไม่เพียงแต่การนำเข้า การส่งออกสินค้าไทยไปยังสหรัฐฯ ยุโรป หรือประเทศอื่นๆ ก็มีความเสี่ยงค่าเงินเกิดขึ้น
ตัวอย่างเช่น บริษัท T ส่งออกอาหารแปรรูปไปยังประเทศเยอรมนี มูลค่า 10 ล้านยูโร โดยกำหนด Payment Term FOB 90 วัน ณ วันที่ส่งสินค้า ค่าเงินอยู่ที่ 38.00 บาทต่อยูโร ต่อมาในวันที่ได้รับเงิน 10 ล้านยูโร อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 35.80 บาทต่อยูโร เป็นผลให้แลกเงินกลับเป็นเงินบาทได้น้อยลง
บริษัทมีรายได้ลดลงจากความผันผวนของค่าเงิน (35.80-38.00)x 10,000,000 = 22,000,000 บาท หากไม่มีการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินเลยอาจทำให้กำไรของบริษัทลดลงอย่างมหาศาล
ด้วยเหตุนี้การใช้เครื่องมือทางการเงิน เช่น Currency Futures จะช่วยให้ธุรกิจสามารถล็อกค่าเงินไว้ล่วงหน้า เพื่อลดผลกระทบการเปลี่ยนแปลงค่าเงินที่ไม่คาดคิดในอนาคต การป้องกันความเสี่ยงด้วยเครื่องมือนี้เป็นการรักษาความมั่นคงของกำไร และช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนการเงินได้ดียิ่งขึ้น
ในปัจจุบัน TFEX มีสินค้าในกลุ่ม Currency Futures อยู่ 5 รายการ ได้แก่ USD/THB Futures, EUR/THB Futures, JPY/THB Futures, EUR/USD Futures และ USD/JPY Futures มีลักษณะสัญญา ดังนี้
ฉะนั้น ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ในการป้องกันความเสี่ยงได้ 3 สกุลเงิน ได้แก่ USD, EUR และ JPY ซึ่งมีจุดเด่นดังนี้
กรณีตัวอย่าง: การใช้ USD Futures ป้องกันความเสี่ยงจากการนำเข้าสินค้า
บริษัท P นำเข้าต้องชำระค่าเครื่องจักรที่นำเข้ามาจากอเมริกาในวันที่ 29 ก.ย. 68 จำนวน 800,000 ดอลลาร์สหรัฐ ต้องการป้องกันความเสี่ยงจากเงินบาทอ่อนค่า จึงเข้าทำการ Long USDU25 ที่ 33.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จำนวน 800 สัญญา (ตัวอย่างไม่รวมค่าธรรมเนียมการซื้อขาย)
กรณีเงินบาทอ่อนค่าไปที่ 35.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ผู้นำเข้าซื้อดอลลาร์ที่ราคา 35.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ต้องใช้เงิน (35.00 x 800,000) = 28,000,000 บาท
USD Futures จะได้กำไรเท่ากับ (35.00-33.20) x 1,000 x 800 = 1,440,000 บาท
สุทธิแล้วใช้เงินซื้อดอลลาร์ไปทั้งหมด (28,000,000 - 1,440,000) = 26,560,000 บาท
กรณีเงินบาทแข็งค่าไปที่ 32.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
ผู้นำเข้าซื้อดอลลาร์ที่ราคา 32.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ต้องใช้เงิน (32.00 x 800,000) = 25,600,000 บาท
USD Futures จะขาดทุนเท่ากับ (32.00-33.20) x 1,000 x 800 = -960,000 บาท
สุทธิแล้วใช้เงินซื้อดอลลาร์ไปทั้งหมด (25,600,000 + 960,000) = 26,560,000 บาท
จากกรณีตัวอย่างเปรียบเสมือนล็อกอัตราแลกเปลี่ยนไว้ที่ 33.20 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
จะเห็นได้ว่าการใช้ USD Futures ช่วยให้บริษัท P มีความมั่นใจในการทำธุรกรรมในอนาคต เพราะสามารถคาดการณ์ต้นทุนและรายได้ได้อย่างแม่นยำ การใช้เครื่องมือนี้ทำให้บริษัทสามารถจัดการกับอัตราแลกเปลี่ยนได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ต้องกังวลกับการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินในระยะสั้น ที่สำคัญทำให้บริษัทบริหารสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
สงครามการค้าจากการใช้ Reciprocal Tariffs (ภาษีตอบโต้) สามารถทำให้เกิดความผันผวนในตลาดค่าเงินได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการค้าของแต่ละประเทศ ซึ่งส่งผลให้ค่าเงินของประเทศต่าง ๆ มีความผันผวนอย่างไม่คาดคิด ตัวอย่างเช่น ในช่วงที่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนทวีความรุนแรงขึ้น ค่าเงินของหลายประเทศอาจได้รับผลกระทบจากการที่นักลงทุนมีการหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของเงินทุนที่สามารถส่งผลให้ค่าเงินไม่คงที่ การใช้ Currency Futures ในช่วงนี้สามารถช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินที่เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น สงครามการค้า และมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ บริษัทสามารถใช้เครื่องมือนี้ในการล็อกอัตราแลกเปลี่ยนและลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนในตลาดการเงินโลก
การป้องกันความเสี่ยงค่าเงินในปัจจุบันกลายเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามได้ในโลกธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว Currency Futures เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการจัดการความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินในอนาคต โดยเฉพาะในช่วงที่มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น สงครามการค้า การตอบโต้ทางภาษี และการเปลี่ยนแปลงทางการเงินในประเทศต่าง ๆ ดังนั้น ยิ่งบริษัทนำเข้าส่งออกเข้าใจถึงความสำคัญนี้ และนำไปใช้กับธุรกิจเร็วเท่าใด จะช่วยให้ธุรกิจสามารถลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงิน และทำให้สามารถวางแผนการเงินได้อย่างมั่นคงในอนาคต
ทั้งนี้ นักเทรดสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเทรดสินค้า Futures ใน TFEX ได้ที่ >> https://wconnex.bualuang.co.th/s/
สำหรับนักลงทุนทองคำและผู้สนใจ สามารถติดตามอัปเดตราคาทองคำล่าสุด วิเคราะห์แนวโน้ม สถิติราคาทองคำย้อนหลัง กราฟราคาทอง ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/investment/gold
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment