แสงสว่างปลายอุโมงค์บริษัททัวร์

ภาพรวมการท่องเที่ยวในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวประเทศไทย แตะ 28.15 ล้านคน สูงกว่าจำนวนที่รัฐบาลวางไว้ 25-28 ล้านคน แม้ในแง่รายได้จะไม่เป็นไปตามเป้า เนื่องจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวมาเลเซีย มีระยะเวลาพำนักในไทยเพียง 2 วัน ทำให้ค่าใช้จ่ายรวมไม่ถึงเป้า ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนที่ถูกมองเป็นนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักไปแล้ว จากที่ตั้งเป้าตั้งแต่ต้นปี 5-8 ล้านคน ตัวเลขจริงจนถึงสิ้นปีเข้ามาเพียง 3.52 ล้านคน 

แต่โดยภาพรวม ถือได้ว่า ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยฟื้นแล้ว เพียงแต่ยังฟื้นเป็นหย่อมๆ ถ้าเป็นโรงแรมก็ฟื้นเฉพาะระดับ 4-5 ดาว ส่วนบริษัททัวร์ไม่ต้องพูดถึง ยังคงซบเซา เพราะในปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเป็นลักษณะการท่องเที่ยวแบบเดินทางมาด้วยตัวเอง (Free Individual Traveler: FIT)

สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวในปี 2567 เฉพาะเดือน ม.ค. มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมาแล้ว 3.03 ล้านคน ขยายตัวถึง 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่การฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวจะกระจายกว้างขึ้นจากเที่ยวบินต่างๆ ทั่วโลกกลับมาบินเพิ่มขึ้น และผู้ประกอบการท่องเที่ยวก็ถึงเวลา "วิ่งสู้ฟัด" กันแล้ว

สมาคมผู้ประกอบการท่องเที่ยว (แอตต้า) ซึ่งมีสมาชิกเป็นบริษัททัวร์ได้เริ่มนำผู้ประกอบการออกโรดโชว์ในสาธารณรัฐประชาชนจีน และอินเดีย ตั้งแต่ปลายปีก่อนจนถึงต้นปีนี้ และล่าสุดได้เดินหน้าภารกิจนำนักท่องเที่ยวไต้หวัน 1 ล้านคนมาไทย ในปี 2567 เสร็จสิ้นไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยแอตต้าได้ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) นำผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย 72 ราย ประกอบด้วย บริษัทนำเที่ยว โรงแรม สวนน้ำ สวนสนุก เข้าร่วมงาน “แอตต้า โรดโชว์ ไต้หวัน 2024” ที่กรุงไทเป ไต้หวัน ระหว่างวันที่ 29-31 ม.ค. 2567 

ที่ว่า “เสร็จสิ้น” เพราะภายหลังการโรดโชว์ได้มองเห็นช่องทางที่จะไปให้ถึงฝั่งฝันได้ และถ้าทำได้จะเป็นครั้งแรกที่ตลาดไต้หวัน “ล้านแตก”

โรดโชว์รอบนี้ เป็นการเดินทางไปเพื่อทดสอบและวัดความรู้สึกของผู้ประกอบการท่องเที่ยวฝั่งไต้หวันที่มาร่วมงานกว่า 300 ราย พบกันครั้งแรกหลังเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ชาวไต้หวันมีมุมมองล่าสุดกับประเทศไทยอย่างไร และไปสำรวจผลลัพธ์ที่รัฐบาลไทยยกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่า) ให้กับชาวไต้หวันที่เดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย. 2566-10 พ.ค. 2567 

ผลตอบรับกลับมาจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวไต้หวันได้มองไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่สำคัญ ส่วนจะมาเที่ยวไทยถึง 1 ล้านคนในปีนี้หรือไม่ถือว่ามีโอกาส เพราะนอกจากที่มีเที่ยวบินปกติกลับมาแล้ว ภาคเอกชนมองว่าจะต้องเพิ่มเที่ยวบินเช่าเหมาลำมาในช่วงเทศกาลที่สำคัญ เช่น เทศกาลสงกรานต์ และออกแบบเส้นทางใหม่ๆ ไปยังเมืองรองของไทย โดยเฉพาะเส้นทางท่องเที่ยวสายเวลเนสส์ ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมของชาวไต้หวันเพิ่มเติมด้วย

ด้านผู้ประกอบการฝั่งไทยได้เรียกร้องให้รัฐบาลขยายระยะเวลาการยกเว้นวีซ่าให้กับชาวไต้หวันที่จะสิ้นสุดลงวันที่ 10 พ.ค. 2567 ออกไปอีก 1 ปี ทั้งยังมีความหวังอยากให้ยกเว้นวีซ่าระหว่างกันแบบถาวร เหมือนที่รัฐบาลไทยตกลงกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2567 เป็นต้นไป 

เพราะตั้งแต่มีการยกเว้นวีซ่า พบว่า ชาวไต้หวันซึ่งมีศักยภาพทางการเงินอยู่แล้ว ตัดสินใจเดินทางมาไทยง่ายขึ้น และใช้เวลาตัดสินใจในระยะสั้นแล้วเดินทางในทันที

ในปีนี้รัฐบาลไทยตั้งเป้ามีรายได้จากการท่องเที่ยวรวม 3.5 ล้านล้านบาท จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 35-40 ล้านคน สร้างรายได้ 2.3 ล้านล้านบาท คนไทยเที่ยวในประเทศ 200-230 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 1.2 ล้านล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบแล้วนักท่องเที่ยวไต้หวัน 1 ล้านคนอาจดูเป็นจำนวนน้อย แต่ก็เป็นส่วนเติมเต็ม 

ส่วนนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่รัฐบาลตั้งเป้าในปีนี้ไว้ 8 ล้านคน ในช่วงปลายปี 2566 นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมแอตต้า ก็ยังมองว่ายาก อาจได้เพียง 6.5 ล้านคน แต่ล่าสุดเมื่อล่วงเข้าเดือน ก.พ. ทางแอตต้าเปลี่ยนมุมมองว่า 8 ล้านคนมีโอกาสสูง เพราะผลจากมาตรการยกเว้นวีซ่า ได้ทำให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยในเดือนม.ค. 2567 มีถึง 508,563 คน และในจำนวนนี้ 22% หรือ 127,248 คน มาเที่ยวผ่านบริษัททัวร์ที่เป็นสมาชิกแอตต้า 

สะท้อนว่าปีนี้แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ของบริษัททัวร์มาถึงแล้ว ส่วนจะอู้ฟู่กันระดับไหน ต้องติดตามกันต่อไป

ติดตามข่าวสารอัปเดต เศรษฐกิจ เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจในประเทศ บทวิเคราะห์เศรษฐกิจ ล่าสุด ได้ที่นี่

ข่าวเศรษฐกิจ : https://www.thairath.co.th/money/economics

เศรษฐกิจในประเทศ : https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

เศรษฐกิจโลก : https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ

 
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney