
สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ประกาศแผนยุทธศาสตร์ แผนปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมของประเทศไทย หลังจากได้ระดมความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในการร่วมกันกำหนดเป้าหมาย มาตรการสนับสนุนในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว รวมถึงโครงการเร่งด่วนให้เกิดผลเร็ว (Quick Win) และทิศทางโครงสร้างอุตสาหกรรมใน 9 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ประกอบด้วย
สำหรับแต่ละสาขาอุตสาหกรรม ได้กำหนดทิศทางการพัฒนาและผลิตภัณฑ์เป้าหมายในการปรับโครงสร้าง ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ประเทศไทยมีศักยภาพเป็นฐานการผลิต (Product Champion) เช่น รถยนต์นั่ง รถกระบะ 1 ตัน กลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ประกอบด้วย รถยนต์ไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV) รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle: PHEV) และรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ล้วน (Battery Electric Vehicle: BEV) รวมทั้งกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์
อุตสาหกรรมพลาสติก เน้นผลิตภัณฑ์พลาสติกที่มีส่วนผสมของพลาสติกรีไซเคิลในสัดส่วนสูง รองรับการมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ
อุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ จะมุ่งผลิตเครื่องมือแพทย์ที่ใช้กับโรคที่มีผู้ป่วยจำนวนมากและมีค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง โดยเฉพาะกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ 1. โรคหัวใจและหลอดเลือด 2. โรคเบาหวาน 3. โรคมะเร็ง 4. โรคความดันโลหิตสูง 5. โรคไตเรื้อรัง
อุตสาหกรรมเหล็กและโลหะการ จะสร้างความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเหล็กไทย มุ่งสู่การผลิตเหล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ เหล็กเส้น เหล็กแผ่นรีดร้อน เหล็กท่อ เหล็กลวด และเหล็กโครงสร้างสำเร็จรูป
อุตสาหกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ ส่งเสริมให้มีการนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติมาใช้ในภาคอุตสาหกรรม รวมถึงส่งเสริมกิจการออกแบบ สร้างนวัตกรรม และพัฒนาบุคลากรด้านหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ
อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เน้นดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมต้นน้ำและเทคโนโลยีขั้นสูง ยกระดับศักยภาพอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าเดิมให้มี High Value/ High Technology รวมทั้งการวิจัยและพัฒนาต่อยอด
อุตสาหกรรมฐานชีวภาพ มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพลาสติกชีวภาพ เคมีชีวภาพ และโอลิโอเคมีคอล
อุตสาหกรรมอาหาร ให้ความสำคัญกับการพัฒนากลุ่มสินค้าอาหารพื้นฐานที่เป็นความมั่นคงทางอาหาร กลุ่มสินค้าอนาคต (Future Food) ที่มุ่งเน้นสร้างรายได้เพื่อยกระดับประเทศไปสู่ประเทศรายได้สูง
อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ เช่น Technical Fiber, Technical Textile และ Fashion Brand
นอกจากนี้ ยังได้จัดทำการพัฒนาปัจจัยแวดล้อมธุรกิจที่เป็นส่วนสนับสนุนให้การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมในภาพรวมดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การพัฒนากำลังคน การวิจัย เทคโนโลยี นวัตกรรม กระบวนการผลิต การปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น
ภาสกร ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ สศอ. อรรถาธิบายว่า การปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมดังกล่าว จะช่วยพลิกฟื้นภาคอุตสาหกรรมไทย ให้เป็นเครื่องยนต์สำคัญที่จะเพิ่มแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มากขึ้น ภายใต้ความร่วมมือของทุกภาคส่วน เพื่อช่วยผลักดันให้อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศของภาคอุตสาหกรรม (จีดีพีภาคอุตสาหกรรม) ของประเทศไทย เติบโตได้ไม่ต่ำกว่า 1% โดยไม่ต้องใช้งบประมาณ โดยแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว จะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้พิจารณาได้ในเร็วๆ นี้
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี" ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney