"ลอว์เรนซ์ หว่อง" ว่าที่นายกฯ คนใหม่ ของสิงคโปร์ กับแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจ จากความคิด "ประชาชน"

Economics

Global Economics

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

"ลอว์เรนซ์ หว่อง" ว่าที่นายกฯ คนใหม่ ของสิงคโปร์ กับแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจ จากความคิด "ประชาชน"

Date Time: 6 พ.ค. 2567 12:50 น.

Video

อย่ากลัว! วิกฤติใหญ่ยังไม่เกิด หาโอกาสลงทุน กับ กวี ชูกิจเกษม | Thairath Money Night Stand EP.21

Summary

Thairath Money พาทำความรู้จัก "ลอว์เรนซ์ หว่อง" ว่าที่นายกฯ คนใหม่ของสิงคโปร์ และแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจในฐานะผู้นำรุ่นใหม่

Latest


เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ลี เซียนลุง ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 15 พ.ค.ที่จะถึงนี้ และจะส่งไม้ต่อหน้าที่ผู้นำประเทศคนต่อไปให้กับรองนายกรัฐมนตรี "ลอว์เรนซ์ หว่อง" ปิดฉากบทบาทนายกรัฐมนตรี ผู้พาสิงคโปร์ฝ่าวิกฤติความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลายต่อหลายครั้ง จนนำประเทศไปสู่ปลายทางแห่งความมั่งคั่งได้สำเร็จ ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้นายลี เซียนลุง จะยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอาวุโสในคณะรัฐมนตรีของนายหว่อง

นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ทั่วโลกให้การจับตามองว่าว่าที่นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะนำพาสิงคโปร์ไปในทิศทางไหน ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก


Thairath Money พาทำความรู้จัก "ลอว์เรนซ์ หว่อง" ว่าที่นายกฯ คนใหม่ของสิงคโปร์ และแนวทางพัฒนาเศรษฐกิจในฐานะผู้นำรุ่นใหม่

รู้จัก "ลอว์เรนซ์ หว่อง" ว่าที่นายกฯ คนใหม่ของสิงคโปร์

ลอว์เรนซ์ หว่อง ปัจจุบันอายุ 51 ปี ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาตั้งแต่ปี 2564 ก่อนหน้านี้เขาเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการในช่วงปี 2563-2564 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาแห่งชาติ ในปี 2558-2563

ทั้งนี้ผลงานชิ้นโบแดงที่ทำให้ ลอว์เรนซ์ หว่อง ได้รับเลือกเป็นผู้นำรุ่นที่ 4 ของพรรค People's action Party(PAP) และได้รับเลือกเป็นว่าที่นายรัฐมนตรีคนใหม่ต่อจากลี เซียนลุง คือ การประสบความสำเร็จในการจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจรับมือกับวิกฤตการณ์โควิด-19  ส่งผลให้สิงคโปร์เป็นประเทศที่มีอัตราเสียชีวิตต่ำที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ด้วยเหตุนี้ ลี เซียนลุง จึงเชื่อมั่นว่า ลอว์เรนซ์ หว่อง จะสามารถเอาชนะใจประชาชนขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของสิงคโปร์ อย่างเป็นทางการหลังจากการเลือกตั้งในปี 2568


"สิงคโปร์" จะอยู่รอดอย่างไร ในยุคเศรษฐกิจผันผวน โจทย์ใหญ่นายกฯ คนใหม่


ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก จากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งสงครามในตะวันออกกลาง และสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ขยายวงกว้างและทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สิงคโปร์ก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับว่าที่นายกฯ คนใหม่ที่ต้องพิสูจน์ความสามารถตัวเอง เนื่องจากปัจจุบันความขัดแย้งดังกล่าวได้กดดันให้ค่าครองชีพพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ จนคนในประเทศเริ่มอยู่ยาก โดยในปี 2566 สิงคโปร์ ยังคงครองแชมป์เป็น เมืองที่ค่าครองชีพสูงที่สุดในโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ตลอดช่วง 11 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะราคาที่อยู่อาศัยที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่โควิด-19 จากการหลั่งไหลเข้ามาของชาวต่างชาติ ทั้งที่เข้ามาทำงานและตั้งรกราก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายวีซ่าพิเศษเพื่อดึงดูดแรงงานฝีมือระดับโลกเข้ามาทำงานในสิงคโปร์เพิ่มขึ้นของรัฐบาล แม้แต่แฟลตจัดสรรของรัฐภายใต้คณะกรรมการพัฒนาการเคหะแห่งชาติ (Housing Development Board: HDB) ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของประชากรกว่า 80% ยังเป็นเจ้าของได้ยาก ระหว่างปี 2564-2565 พบว่ามูลค่าขายต่อปรับเพิ่มขึ้นปีละ 10%-12% เลยทีเดียว ยังไม่รวมถึงปัญหาอัตราการเกิดต่ำ ทำให้สิงคโปร์เตรียมเข้าสู่สังคมสูงวัยแบบสมบูรณ์ภายในปี 2573 ซึ่งรัฐบาลคาดว่าจะมีผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป มากถึง 1 ใน 4 ของจำนวนประชากร เพิ่มภาระทางการคลัง กดดันคนรุ่นใหม่ให้ต้องทำงานหนักเพื่อจ่ายภาษีสมทบเงินดูแลผู้สูงอายุ อีกหนึ่งปัญหาที่หลายคนมองข้ามอย่างปัญหาสุขภาพจิต ภาวะ Burn out อย่างหนักในคนรุ่นใหม่ ก็กำลังส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระยะยาว


แผนพัฒนาประเทศ จากความคิด "ประชาชน"


ก่อนหน้าที่ ลอว์เรนซ์ หว่อง จะถูกประกาศว่าเป็นว่าที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์และผู้นำคนต่อไปของพรรค PAP นั้น ในเดือนมิถุนายนปี 2565 หว่องได้จัดทำแผนงาน Forward Singapore Roadmap ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นประชาชนถึงแนวทางพัฒนาประเทศสิงคโปร์ เพื่อใช้ในการจัดทำงบประมาณ และสรุปแนวทางแก้ไขปัญหาเชิงนโยบาย ซึ่งแผนงานนี้จะกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการกำหนดนโยบายของรัฐบาลภายใต้การนำของนายหว่อง โดยมีการสำรวจความคิดเห็นใน 6 ด้านดังนี้


1. Empower: Economy and Jobs 

การสร้างพลังทางเศรษฐกิจและการทำงาน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว


2. Equip: Education and lifelong learning 

การจัดเตรียมความพร้อมด้านการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่ชาวสิงคโปร์ โดยเฉพาะในประเด็นการขยับสถานะทางสังคม (social mobility)


3. Care: Health and social support 

ความเอาใจใส่ด้านสุขภาพและการสนับสนุนทางสังคมชาวสิงคโปร์


4. Build: Home and living environment

สร้างที่อยู่อาศัยและสภาพแวดล้อมที่คนสิงคโปร์สามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้


5. Steward: Environmental and fiscal sustainability 

เพื่อสร้างเมืองสิงคโปร์ที่ยั่งยืนและยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศสำหรับคนรุ่นหลัง คนสิงคโปร์จึงให้ความสำคัญกับความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม


6. Unite: Singapore identity 

ความเป็นหนึ่งเดียวกันและการส่งเสริมเอกลักษณ์ของสิงคโปร์

แนวทางพัฒนาเศรษฐกิจของผู้นำรุ่นใหม่


1. รักษาสถานะในเวทีโลก

ตลอด 20 ปี ภายใต้การนำรัฐบาลของ ลี เซียนลุง สิงคโปร์ได้กลายเป็นประเทศพัฒนาแล้วที่มีเศรษฐกิจล้ำหน้าประเทศในกลุ่มอาเซียน และเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย ด้วยการเป็นศูนย์กลางทางการเงิน เมืองท่า และตลาดเทคโนโลยีที่สำคัญระดับโลก แต่ปัจจุบันความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์นั้นสร้างความท้าทายให้กับเศรษฐกิจสิงคโปร์อย่างมาก เนื่องจากสิงคโปร์เป็นประเทศที่ไม่มีทรัพยากรเป็นของตัวเอง จึงต้องพึ่งพาการเติบโตจากต่างประเทศ ดังนั้นนอกจากภารกิจสานต่อและพัฒนาความสัมพันธ์ทางการฑูตกับนานาประเทศแล้ว ลอว์เรนซ์ หว่อง มองว่ากุญแจสำคัญที่จะช่วยให้สิงคโปร์รักษาสถานะและบทบาทสำคัญในเวทีโลกได้ คือการรักษาระดับการเติบโตเศรษฐกิจ ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน


2. พัฒนาเศรษฐกิจ ยกระดับความเป็นอยู่

ในการที่จะรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจที่ระดับ 2-3% ต่อปี ในอีก 10 ปีข้างหน้า คือการรักษาผลิตภาพและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจ โดยหว่องมองว่าการยกระดับทักษะแรงงานให้พร้อมรับเทคโนโลยีใหม่ๆ และการขึ้นค่าแรงเป็นวิธีที่ทำให้บรรลุเป้าหมายได้ โดยงบประมาณปี 2567 จะมุ่งเน้นไปที่การยกระดับทักษะแรงงานวัยกลางคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ผ่านโปรแกรม SkillsFuture Level-up โดยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.เป็นต้นไป จะได้รับเงินสนับสนุนคนละ 4,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ เพื่อเป็นทุนการศึกษาพัฒนาทักษะตามความสนใจ โดยมีให้เลือกถึง 7,000 หลักสูตร


และให้เงินอุดหนุนครึ่งหนึ่งกับภาคธุรกิจเพื่อผลักดันการขึ้นค่าแรงให้กับกลุ่มแรงงานค่าแรงต่ำ ซึ่งนอกจะช่วยลดภาระให้กับภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กแล้ว ยังเป็นการลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ กระตุ้นให้เกิดการเติบโตของค่าจ้างที่แท้จริงอีกด้วย

อ้างอิง

อ่านข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/economics/world_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ