
ปี 2568 ดูเหมือนว่าเป็นปีของความยุ่งเหยิงและท้าทายของเศรษฐกิจทั้งประเทศไทยและนานาประเทศ จากการชะลอตัวของกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เรียกว่า Global Economic Slowdown ประกอบกับการที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ ได้จุดชนวนสงครามการค้ารอบใหม่ ผ่านนโยบาย Trump 2.0 “Make America Great Again” ทำให้ทิศทางเศรษฐกิจโลกนั้นยากที่จะคาดเดา
ยิ่งไปกว่านั้นการที่ ทรัมป์มีความคิดที่จะเข้าไปควบคุมและยึดครองฉนวนกาซ่า (Gaza Strip) ส่งผลให้ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ทวีความรุนแรงมากขึ้น
อย่างไรก็ดี สินทรัพย์ที่ได้รับประโยชน์จากความไม่แน่นอนข้างต้นคือ "ทองคำ" ซึ่งถือว่าเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หรือ Safe Haven ฉะนั้น ความต้องการทองคำที่สูงขึ้นจึงเป็นตัวกระตุ้นราคาทองคำในตลาดโลกพุ่ง 12.1% เมื่อเทียบกับราคา All Time High ที่ 2,942.5 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ (ข้อมูล ณ วันที่ 12 ก.พ.2568) ดังแสดงในภาพที่ 1
ภาพที่ 1 แสดงราคาทองคำโลกในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
ถึงแม้ว่าทองคำได้ทำจุดสูงสุดใหม่ไปแล้ว แต่โอกาสที่จะเห็นการไต่ระดับขึ้นต่อยังคงมีอยู่ จาก 3 ประเด็นหลักที่มองว่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำในปีนี้
1.อัตราดอกเบี้ยของ Fed มีแนวโน้มลดลง
การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจากอัตราเงินเฟ้อที่เริ่มขยับเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2.0% ย่อมส่งผลบวกต่อราคาทองคำ เนื่องจากการลงทุนทองคำไม่มีการจ่ายปันผล การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจึงทำให้สินทรัพย์อย่างทองคำมีความน่าสนใจเพิ่มขึ้น ทำให้มีโอกาสที่เงินจะไหลออกจากพันธบัตรเข้ามาลงทุนทองคำเพิ่มสูงขึ้น
นอกจากนี้ ถ้าไปดู FOMC Dot Plot แสดงให้เห็นโอกาสที่ Fed มีโอกาสปรับลดดอกเบี้ยลง 2 ครั้งในปีนี้จากระดับ 4.25-4.50% สู่ระดับ 3.75-4.00% และมีแนวโน้มที่จะลดลงต่ออีก 2 ครั้งในปี 2569 (ข้อมูลจาก Bloomberg ณ วันที่ 12 ก.พ.2568)
2.ความต้องการทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก
เมื่อไปดูในมิติของความต้องการทองคำของธนาคารกลางทั่วโลก เพื่อเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ จะเห็นได้ว่าในปี 2567 ประเทศในกลุ่ม BRICs อย่างเช่น China และ India มีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้น เพื่อลดการพึ่งพาสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ดังแสดงในภาพที่ 2 ซึ่งสอดคล้องกับการถือครองทองคำที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของจีนและอินเดีย ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาตามภาพที่ 3
ภาพที่ 2 ปริมาณทองคำที่ธนาคารกลางต่างๆ เข้าซื้อในปี 2567 (ตัน)
ภาพที่ 3 ปริมาณทองคำสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางประเทศต่างๆ (ตัน)
3.ความขัดแย้งทางด้านภูมิรัฐศาสตร์
หากย้อนไปดูตั้งแต่อดีตกาล เมื่อสงครามเกิดขึ้น สิ่งที่ผู้คนทั่วโลกถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่ามากยิ่งกว่าเงินตราคือทองคำมาโดยตลอด เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีค่าในตัวเองและผู้คนทั่วโลกให้การยอมรับ ฉะนั้นการที่ Trump มีความประสงค์ที่จะยึดครอง Gaza Strip อาจส่งผลให้ความตึงเครียดในภูมิภาคตะวันออกกลางยังคงครุกรุ่น
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนหรือเก็งกำไรทองคำ นอกจากซื้อทองคำที่ร้านทองแล้ว ยังสามารถซื้อขายได้สะดวกผ่าน 2 ช่องทาง ดังนี้
ช่องทางที่ 1 ซื้อขายเก็งกำไรผ่าน TFEX ได้ ซึ่งจะมีสินค้าให้เลือกคือ Gold Futures ที่ราคาอ้างอิงกับราคาทองในประเทศไทยและ Gold Online Futures ราคาอิงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์เหมือนราคาทองในตลาดโลก (ไม่มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน) ซึ่งการซื้อขายผ่าน Futures จะมีข้อดีตรงที่วางเงินหลักประกันเพียง 4-5% ของมูลค่าสัญญา และซื้อขายได้ถึงตี 3 ของวันถัดไป
อีกทั้งสามารถเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการเทรดเก็งกำไรทองคำระยะสั้น ที่สำคัญยังสามารถหาโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ผ่านการ Long และ Short นักลงทุนที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ผ่าน Website หลักทรัพย์บัวหลวง คลิก https://www.bualuang.co.th/
ภาพที่ 4 แสดงลักษณะสัญญาของ Gold Futures และ Gold Online Futures
ช่องทางที่ 2 คือ การลงทุนผ่านกองทุนรวม เช่น SCBGOLDH และ SCBGOLD เป็นต้น ซึ่งเข้าไปซื้อหน่วยลงทุน SPDR Gold Trust ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีนโยบายลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง โดยมีค่าธรรมเนียมการจัดการราว 0.55% ต่อปี เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาเฝ้าติดตามตลาด แต่ยังต้องการสร้างความมั่งคั่งจากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้น ซื้อขายได้ง่ายผ่านแอปฯ Streaming Fund+ โดยนักลงทุนที่สนใจเปิดบัญชี Mutual Funds กับหลักทรัพย์บัวหลวง คลิก https://wconnex.bualuang.co.th/s/article/Omnibus?language=th
มาถึงตรงนี้หลาย ๆ ท่านน่าจะเห็นภาพการเคลื่อนไหวของทองคำโลกว่าทำไมถึงขึ้นทำ All Time High ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยหลักที่มีโอกาสส่งผลกระทบต่อราคาทองคำในปีนี้ ซึ่งจะเป็นแนวทางให้นักลงทุนสามารถเลือกเองกลยุทธ์ได้ว่าจะเทรดเก็งกำไรระยะสั้นผ่าน Futures หรือจะลงทุนระยะยาวขึ้นผ่านกองทุนรวม โดยทองคำถือว่าเป็นตัวเลือกการลงทุนที่น่าสนใจ และถือเป็นสินทรัพย์ที่ควรมีติดพอร์ตเอาไว้ในปี 2568 นี้ เพื่อช่วยในการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนได้อีกด้วย
สำหรับนักลงทุนทองคำและผู้สนใจ สามารถติดตามอัปเดตราคาทองคำล่าสุด วิเคราะห์แนวโน้ม สถิติราคาทองคำย้อนหลัง กราฟราคาทอง ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/investment/gold
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment