แฉพฤติกรรม “ทุจริต” ในประเทศไทย

Experts pool

Columnist

Tag

แฉพฤติกรรม “ทุจริต” ในประเทศไทย

Date Time: 26 เม.ย. 2567 17:53 น.

Video

SAWAKAMI บลจ.ญี่ปุ่นบุกไทย | BrandStory Exclusive EP.26

Summary

ในรายงาน “สถานการณ์การทุจริตประเทศไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566” โดย สำนักงาน ป.ป.ช. ชี้ให้เห็นว่า ในปีงบฯ 2566 มีคำกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริต ที่ส่งถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช.ผ่านหลายช่องทางรวม ทั้งสิ้น 9,254 เรื่อง มีมติรับเรื่องไว้ดำเนินการเอง 3,868 เรื่อง คิดเป็นวงเงินงบประมาณของโครงการ หรือจำนวนเงินที่มีการทุจริตตามคำกล่าวหาสูงถึง 26,247 ล้านบาท

Latest


คุณคิดว่า การทุจริตในประเทศไทย รุนแรงเพียงใด?? ประเทศสูญเสียเงินเท่าไรจากการทุจริต?? อะไรเป็นสาเหตุของการทุจริต?? หน่วยงาน หรือองค์กรใด ถูกร้องเรียนเรื่องทุจริตมากที่สุด?? ประเทศไทยจะแก้ปัญหานี้ให้หมดไปได้หรือไม่?? อย่างไร??

คำถามเหล่านี้ น่าจะวนเวียนอยู่ในใจคนไทยไม่มีวันจบสิ้น เพราะจากข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะเห็นการทุจริต คอร์รัปชัน เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในทุกรูปแบบ ในทุกวงการ

เพราะสังคมไทย เป็นระบบ “อุปถัมภ์” ที่พึ่งพาอาศัยกันมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน จึงเปิดช่องให้เกิดการทุจริตได้ง่ายมาก ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับประเทศมหาศาล และดูท่าว่า ไม่มีทางหมดไปแน่นอน

ในรายงาน “สถานการณ์การทุจริตประเทศไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566” โดย สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ สำนักงาน ป.ป.ช. ชี้ให้เห็นว่า ในปีงบฯ 2566 มีคำกล่าวหาเกี่ยวกับการทุจริต ที่ส่งถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช.ผ่านหลายช่องทาง เช่น หนังสือร้องเรียน หนังสือราชการ บัตรสนเท่ห์ ฯลฯ รวมทั้งสิ้น 9,254 เรื่อง

คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติรับเรื่องไว้ดำเนินการเอง 3,868 เรื่อง ส่วนที่เหลือส่งให้หน่วยงานอื่นดำเนินการ หรือไม่รับไว้พิจารณา หรือไม่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หรือยุติเรื่อง เป็นต้น คิดเป็นวงเงินงบประมาณของโครงการ หรือจำนวนเงินที่มีการทุจริตตามคำกล่าวหาสูงถึง 26,247 ล้านบาท

ส่งผลให้สิ้นปีงบฯ 2566 ณ วันที่ 30 ก.ย. 2566 ป.ป.ช.มีเรื่องกล่าวหาคงค้างสะสมที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 12,998 เรื่อง!!

สำหรับคำกล่าวหา ที่มีมูลค่าความเสียหายจากการทุจริตสูงสุด 10 อันดับแรก คือ 

1. จัดซื้อจัดจ้าง 1,439 เรื่อง มูลค่าสูงถึง 13,391 ล้านบาท 

2. การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เช่น ละเลย เพิกเฉยต่อการปฏิบัติหน้าที่ กระทำการเกินอำนาจหน้าที่โดยทุจริต อนุมัติ/ไม่อนุมัติใบอนุญาตโดยมิชอบ 987 เรื่อง มูลค่า 8,786 ล้านบาท

3. การยักยอก/เบียดบังเงินหรือทรัพย์สินของราชการ 345 เรื่อง มูลค่า 1,899 ล้านบาท 

4. ทุจริตในการจัดทำงบประมาณ/โครงการ/เบิกจ่ายเงินในโครงการเป็นเท็จ 183 เรื่อง มูลค่า 1,270 ล้านบาท 

5. ออกเอกสารสิทธิที่ดิน 209 เรื่อง มูลค่า 651,337 ล้านบาท 

6. เรียกรับสินบน 249 เรื่อง มูลค่า 171,676 ล้านบาท

7. ร่ำรวยผิดปกติ 132 เรื่อง มูลค่า 68,200 ล้านบาท 

8. การบริหารงานบุคคล (บรรจุ/แต่งตั้ง/เลื่อนตำแหน่ง/โยกย้าย/ลงโทษวินัย) 234 เรื่อง มูลค่า 4,180 ล้านบาท 

9. ฝ่าฝืนจริยธรรม 33 เรื่อง มูลค่า 2,7450 ล้านบาท และ 10. การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม 57 เรื่อง มูลค่า 1,094 ล้านบาท

ส่วนหน่วยงานที่ถูกกล่าวหามากที่สุด ได้แก่ หน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1,739 เรื่อง กระทรวงมหาดไทย 342 เรื่อง กระทรวงศึกษาธิการ 285 เรื่อง และส่วนราชการอื่นๆ 1,502 เรื่อง

ทำไมหน่วยงานเหล่านี้ถูกร้องเรียนมากที่สุด และเป็นหน่วยงานที่ต้องจับตามอง และเฝ้าระวัง?? ในรายงานชิ้นนี้ ให้ข้อมูลว่า เพราะเป็นหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมากที่สุด!!

โดยในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กระทรวงมหาดไทย คาดได้รับจัดสรรมากที่สุดถึง 353,127.5 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนกว่า 10% ของงบประมาณแผ่นดินทั้งหมด เพิ่มขึ้น 27,881.6 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.6% จากปีงบฯ 2566 ส่วนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้รับจัดสรร เพิ่มขึ้นมากถึง 14,849.2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 17.2%

อย่างไรก็ตาม จากเรื่องคงค้างสะสม ณ สิ้นปีงบฯ 2566 คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้วินิจฉัยเรื่อง ไต่สวน และมีมติชี้มูลความผิดเจ้าพนักงานของรัฐ ที่กระทำการทุจริตได้สูงถึง 86.14% โดยมีเรื่องตกไป 13.86%

ที่น่าตกใจ!! จำนวนเงินงบประมาณของโครงการ หรือจำนวนเงินที่มีการทุจริตของเรื่องที่ชี้มูลความผิด มีมูลค่ารวมสูงถึง 336,252 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 325,965 ล้านบาท จากงบฯ ปี 2565 ที่มีมูลค่า 10,287 ล้านบาท

เงินที่สูญเสียไปดังกล่าว หากคิดง่ายๆ ว่ามากเท่าไร ก็ราวๆ 70% ของวงเงินงบประมาณ 500,000 ล้านบาท ที่รัฐบาลชุดนี้ จะนำมาใช้จัดทำโครงการแจกเงิน 10,000 ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ซึ่งคนไทยทั้งประเทศ ไม่มีส่วนรับประโยชน์ใดๆ ด้วยเลย ยกเว้นคนบางกลุ่มที่ร่วมกันทุจริตเท่านั้น ที่ได้ประโยชน์

ขณะที่ข้อมูลจาก “นายมานะ นิมิตรมงคล” เลขาธิการ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ระบุว่า แต่ละปี ประเทศไทย เสียหายจากคอร์รัปชันราว 500,000 ล้านบาท จากการโกงหลวง ขโมยหรือยักยอกเงินหลวง ฉ้อราษฎร์ รับสินบน ส่วย แป๊ะเจี๊ยะ ค่าวิ่งเต้นล้มคดี ค่ามองไม่เห็น ค่าซื้อขายตำแหน่ง ฯลฯ

โดยความเสียหายดังกล่าว ยังไม่รวมความเสียหายทางอ้อมที่กัดกันสังคมไทย เช่น นักลงทุนหนีหายเพราะกลัวความไม่ชัดเจนของราชการ ต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น ประชาชนใช้สินค้าและบริการของรัฐในราคาแพงเกินจริงแต่คุณภาพไม่ดี อีกทั้งรัฐยังต้องใช้เงินมหาศาลแก้ปัญหาอย่างไม่รู้จบ

ถึงเวลาที่รัฐบาล ต้องทำให้การ “ปราบปรามการทุจริต” เป็น “วาระแห่งชาติ” ที่คนไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ในสาขาอาชีพใด วงการใด ต้องช่วยกันปราบปรามให้ถึงที่สุด อย่าเพิกเฉย ทำเป็น “ทองไม่รู้ร้อน” เมื่อพบเห็นการทุจริตเด็ดขาด

เพื่อให้การใช้งบประมาณทุกบาท ทุกสตางค์ เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย และคนไทยอย่างเต็มที่ ล้างภาพลักษณ์ที่เลวร้าย ยกระดับการพัฒนาประเทศ และดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ!!

ติดตามข่าวสารอัปเดต เศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจในประเทศ บทวิเคราะห์เศรษฐกิจ ล่าสุด ได้ที่นี่

ข่าวเศรษฐกิจ : https://www.thairath.co.th/money/economics

เศรษฐกิจในประเทศ : https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

เศรษฐกิจโลก : https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

สิริวรรณ พงษ์ไพโรจน์

สิริวรรณ พงษ์ไพโรจน์
ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ