เสียงนักธุรกิจหลังเหตุยิงกลางห้าง สยามพารากอน น้อมรับคำแนะนำ เอกชนหวังรัฐฟื้นความเชื่อมั่นคนจีน

ในครั้งนี้ #Thairath Money ได้มีการรวบรวมแถลงการณ์ ทั้งจากทางสถานที่ที่เกิดเหตุการณ์สลดขึ้น ซึ่งนั่นก็คือ “สยามพารากอน” รวมทั้งบรรดาห้างค้าปลีกที่มีความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ บวกกับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่จะสร้างความอุ่นใจภายในศูนย์การค้า และทางภาคส่วนที่เกี่ยวข้องที่คาดว่าอาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสมาคมค้าปลีก-ส่งไทย, สมาคมโรงแรมไทย ที่มีมุมมองต่อภาพรวมและเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้น

เริ่มต้นกันที่ทาง “สยามพารากอน” ได้มีการออกแถลงการณ์ โดยมีใจความดังนี้ “ตามที่เกิดเหตุการณ์อันไม่คาดคิดเมื่อเย็นวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา สยามพารากอนได้ทราบข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีผู้บาดเจ็บรวม 5 ราย ซึ่งหนึ่งในผู้บาดเจ็บคือ พนักงานรักษาความปลอดภัยของสยามพารากอน ที่พยายามเข้าไประงับเหตุทันที และมีผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นชาวต่างชาติ 2 ราย 

สยามพารากอนขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บบริษัทฯ จะดูแลช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างดีที่สุด สำหรับผู้บาดเจ็บ บริษัทฯพร้อมให้การดูแลรักษา และรับผิดชอบตามดูแลทุกท่านจนกว่าจะหายเป็นปกติ 

สยามพารากอนมีนโยบายปฏิบัติและมาตรการระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด โดยยึดถือความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน และร้านค้าทั้งหมดเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด สยามพารากอนขอขอบพระคุณตำรวจ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสยามพารากอนทุกนายที่ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ยุติสถานการณ์อย่างรวดเร็วและเต็มกำลัง”

ขณะที่ ชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้มีการกล่าวภายในงานพิธีเปิด SIAM PARAGON NEXT TECH x SCBX ในวันนี้ว่า “พนักงานของทางสยามพารากอนได้ดำเนินการระงับเหตุทันทีอย่างสุดความสามารถ อันรวมถึงการอพยพลูกค้าออกจากพื้นที่ และรักษาความปลอดภัยแก่บรรดาร้านค้าและพนักงานที่มีอยู่ในอาคารนี้ไม่ต่ำกว่า 20,000 คน จนสามารถระงับเหตุได้ภายในระยะเวลาอันสั้น อย่างไรก็ดีความสูญเสียที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบเป็นวงกว้างจนไม่สามารถประเมินมูลค่าได้ สยามพารากอนขอขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มอบให้แก่บริษัทฯ และพนักงานของเรา ท่ามกลางวิกฤตการณ์นี้และขอน้อมรับคำแนะนำทั้งปวงเพื่อนำมาพัฒนาและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ขอให้เหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจพวกเราในฐานะคนไทยที่จะต้องช่วยกันปรับปรุงและดูแลสังคม เยาวชน ให้กลับสู่วัฒนธรรมแห่งความรักดังเช่นที่เคยเป็นมา ในโอกาสนี้สยามพารากอนขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทุกท่าน”

ส่วนทางฝั่งของ สมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย “เฮียบู๊” สมชาย พรรัตนเจริญ ที่ปรึกษาสมาคม เปิดเผยกับ Thairath Money ว่า “จะกระทบภาคค้าปลีกไทยหรือไม่นั้น แรกๆ มองเป็นแค่ระยะสั้นเท่านั้น แต่เมื่อข่าวออกไป จะต้องมีการควบคุมข่าว เพียงแค่แจ้งให้ทราบเท่านั้นก็พอ ดังนั้นจึงมองว่าจะกระทบ 3 กลุ่มหลัก ทั้งท่องเที่ยวในเชิงจิตวิทยา ค้าปลีกและขนส่ง 

ซึ่งความเสียหายจะเป็นในส่วนของภาคการท่องเที่ยวที่รัฐบาลได้มีการลดค่าใช้จ่าย ฟรีวีซ่า ซึ่งจากการที่คนจีนไม่มาประเทศไทยก่อนหน้านี้เพราะมีข่าวความไม่ปลอดภัย ทุนจีนสีเทา การจับนักท่องเที่ยวจีนไปเรียกค่าไถ่ จึงต้องมาดูสาเหตุว่าที่ชาวจีนไม่มาเพราะอะไร และเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น จากที่เศรษฐกิจไม่ดีอยู่แล้ว รายได้ก็ยังหดหายไปอีก อาจจะเกิดการซ้ำร้ายอีกหรือไม่ ดังนั้นความปลอดภัยความเชื่อมั่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ จึงเป็นเรื่องของอนาคตที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเกิดความวิตกกังวลได้ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่จะต้องมีนโยบายและมาตรการออกมาช่วยตรงจุดนี้ รวมทั้งขอแสดงความเสียใจกับทุกภาคส่วนต่อเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน” 

นอกจากนี้ มาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) เปิดเผยว่า “ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น ซึ่งเราต้องช่วยกันสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยว โปรโมตประเทศ สร้างภาพลักษณ์ที่ดี รวมทั้งร่วมมือกันส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถคืนความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว เนื่องจากก่อนหน้านี้จีนก็ได้มีการนำเหตุการณ์ต่างๆ ไปเผยแพร่จากสถานการณ์ไม่สู้ดีนักของไทย และการเอารัดเอาเปรียบ ดังนั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันเผื่อผลักดันไทยให้กลับมาเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวสำหรับการท่องเที่ยวระยะยาวได้อย่างแท้จริง”

ห้างร้านออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทำให้ ห้างร้าน และองค์กรต่างๆ ออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใย จำนวนมาก 

ไม่ว่าจะเป็นห้างค้าปลีกอย่าง Centralworld ได้มีการออกแถลงการณ์ โดยมีใจความดังนี้ “ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ห่วงใย ใส่ใจในความปลอดภัย เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านอุ่นใจ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ ได้ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัย ดังนี้ ติดตั้งจุดตรวจสอบกระเป๋าและสัมภาระลูกค้าบริเวณประตูทางเข้าศูนย์การค้า โดยขอให้ลูกค้าทุกท่านให้ความร่วมมือแก่เจ้าหน้าที่ในการตรวจสอบ, ยกระดับการตรวจตราความปลอดภัยผ่านระบบกล้องวงจรปิด CCTV ของศูนย์การค้า, จัดเตรียมทีมเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยเดินตรวจตราภายในศูนย์การค้า พร้อมช่วยเหลือลูกค้าและพนักงานร้านค้าหากเกิดเหตุการณ์ผิดปกติ, เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผ่านการฝึกอบรมในการระงับเหตุร้ายทุกรูปแบบอยู่เป็นประจำ และมีความพร้อมในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉินต่างๆ ได้ทันที ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจในการใช้บริการของลูกค้าทุกท่าน"

ส่วนทางด้าน เดอะมอลล์ กรุ๊ป ก็ได้มีการออกแถลงการณ์เช่นเดียวกัน “ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอให้ผู้บาดเจ็บทุกท่านปลอดภัย ขอขอบคุณตำรวจ อาสาสมัครทุกนาย และทีมรักษาความปลอดภัยของสยามพารากอนที่ได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่เข้ายุติสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มกำลัง และขอขอบพระคุณทุกกำลังใจที่มอบให้แก่พวกเราในวิกฤตการณ์ครั้งนี้”

ส่วนทางฝั่งของ Take Toys Thailand ในฐานะนายจ้างของพนักงานหญิงชาวเมียนมาที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ได้มีการออกแถลงการณ์เช่นเดียวกัน “ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอร่วมไว้อาลัยให้กับการจากไปของ 1 ในสมาชิกของเราที่เป็นเหยื่อจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ รวมถึงขอส่งกำลังใจให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยดี 

ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง และขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มอบให้แก่พวกเราในเหตุการณ์ครั้งนี้ พวกเราหวังว่าเหตุการณ์สุดสะเทือนใจแบบนี้จะไม่เกิดขึ้นเพื่อสร้างความสูญเสียแก่ใครอีกในอนาคต”

ทางฝั่งของ สมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมเกมก้าวหน้า ได้มีการออกแถลงการณ์เช่นเดียวกัน โดยมีใจความดังนี้ “เรียนผู้มีอำนาจและกลุ่มสื่อมวลชนที่เกี่ยวข้อง สืบเนื่องจากวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญขึ้น ณ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนหนึ่ง โดยหลังเกิดเหตุได้มีสื่อมวลชนบางสำนักรายงานข่าวว่า ผู้กระทำความผิดมีพฤติกรรมเลียนแบบเกม หรือที่เรียกกับว่า “เด็กติดเกม” 

ทั้งนี้ทางกลุ่มอุตสาหกรรมเกมก้าวหน้า ไม่เห็นด้วยต่อรายละเอียดที่สื่อบางสำนักได้กล่าวอ้างในข้อมูลข้างต้นอาจเป็นการชี้นำที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และเป็นการเรียกยอดความสนใจให้กับสื่อที่ไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือใช้วิจารณญาณในการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วน 

ทั้งนี้ทางกลุ่มอุตสาหกรรมเกมก้าวหน้า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอย้ำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งค้นหาข้อมูลเพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด