เร่งเพิ่มทุน 2 พันล้านหนีตาย “ซิปเม็กซ์” อาจเข้าข่ายทำผิดกฎหมาย 3 ข้อ

กลุ่มผู้เสียหาย Zipmex มาตามนัดบุก ก.ล.ต. “รื่นวดี” ชี้ซิปเม็กซ์อาจเข้าข่ายความผิด 3 ประเด็น “เอกลาภ” เร่งระดมทุน 2,000 ล้านบาท มั่นใจบริษัทยังมีมูลค่าสูงโยนบริการ zipup+ เป็นของซิปเม็กซ์สิงคโปร์ ที่ลูกค้ากดยินยอมให้โอนเหรียญออกไป ด้าน รมว.คลังสั่งตรวจทุกศูนย์ซื้อขาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค.กลุ่มผู้เสียหายจากการลงทุนใน Zipmex (ซิปเม็กซ์) ได้รวมตัวกันหน้าตึกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อยื่นข้อมูลความเสียหาย พร้อมเข้าหารือกับผู้บริหาร ก.ล.ต. โดยมีนางสาวรื่นวดี สุวรรณ มงคล เลขาธิการ ก.ล.ต.มารับด้วยตนเองและกล่าวว่า ก.ล.ต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เรียกให้บริษัทมาชี้แจงและให้ข้อมูล การได้พบกับผู้เสียหายทำให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น เพื่อนำข้อมูลของทั้ง 2 ฝ่าย มาวิเคราะห์ เพื่อดำเนินการ

เข้าข่ายความผิด 3 ประเด็น

ทั้งนี้ ซิปเม็กซ์อาจเข้าข่ายความผิด 3 ประเด็น คือ 1.ผิดกฎ Trading Rules คือระงับการซื้อขายในบัญชีซื้อขายโดยไม่มีเหตุอันควร 2.เข้าข่ายความผิดการประกอบธุรกิจอื่น ที่ ก.ล.ต.ไม่ได้อนุญาต คือ บริการ Zipup+ ซึ่งเชื่อมโยงกับการโอนสินทรัพย์ลูกค้าไปบริษัทแม่ที่สิงคโปร์ 3.อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายแพ่งหรืออาญาอื่น ก.ล.ต.ได้ประสานงานกับตำรวจไซเบอร์และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการอยู่ เมื่อถามถึงกรณีที่มีข่าวว่า ซิปเม็กซ์ ประเทศไทย มีความเกี่ยวข้องกับ “ตระกูลใหญ่” ที่มีชื่อเสียง มีความหนักใจหรือทำให้ทำงานลำบากหรือไม่ นางสาวรื่นวดีกล่าวว่า ไม่มีผลอะไร ก.ล.ต.ทำตามหน้าที่ไม่หนักใจ

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดกับลูกค้า ซิปเม็กซ์ต้องรับผิดชอบ และได้สั่งให้ ก.ล.ต.ตรวจสอบผู้รับใบอนุญาตศูนย์ซื้อขายและนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลทุกราย ให้ปฏิบัติตามกฎหมายเคร่งครัด เพื่อมิให้เกิดปัญหาเหมือนซิปเม็กซ์ และตรวจสอบการ ทำธุรกรรมของซิปเม็กซ์ ว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ และให้ ก.ล.ต.ทำงานใกล้ชิดกับหน่วยงานรัฐของสิงคโปร์ ดีเอสไอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว

ซิปเม็กซ์ระดมทุน2,000ล้านบาท

ด้านนายเอกลาภ ยิ้มวิไล ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ ซิปเม็กซ์ ประเทศไทย ได้เปิดแถลงข่าวกับสื่อมวลชนครั้งแรก โดยกล่าวว่า สิ่งที่จะบรรเทาความเสียหายให้ลูกค้าได้เร็วที่สุดคือ การระดมเงินทุนจากนักลงทุนใหม่เข้ามามีเป้าหมายระดมเงินให้ได้ 2,000 ล้านบาท ขณะนี้มีนักลงทุน 2 รายที่เซ็นเอ็มโอยูแล้ว ซึ่ง 1 รายได้วางมัดจำบางส่วนแล้ว โดยจะเป็นการเพิ่มทุนเข้าไปในส่วนของบริษัทแม่คือ Zipmex Asia ที่อยู่สิงคโปร์ ไม่ได้เพิ่มทุนเข้ามาในซิปเม็กซ์ประเทศไทย

หากได้เงินแล้ว Zipmex สิงคโปร์จะเป็นผู้เกลี่ยหรือเฉลี่ยเงินคืนให้เจ้าหนี้ รวมทั้งนักลงทุนที่ได้รับความเสียหายจากบริการ Zipup+ เพราะไม่ได้มีแค่ลูกค้าไทย แต่มีลูกค้าอีกหลายประเทศรวมกันกว่า 100,000 ราย แต่ลูกค้าไทยเป็นส่วนใหญ่ 70% หรือกว่า 61,000 ราย

ขอเวลาทำงาน–มั่นใจบริษัทยังมีมูลค่า

ขณะที่บริษัทยังเปิดให้กลุ่มทุนใหม่กลุ่มอื่นเข้าร่วมทุนได้อีก ซึ่งผู้สนใจหลายรายทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลทั้งในและต่างประเทศ ส่วนกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมก็ต้องใส่เงินเข้ามาด้วย วิธีนี้จะทำให้มีโอกาสนำเงินมาคืนผู้เสียหายได้เร็วกว่า การฟ้องร้องคู่ค้าทั้ง Babel Finance ที่มีเหรียญลูกค้าไปฝากไว้ 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และ Celsius Network อีก 5 ล้านดอลลาร์ ที่ทั้ง 2 อยู่ระหว่างขอพักชำระหนี้ ต้องใช้เวลาอีกนาน ส่วนจะชดเชยความเสียหายโดยคืนเงินหรือคืนเหรียญที่ลูกค้าฝากไว้ได้ทั้งหมดหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ในตอนนี้

ทั้งนี้ เตรียมเปิดให้ลูกค้า ZipUp+ ถอนเหรียญบางสกุลที่ฝากไว้ออกได้ คือ SOL, ADA และ XRP ส่วนเหรียญบิทคอยน์ (BTC)-อิเธอเรียม (ETH) ที่เป็นเหรียญหลักส่วนใหญ่ที่ลูกค้าฝากไว้และมีมูลค่าสูงกว่าเหรียญอื่นๆ คาดว่ากลาง เดือน ส.ค.นี้ อาจเกลี่ยออกมาให้นักลงทุนถอนได้บางส่วน มั่นใจว่าบริษัทซิปเม็กซ์ยังมีมูลค่า เมื่อตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลฟื้นตัวจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกมาก

ลูกค้ากดยินยอมโอนไปสิงคโปร์เอง

ส่วนประเด็นที่ ก.ล.ต.แถลงว่า ไม่เคยรู้ว่าบริษัทมีบริการ zipup+ ยืนยันว่า ก.ล.ต.รับทราบ เรามีหลักฐาน เมื่อถามต่อว่า แล้ว ก.ล.ต.ได้รู้รายละเอียดหรือไม่ว่า zipup+ เป็นการโอนสินทรัพย์ของลูกค้าออกไป Zipmex สิงคโปร์ เพื่อนำไปลงทุน นายเอกลาภตัดบทว่า เอาแค่ว่า ก.ล.ต.รู้ว่ามี zipup+ ก็พอ

ผู้สื่อข่าวถามว่าในฐานะผู้บริหาร ซิปเม็กซ์ ประเทศไทยรู้หรือไม่ว่า กฎหมายไม่อนุญาตให้ศูนย์ซื้อขายฯนำสินทรัพย์ที่ลูกค้าฝากไว้ออกไปลงทุน/ ฝากหรือหาดอกผล เช่น ที่มีเสนอบริการ zipup+ให้ลูกค้า นายเอกลาภกล่าวว่า ซิปเม็กซ์ ประเทศไทยไม่อนุญาตให้ทำ แต่ Zipmex สิงคโปร์ให้ทำได้ ส่วนประเด็นว่า ซิปเม็กซ์ไทย เป็นผู้นำพาลูกค้าของซิปเม็กซ์ไทยให้ไปใช้บริการ zipup+ ของสิงคโปร์ เรื่องนี้เราไม่ได้นำพาแต่ลูกค้ายินยอมเอง เพราะลูกค้าที่จะใช้ บริการ zipup+ ต้องกดยินยอม เมื่อถามว่าการกดยินยอมไปใช้ zipup+ของสิงคโปร์มันอยู่บนแอปหรือแพลตฟอร์มของซิปเม็กซ์ประเทศไทย เราจะปฏิเสธความรับผิดชอบได้อย่างไร นายเอกลาภกล่าวว่า ประเด็นนี้ลงลึกไปในรายละเอียดของเรื่องกฎหมายแล้ว อาจพูดอะไรตรงนี้ไม่ได้ ยืนยันว่าแจ้งลูกค้าชัดเจนแล้ว อย่าดึงผมให้ลงไปมีปัญหาด้วย ซึ่งก็มีลูกค้าที่ไม่กดยอมรับ เหรียญของลูกค้าก็ไม่ถูกโอนไปสิงคโปร์.