วิกฤติโลก-ปราบทัวร์ศูนย์เหรียญพ่นพิษ
“บวท.” เผยวิกฤติโลก–ปราบทัวร์ศูนย์เหรียญ ฉุดยอดเที่ยวบินในไทยต่ำเป้า คาดทั้งปีอยู่ที่ 9.6 แสนเที่ยวบิน ขยายตัว 6% จากเป้าหมาย 9% พร้อมรับมือ “ไอเคโอ” ตรวจมาตรฐานความปลอดภัยการบิน 11–21 ก.ค.นี้ ขณะที่ “คมนาคม” ยังไม่ชัวร์ รถบัสแอร์เอเชียชนเครื่องบินนกแอร์ กระทบการตรวจสอบหรือไม่
นางสาริณี อังศุสิงห์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) เปิดเผยว่า ในปีงบประมาณ 60 (เดือน ต.ค.59-ก.ย.60) การเติบโตของเที่ยวบินในไทยจะอยู่ที่ราว 6% ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 9% เพราะวิกฤตการณ์โลก ทั้งเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และความขัดแย้งระหว่างประเทศ ส่งผลให้เที่ยวบินทั่วโลกลดลง และทั้งโลกได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน แต่ไทยยังได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากการปราบทัวร์ศูนย์เหรียญในช่วงต้นปี รวมถึงบรรยากาศภายในประเทศด้วย แต่ล่าสุดพบว่า จำนวนเที่ยวบินเริ่มเพิ่มขึ้นแล้ว
สำหรับในช่วง 8 เดือนของปีงบประมาณ 60 คือ เดือน ต.ค.59-พ.ค.60 มีเที่ยวบินในน่านฟ้าไทย 710,000 เที่ยวบิน ขยายตัว 6% ส่วนทั้งปีงบประมาณตั้งเป้าหมายที่ 950,000-960,000 เที่ยวบิน ขยายตัว 6% ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 9% ขณะที่รายได้ 8 เดือน อยู่ที่ 9,100 ล้านบาท และทั้งปีตั้งเป้าหมายไว้ที่ 12,000 ล้านบาท
นางสาริณีกล่าวต่อถึงการเตรียมความพร้อมรองรับกรณีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) จะตรวจสอบภายใต้โครงการตรวจสอบด้านการรักษาความปลอดภัยการบินพลเรือน (ยูแซฟ) ของไทยวันที่ 11-21 ก.ค.นี้ว่า ไอเคโอจะตรวจสอบสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง และสำนักงานใหญ่ของ บวท. คิดว่าไม่น่ามีปัญหา เพราะเตรียมพร้อมแล้ว โดยวันที่ 5 ก.ค.นี้ จะตรวจความพร้อมสำนักงานใหญ่ และวันที่ 7 ก.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง
“ตอนนี้เร่งทบทวนสิ่งที่ไอเคโอจะตรวจ เช่น มาตรการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ ระบบรักษาความปลอดภัย ทั้งการเข้าถึงพื้นที่ ตัวบุคคล ระบบอุปกรณ์ต่างๆ เพราะไอเคโอจะดูว่ามีแผนฉุกเฉินรับมือเหตุการณ์ต่างๆ หรือไม่ มีมาตรการควบคุมอย่างไร และทบทวนมาตรการดังกล่าวหรือไม่ ซึ่ง บวท.ได้จัดทำเป็นคู่มือรักษาความปลอดภัยการให้บริการเดินอากาศ ทั้ง 36 สนามบิน และแผนฝึกอบรมพนักงานตามคู่มือฯ เสนอให้สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) พิจารณาแล้ว”
ทั้งนี้ ไอเคโอจะเริ่มตรวจตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค. เป็นการรับฟังข้อมูลทั้งหมดจาก กพท.ก่อน จากนั้นวันที่ 12 ก.ค. จะตรวจสำนักงานใหญ่ บวท. วันที่ 17 ก.ค. ตรวจหอบังคับการบินสุวรรณภูมิ วันที่ 18 ก.ค.ตรวจหอบังคับการบินที่ดอนเมือง ซึ่งทุกเย็นจะแจ้งให้ทราบว่ามีจุดใดผ่าน และต้องปรับปรุง จากนั้นจะให้เวลาแก้ไข 60 วัน ก่อนแจ้งผลว่าผ่านหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กพท. ว่า จากเหตุการณ์รถบัสรับ-ส่งผู้โดยสารของสายการบินไทยแอร์เอเชีย พุ่งชนอากาศยานสายการบินนกแอร์ ซึ่งจอดอยู่ที่หลุมจอด 35 สนามบินดอนเมือง เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้ ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะส่งผลกระทบด้านลบ ต่อกรณีที่ไอเคโอ จะตรวจสอบตามยูแซฟที่ไทยวันที่ 11-21 ก.ค.นี้ หรือไม่ เพราะต้องรอผลการสอบข้อเท็จจริงก่อนว่าอุบัติเหตุนี้มีสาเหตุจากคนขับรถไม่ได้ปฏิบัติตามคู่มือความปลอดภัย หรือเกิดเหตุสุดวิสัย โดยกระทรวงคมนาคมจะเร่งตรวจสอบสาเหตุ น่าจะรู้ผลภายใน 1-2 สัปดาห์.