นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบการบริหารจัดการและขนส่งสินค้า (กบส.) เห็นชอบแนวทางการจัดตั้งหน่วยงานบริหารจัดการและพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์สำหรับการนำเข้า ส่งออก และโลจิสติกส์ หรือเนชั่นแนล ซิงเกิ้ล วินโดว์ โดยมีกลไกการบริหารงานภายใต้คณะกรรมการ กบส.ในรูปแบบคณะอนุกรรมการพัฒนานโยบายและกำกับดูแลระบบเนชั่นแนล ซิงเกิ้ล วินโดว์ และมอบหมายให้กรมศุลกากร รับไปดำเนินการ ปรับโครงสร้างองค์กร รองรับภารกิจที่เพิ่มขึ้นของการพัฒนาระบบงานแลกเปลี่ยนข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเพื่อให้การพัฒนาระบบเนชั่นแนล ซิงเกิ้ล วินโดว์ มีความต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพเป็นมาตรฐานสากล รองรับการพัฒนาสอดคล้องกับเงื่อนไขและการจัดอันดับมาตรฐานทางการค้าระหว่างประเทศ
“เรื่องเนชั่นแนล ซิงเกิ้ล วินโดว์ กรมศุลกากรจะเป็นตัวกลางเชื่อมโยงข้อมูลของทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงกับอาเซียน ซึ่งเรื่องนี้จะมีผลต่อการจัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจของธนาคารโลกหรือเวิลด์แบงก์ด้วย โดยประเทศไทยจะรายงานความคืบหน้าล่าสุดให้เวิลด์แบงก์รับทราบต่อไป”
สำหรับการติดตามประเมินผล ปรับลดขั้นตอนกระบวนการทำงานของหน่วยงานภาครัฐรายสินค้ายุทธศาสตร์ ได้แก่ น้ำตาล ข้าว ยางพารา สินค้าแช่แข็ง และวัตถุอันตรายนั้น ให้เป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะ อนุกรรมการพัฒนานโยบายและกำกับดูแลระบบเนชั่นแนล ซิงเกิ้ล วินโดว์ ที่จะจัดตั้งขึ้น และให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) นำข้อเสนอแนะการปรับลดขั้นตอนกระบวนการทำงานภาครัฐฯ กำหนดเป็นตัวชี้วัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลดขั้นตอนกระบวนการนำเข้า ส่งออก และโลจิสติกส์ของประเทศเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์และไร้เอกสาร รวมทั้งพิจารณาแนวทางแก้ปัญหาอุปสรรคของกฎหมาย หรือระเบียบที่เกี่ยวข้องและงบประมาณสนับสนุนเพื่อเสนอคณะกรรมการ กบส.ต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบหลักการร่างแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย ฉบับที่ 3 ปี 2560-2564 เพื่อยกระดับระบบโลจิสติกส์ของประเทศ สนับสนุนการเป็นศูนย์กลางทางการค้า การบริการและการลงทุนในภูมิภาค และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการในการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมการบริหารจัดการโลจิสติกส์ เป็นต้น.