พบสัญญาณบวก ราคาน้ำมันขยับ สรท.ปรับเป้าส่งออกปีนี้โต 2.5-3.5%

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

พบสัญญาณบวก ราคาน้ำมันขยับ สรท.ปรับเป้าส่งออกปีนี้โต 2.5-3.5%

Date Time: 3 พ.ค. 2560 14:00 น.

Video

ดร.พิพัฒน์ KKP กระเทาะโจทย์เศรษฐกิจไทย บุญเก่าเจอความเสี่ยง บุญใหม่มาไม่ทัน

Summary

  • สรท.ปรับเพิ่มเป้าส่งออกไทยปีนี้เป็นขยายตัว 2.5-3.5% จากเดิมโต 2-3% หลังมีสัญญาณบวกเพียบ ทั้งราคาน้ำมันเพิ่ม ดันราคาสินค้าเกษตรพุ่งตาม และเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นชัด

Latest


สรท.ปรับเพิ่มเป้าส่งออกไทยปีนี้เป็นขยายตัว 2.5-3.5% จากเดิมโต 2-3% หลังมีสัญญาณบวกเพียบ ทั้งราคาน้ำมันเพิ่ม ดันราคาสินค้าเกษตรพุ่งตาม และเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นชัด

เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 60 นางสาวกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ส่งออกของไทยในปีนี้ว่า ขณะนี้ สรท.ได้ปรับประมาณการณ์มูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอยู่ระหว่าง 2.5-3.5% จากปีก่อน หรือน่าจะขยายตัวได้ที่ 3.4% คิดเป็นมูลค่า 220,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากเดิมที่ประมาณการณ์ไว้ที่ขยายตัวเพียง 2-3% เท่านั้น

ทั้งนี้ เพราะมีสัญญาณบวกของราคาน้ำมันโลก ที่ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันมีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศคู่ค้ามีสัญญาณฟื้นตัวดีขึ้น คาดว่ามูลค่าการส่งออกในไตรมาส 2 ยังเป็นบวกอยู่ และน่าจะขยายตัวอยู่ในระดับใกล้ๆ 5% ได้ จากไตรมาสแรกปีนี้ขยายตัวแล้ว 4.88% มูลค่า 56,400 ล้านเหรียญฯ เติบโตสูงสุดในรอบกว่า 4 ปี ส่วนไตรมาส 3 และ 4 สถานการณ์น่าจะยังทรงตัวเหมือนไตรมาส 2 แม้จะมีปัจจัยเสี่ยงที่ยังวิตกอยู่

สำหรับ ปัจจัยเสี่ยงในช่วงครึ่งปีหลัง ที่ผู้ส่งออกยังกังวลอยู่คือ ความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางการเมืองในภูมิภาคต่างๆ ความไม่ชัดเจนของนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐอเมริกา รวมไปถึงแนวโน้มโลกอาจใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (เอ็นทีบี) เพิ่มมากขึ้น ทำให้การหาตลาดใหม่ๆ มาทดแทนทำได้ยาก ประกอบกับ ภาระหนี้สะสมทั่วโลกที่สูงถึง 325% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมของโลก (จีดีพี) ที่อาจเป็นระเบิดเวลาลูกใหม่ทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกัน มีการค้าผ่านระบบ อี-คอมเมิร์ซ มากขึ้น ทำให้รูปแบบการค้าในอนาคตเปลี่ยนไป

อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกเห็นว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง การส่งออกของไทยอาจจะไม่สดใสเหมือนครึ่งปีแรก จึงควรเร่งดำเนินการเพื่อเตรียมรับมือ และบรรเทาความเสียหายให้กับผู้ประกอบการในแต่ละอุตสาหกรรม เร่งสร้างภาพลักษณ์สินค้าและประเทศให้ดีที่สุด เพื่อลดการถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นข้ออ้างในการใช้มาตรการเอ็นทีบี เร่งพัฒนายุทธศาสตร์การค้าผ่านระบบอี-คอมเมิร์ซ ทั้งในและระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ต้องเร่งทำยุทธศาสตร์การเจรจาการค้าเสรีแบบทวิภาคีกับประเทศคู่ค้าหลัก เดินกลยุทธ์เจาะตลาดเฉพาะ (นิช มาร์เก็ต) โดยตรง เป็นต้น

ส่วนการที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เชิญพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยเดินทางไปเยือนสหรัฐฯ นั้น น.ส.กัณญภัค กล่าวว่า น่าจะแสดงให้เห็นถึงการยอมรับไทยของสหรัฐฯในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นการเปิดโอกาสให้เกิดการเจรจาการค้าระหว่างกัน โดยเฉพาะในประเด็นการขาดดุลการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับไทย


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ