ท่ามกลางอากาศที่ร้อนอบอ้าวกว่า 40 องศา และการเมืองร้อนๆในสภา EIU หรือ Economist Intelligence Unit ของอังกฤษ ได้ประกาศผลการจัดอันดับ “ประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการทำธุรกิจ” ปีนี้ สิงคโปร์ ประเทศเพื่อนบ้านของไทยครอง “อันดับ 1 ประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการทำธุรกิจ” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 โดย Prianthi Roy ผู้จัดการฝ่ายคาดการณ์ประเทศของอีไอยูและนักวิเคราะห์ยุโรป กล่าวกับซีเอ็นบีซีว่า “สิงคโปร์ยังคงรั้งตำแหน่งภูมิศาสตร์ที่ดีที่สุดในโลก สำหรับการทำธุรกิจต่อไปเหมือนกับช่วง 16 ปีที่ผ่านมา”
แสดงว่าตลอด 16 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ สิงคโปร์ ได้ครอง อันดับ 1 ประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการทำธุรกิจ รัฐบาลสิงคโปร์ทุกสมัยได้พัฒนาต่อเนื่องจนสามารถรักษา “มาตรฐาน” ไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ท่ามกลางการแข่งขันที่รุนแรงทั่วโลก นายกฯสิงคโปร์ ไม่ต้องวิ่งรอกเป็นเซลส์แมนขายฝันดึงคนมาลงทุน นักลงทุนก็แห่เข้าไปลงทุนในสิงคโปร์
นางรอย กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ สิงคโปร์ยังเป็นประเทศจุดหมายปลายทางด้านธุรกิจที่ดีที่สุด ก็คือ การเมืองมีเสถียรภาพ รัฐบาลมุ่งเน้นให้ความช่วยเหลือบริษัทเอกชนในการยกระดับด้านเทคโนโลยี การจัดอันดับของ EIU ประเมินจากความน่าดึงดูดในการทำธุรกิจของประเทศและเขตแดน 82 แห่งทั่วโลก โดยพิจารณาจากดัชนีบ่งชี้ในด้านต่างๆ เช่น ภาวะเงินเฟ้อ ค่าครองชีพ การเติบโตทางเศรษฐกิจ และนโยบายการคลัง นอกจากนี้ EIU ยังพิจารณาถึงประเด็นที่ว่า ประเทศใดเป็นสถานที่ที่สามารถสร้างการเติบโตได้ดีกว่าประเทศอื่น และประเทศใดมีแนวโน้มที่จะได้รับเม็ดเงินลงทุนเข้าสู่ประเทศในเร็วๆนี้
ซีเอ็นบีซี ได้รายงาน 10 อันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลกสำหรับการทำธุรกิจ ปีนี้ดังนี้
อันดับ 1 สิงคโปร์ 8.56 คะแนน อันดับ 2 เดนมาร์ก 8.41 คะแนน อันดับ 3 สหรัฐฯ 8.40 คะแนน อันดับ 4 เยอรมนี 8.35 คะแนน อันดับ 5 สวิตเซอร์แลนด์ 8.33 คะแนน อันดับ 6 แคนาดา 8.31 คะแนน อันดับ 7 สวีเดน 8.29 คะแนน อันดับ 8 นิวซีแลนด์ 8.26 คะแนน อันดับ 9 ฮ่องกง 8.24 คะแนน อันดับ 10 ฟินแลนด์ 8.22 คะแนน
ไม่มีรายงานข่าวว่า ประเทศไทย อยู่อันดับไหน
นางรอย คาดว่า สิงคโปร์ เดนมาร์ก และสหรัฐฯ จะมีสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดีที่สุดต่อไปอีก 5 ปีข้างหน้า โดย เดนมาร์ก มีพื้นฐานเศรษฐกิจมหภาคที่แข็งแกร่ง มีระบบการขนส่งและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีคุณภาพสูง ทำให้เป็นหนึ่งในทำเลธุรกิจที่น่าดึงดูดที่สุดในโลก ส่วน สหรัฐอเมริกา โอกาสทางการตลาดยังคงดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อจำกัดบางประการต่อการค้าและการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ ประเทศเหล่านี้ล้วนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจก้าวหน้า เป็นประเทศที่แข็งแกร่งมายาวนานในดัชนีของเรา ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่จะเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับการลงทุน
ประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีการปรับปรุงที่สำคัญ ได้แก่ กรีซ กาตาร์ และ อินเดีย โดย อินเดียเป็นตลาดประเทศเดียวที่มีขนาดศักยภาพเทียบได้กับจีน ประชากรรุ่นใหม่ของประเทศอินเดีย เป็นสัญญาณที่ดีสำหรับกำลังแรงงานและความต้องการในอนาคต ทำให้อินเดียอยู่ในอันดับ 3 ในรายการสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ได้รับการปรับปรุงมากที่สุด
สิ่งที่ EIU ให้ความสำคัญในการจัดอันดับก็คือ การปฏิรูปหลักคิดของรัฐบาล การเข้าไปมีส่วนร่วมในการสนับสนุนธุรกิจ แทนที่จะเข้าไปควบคุมเพื่อผลประโยชน์ มีรัฐบาลหลายประเทศคิดว่า เมื่อได้ลงทุนทางการเมืองไปแล้ว ก็ต้องกอบโกยผลประโยชน์โดยใช้อำนาจรัฐ แต่ผลร้ายที่เกิดขึ้นตามมาก็คือ ทำให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชัน เกิดการผูกขาดทางธุรกิจ ทำให้ภาพลักษณ์ของชาติเสียหาย กลายเป็น “ประเทศที่ไม่ปลอดภัยในการทำธุรกิจ” จีดีพีของประเทศไม่เติบโต สิงคโปร์ จึงเป็น “ตัวอย่างและบทเรียนในเชิงบวก” ที่รัฐบาลไทยควรศึกษาให้ลึกซึ้งเพื่อเอาอย่าง ไม่ใช่ “บ่อนกาสิโน” ที่เป็นบทเรียนเชิงลบ.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม