พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.เป็นประธาน ได้มีการพิจารณารายละเอียดของการออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ตามมาตรา 44 ในการผ่อนปรนให้กับผู้ที่รุกล้ำน่านน้ำสาธารณะและมีความผิดตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2560 อีกครั้งโดยได้เพิ่มเวลาอีก 180 วันสำหรับผู้ที่รุกล้ำน่านน้ำก่อนปี 2515 จะได้มีเวลาไปหาเอกสารหลักฐานมาประกอบการขออนุญาตกับทางกรมเจ้าท่า
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ คสช.ได้หารือว่าจะขยายเวลาให้อีก 60 วัน นับจากกฎหมายใช้บังคับเมื่อ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้ผู้ที่รุกล้ำน่านน้ำไปขึ้นทะเบียนกับทางกรมเจ้าท่าโดยไม่ต้องเสียค่าปรับ อย่างไรก็ตาม การประชุมครั้งนี้ได้เพิ่มเวลาให้อีก 180 วัน สำหรับผู้ที่รุกล้ำน่านน้ำได้มีเวลาไปจัดเตรียมเอกสารหลักฐานยื่นกับกรมเจ้าท่า ขณะเดียวกันได้กำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนว่ากรณีใดจะได้รับการผ่อนปรน เนื่องจากนายกรัฐมนตรีไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกรับผลประโยชน์ได้
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์การผ่อนผันประกอบด้วย 1.ผู้ที่รุกล้ำน่านน้ำตั้งแต่ก่อนปี 2015 ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี สมุทรปราการ สามารถมาแจ้งทำการขออนุญาตได้เลย แต่หากอยู่นอก 3 จังหวัดดังกล่าวต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่ขึ้นทะเบียนบัญชีเพื่อให้เกิดระบบเรียบร้อย 2.ผู้ที่รุกล้ำน่านน้ำหลังปี 2515- 2537 จะพิจารณาว่าจะอนุญาตให้อยู่ต่อหรือไม่ขึ้นอยู่กับ 3 หลักเกณฑ์ คือสิ่งที่รุกล้ำดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการเดินเรือ ทำให้ทางน้ำเปลี่ยนและกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือไม่ 3.ผู้ที่รุกล้ำน่านน้ำระหว่างปี 2537-2560 มีปัจจัยที่อนุญาตได้ 11 ประเภท อาทิ เป็นท่าเทียบเรือ สะพานปรับระดับ โป๊ะเทียบเรือ กระชังเพาะสัตว์น้ำ สิ่งปลูกสร้างของราชการที่สร้างขึ้นเพื่อประโยชน์ทางราชการเป็นต้น และ 4.การลุกล้ำ น่านน้ำหลังปี 2560 ขึ้นไปจะไม่มีการอนุญาตยกเว้นเป็นการเข้าไปเพื่อประโยชน์ทางสาธารณะเท่านั้น.