มีข่าวออกมาให้เห็นเป็นระยะๆ สำหรับบทบาทใหม่ ของชาวเมียนมา หรือ ชาวพม่า ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทย จากการเป็นกลุ่มผู้ซื้อใหม่มาแรง โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลุ่มผู้ซื้อหลัก อย่างชาวจีนลดน้อยหายไป
ล่าสุด ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) เผยแพร่ภาพรวมสถานการณ์ การซื้อ-โอนกรรมสิทธิ์ คอนโดมิเนียม ทั่วประเทศ ในกลุ่มชาวต่างชาติของปี 2566 สอดคล้อง พบ ผู้ซื้อกลุ่มนี้ กลายเป็นลูกค้าน่าจับตา จากการรั้งตำแหน่ง ผู้ซื้อกระเป๋าหนัก ราคาเฉลี่ยต่อยูนิต แพงที่สุด!
รายละเอียดระบุว่า การโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด หรือ คอนโดฯ ของคนต่างชาติในปี 2566 ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนยูนิตและมูลค่า ค่าเฉลี่ยต่อไตรมาส กลับมาอยู่ที่ 3,600 ยูนิต แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์การโอนฯ คอนโดฯ ของคนต่างชาติเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะที่ดีและเริ่มเป็นปกติแล้ว
พิจารณาลงไปในรายพื้นที่จังหวัด พบว่า ทำเลยอดฮิต มีจังหวัดชลบุรีมาเป็นอันดับ 1 (41.1%) ขณะที่กรุงเทพมหานคร เป็นอันดับ 2 (38%)
“ทั้ง 2 จังหวัดมีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกันสูงถึง 79% และมูลค่ารวมกันสูงถึง 85.4% โดยมีข้อสังเกตว่า ชลบุรีเพิ่งมีการขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในปี 2566 จากเดิม เป็น กทม.มาโดยตลอด “
เรียกได้ว่า สถานการณ์เปลี่ยน จากช่วงปี 2561-2565 ซึ่งเดิมสัญชาติที่มีจำนวนยูนิตสะสมสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่
สำหรับในเรื่องขนาดและราคาห้องเฉลี่ย ในปี 2566 พบว่า คอนโดฯ ที่ชาวต่างชาติโอนกรรมสิทธิ์ มีขนาดเฉลี่ย 45.6 ตารางเมตร มูลค่าเฉลี่ย 5.1 ล้านบาท/ยูนิต
ทั้งนี้ ที่น่าสนใจ พบว่า พม่าเป็นสัญชาติที่มีมูลค่าการโอนต่อยูนิตสูงสุด เฉลี่ย 6.6 ล้านบาท และสหราชอาณาจักรเป็นสัญชาติที่โอนห้องชุดขนาดใหญ่ที่สุดเฉลี่ย 56.5 ตารางเมตร โดยชาวจีนซึ่งเป็นสัญชาติที่มีสัดส่วนการโอนห้องชุดมากที่สุด โดยมีมูลค่าการโอนเฉลี่ย 5.2 ล้านบาทต่อยูนิต และพื้นที่ห้องชุดเฉลี่ย 39.5 ตารางเมตร
ย้อนสถิติ กลุ่มผู้ซื้อชาวจีน เรียกว่ามี บทบาทต่ออสังหาฯ ไทยอย่างมาก โดยพบว่าตั้งแต่ปี 2561-2566 เป็นผู้ซื้อเบอร์ 1 มียูนิตครอบครองสะสมรวมกันทั้งสิ้น 37,987 ยูนิต คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1.69 แสนล้านบาท
จากการประมวลภาพของการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดให้คนต่างชาติทั้งหมด ทำให้เราเห็นได้ว่า ปริมาณทั้งในมิติของจำนวน มูลค่า และพื้นที่ เริ่มฟื้นตัวกลับมาแล้ว
ที่มา : REIC
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney