เล่นน้ำสงกรานต์สะพัด 1.25 แสนล้าน ต่างชาติแห่เที่ยวคึกคักคนไทยกลับบ้าน-ทำบุญ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

Author

กองบรรณาธิการ

Tag

เล่นน้ำสงกรานต์สะพัด 1.25 แสนล้าน ต่างชาติแห่เที่ยวคึกคักคนไทยกลับบ้าน-ทำบุญ

Date Time: 5 เม.ย. 2566 06:55 น.

Summary

  • มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยชี้ สงกรานต์ปีนี้สุดคึก! วัยรุ่น หนุ่มสาว ออกมาเล่นน้ำ ท่องเที่ยว หลังอั้นมานานดันเงินสะพัดกว่า 1.25 แสนล้านบาท

Latest

วันนี้เคาะแจกเงินหมื่น "ดิจิทัลวอลเล็ต" เฟสแรก “พิชัย” คาดกองทุนซื้อคืนรถไฟฟ้าใช้เงิน 3 แสนล้าน

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยชี้ สงกรานต์ปีนี้สุดคึก! วัยรุ่น หนุ่มสาว ออกมาเล่นน้ำ ท่องเที่ยว หลังอั้นมานานดันเงินสะพัดกว่า 1.25 แสนล้านบาท อ้อนรัฐบาลใหม่แก้ ปัญหาเศรษฐกิจ คอร์รัปชัน ด้าน ททท.ปลื้มคนไทยยังเที่ยวไทย-กลับบ้านรับสงกรานต์ นักท่องเที่ยวต่างชาติพุ่ง 525% คนนิยมเที่ยวทะเล เชียงใหม่เหงาหนี PM 2.5

นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ ที่ปรึกษาประจำสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมใช้จ่ายผู้บริโภคในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 66 ว่า สงกรานต์ปีนี้บรรยากาศคึกคักมาก ผู้คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะวัยรุ่นและคนหนุ่มสาว ที่แม้มีปัญหาโควิด-19 และฝุ่น PM 2.5 แต่ จะออกไปเล่นน้ำ ท่องเที่ยว รวมถึงกลับภูมิลำเนาแน่นอน ส่งผลให้มีมูลค่าใช้จ่ายถึง 125,203 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% เทียบปี 65 ที่ใช้จ่าย 106,772 ล้านบาท แต่ลดลง 7.8% เทียบปี 62 ก่อนโควิด ที่มูลค่าสูงสุด 135,837 ล้านบาท

สำหรับการใช้จ่ายจะมีทั้งทำบุญ ไปเล่นน้ำ สังสรรค์/จัดเลี้ยง ทำอาหารที่บ้าน ทานข้าวนอกบ้าน ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค รวมถึงเดินทาง โดย ผู้ตอบมากถึง 72.8% วางแผนไปเที่ยวและทำกิจกรรมในจังหวัดที่ตนเองอยู่ ไปเที่ยวในและต่างประเทศ เพิ่มขึ้นจากปี 65 ที่วางแผนเดินทาง 52.4% โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยสำหรับท่องเที่ยวในประเทศคนละ 7,091 บาท และต่างประเทศคนละ 45,681 บาท

“มากถึง 67.5% ใช้จ่ายไม่เปลี่ยนแปลงจากปีก่อนถึงลดลง เพราะสินค้าและบริการแพงขึ้น ประหยัด รายได้ลดลง มีหนี้เพิ่มขึ้น ราคาน้ำมัน แพง ฝุ่นพีเอ็ม 2.5 โควิดยังอยู่ ส่วนอีก 32.5% บอกใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะสินค้าแพง หยุดติดกันหลายวัน รายได้เพิ่ม อานิสงส์เราเที่ยวด้วยกัน ไม่ได้เที่ยวนานแล้ว”

ทั้งนี้ เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งนี้จะไปเลือกหรือไม่ ผู้ตอบทุกกลุ่ม ทุกช่วงอายุตั้งแต่วัยรุ่น วัยทำงาน วัยกลางคนไปจนถึงผู้สูงอายุ รวมกันมากถึง 89.6% ไปเลือกแน่นอน ส่วนอีก 6.5% ไม่แน่ใจ และอีก 3.9% ไม่ไป โดยให้คะแนนความคาดหวังว่า รัฐบาลชุดใหม่จะแก้ปัญหาประเทศได้ ที่ 8 คะแนนจากเต็ม 10 ขณะที่สิ่งที่ ต้องการให้รัฐบาลใหม่แก้ไขมากที่สุด คือ ปากท้อง ความยากจน หนี้สิน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม, ฟื้นฟูเศรษฐกิจ, แก้ปัญหาคอร์รัปชัน, ควบคุมค่าครองชีพให้เหมาะสม, ปรับปรุงระบบการศึกษา, เพิ่มเติมรัฐสวัสดิการ, ออกมาตรการสนับสนุนแรงงาน โดยเฉพาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ, ปรับรูปแบบการทำงานของภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ และทันสมัย

ด้านนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ในส่วนของการท่องเที่ยวคาดการณ์การเดินทางท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2566 (12-16 เม.ย.) บรรยากาศโดยรวมมีความคึกคักมากขึ้น ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ มีรายได้สะพัดมากกว่า 18,530 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากตลาดในประเทศ 13,500 ล้านบาท และรายได้จากต่างประเทศ 5,030 ล้านบาท

สำหรับอัตราการเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่ 74% ภาคใต้สูงที่สุดอยู่ที่ 80% ภาคเหนือกลับมีอัตราเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 60% เพราะส่วนใหญ่คนไทยยังคงเดินทางท่องเที่ยวทะเล เนื่องจากย่างเข้าสู่ฤดูร้อน และส่วนหนึ่งมาจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 ทำให้โรงแรมที่พักมีราคาที่นักท่องเที่ยวไทยเอื้อมถึง ขณะที่ภาคเหนือ คาดเกิดจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวเลี่ยงการเดินทาง ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Google Trends ระหว่างวันที่ 30 มี.ค.-3 เม.ย.66 จังหวัดที่มีการค้นหามากสุด คือ นครราชสีมา พระนคร ศรีอยุธยา ระยอง สมุทรปราการและกรุงเทพฯ ขณะที่เชียงใหม่ เป็นหนึ่งในพื้นที่ยอดนิยมสำหรับเล่นสงกรานต์ กลับติดอยู่ในอันดับที่ 7 คาดเป็นผลจากปัญหาฝุ่น PM 2.5

“แม้เทศกาลสงกรานต์ครั้งนี้จะมีปัญหาเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมทั้ง PM 2.5 คนไทยยังตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยว แต่ปรับเปลี่ยน รูปแบบการเดินทางลดจำนวนวันเดินทางให้น้อยลง เลี่ยงพื้นที่ที่มี PM 2.5 โดยคนไทยส่วนใหญ่นิยมเดินทางกลับภูมิลำเนา และใช้โอกาสเดินทางท่องเที่ยว และความอัดอั้นที่ไม่ได้เล่นน้ำสงกรานต์มาเป็นเวลา 3 ปี”

นายยุทธศักดิ์กล่าวต่อว่า นักท่องเที่ยวต่าง ชาติเดินทางเข้าไทยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ มีจำนวน 305,000 คน เพิ่มขึ้น 525% จากปี 2565 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 48,814 คน และเพิ่มขึ้น 58% จากปี 2562 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวน 522,357 คน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 5,030 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 630% จากปี 2565 ที่มีรายได้ 689 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 60% ของปี 2562 ที่มีรายได้ประมาณ 8,321 ล้านบาท.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ