กกร.-สรท.เกาะติดสงครามยูเครน หวั่นดีดต้นทุนพุ่ง-ส่งออกทรุด

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

กกร.-สรท.เกาะติดสงครามยูเครน หวั่นดีดต้นทุนพุ่ง-ส่งออกทรุด

Date Time: 2 มี.ค. 2565 06:40 น.

Summary

  • ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และ ส.อ.ท. ในวันที่ 2 มี.ค. 2565 จะนำประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย

Latest

ภาษี VAT 7% ของไทย เก็บมากแค่ไหนเมื่อเทียบอาเซียน เส้นทางรายได้ 1 ล้านล้าน ที่ไม่ง่ายจะไปถึง

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และในฐานะประธานสภาธุรกิจไทย-รัสเซีย เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ซึ่งประกอบด้วยสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย และ ส.อ.ท. ในวันที่ 2 มี.ค. 2565 จะนำประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างยูเครน-รัสเซีย เข้าหารือเพื่อประเมินผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในปีนี้ ว่าจะมีมากน้อยเพียงใด

“กกร.เดือน ม.ค.ที่ผ่านมาได้มีการประเมินเศรษฐกิจไทยในปีนี้ว่า อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) จะเติบโต 3-4.5% ส่งออก 3-5% และเงินเฟ้อ 1.2-2% ต่อมาเดือน ก.พ. ได้คงจีดีพีและส่งออกแต่ปรับเงินเฟ้อเพิ่มเป็น 1.5-2.5% เพราะราคาน้ำมันที่สูง โดยขณะนั้นยังไม่มีการนำปัจจัยรัสเซีย-ยูเครนเข้ามาพิจารณา การประชุมในครั้งนี้จึงต้องนำประเด็นต่างๆ มาดูอีกครั้ง เบื้องต้นประเมินราคาน้ำมันระยะสั้นที่จะสูงขึ้นกระทบต่อต้นทุนสินค้า ค่าขนส่ง ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์จะสูงขึ้น เนื่องจากยูเครนเป็นแหล่งส่งออกข้าวสาลีที่สำคัญ ในแง่ของการทำธุรกรรมทางการเงินเพื่อการส่งออก ต้องหารือกรณีรัสเซียอาจถูกตัดออกจากระบบโอนเงินระหว่างประเทศหรือ SWIFT

ด้านนายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการติดตามและประเมินผลกระทบจากการสู้รบระหว่างรัสเซีย-ยูเครน พบว่า กระทบต่อทั้งเศรษฐกิจโลกและไทย โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของต้นทุนภาคการผลิต ราคาพลังงานและราคาวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น เช่น เหล็ก ธัญพืช เซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งอาจส่งผลให้คำสั่งซื้อจากคู่ค้าลดลงบางส่วน เพราะเศรษฐกิจรัสเซียมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก

“หากสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อบานปลาย สามารถเจรจาหาข้อยุติได้ภายใน 3 เดือน การส่งออกของไทย ปีนี้จะยังเติบโตได้ที่ 5% โดยไตรมาสแรกปีนี้จะขยายตัวได้ 5% เพราะมีคำสั่งซื้อล่วงหน้าไว้แล้ว และดูจากปริมาณตู้คอนเทนเนอร์เดือน ม.ค.65 ที่ขยายตัว 7-8% อย่างไรก็ตาม หากยืดเยื้ออาจกระทบการส่งออกไตรมาส 2 เพราะคำสั่งซื้อลดลงส่งผลให้มูลค่าส่งออกลดลง 4,000-5,000 ล้านเหรียญฯ กลุ่มสินค้าที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เช่น ยานพาหนะ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องปรับอากาศ ขณะที่ผลกระทบหากตัดรัสเซียออกจากระบบ SWIFT นั้น สรท.ขอให้ผู้ส่งออกเตรียมการรองรับ เช่น รับเงินก่อนผลิตหรือส่งมอบสินค้า หรือเจรจาคู่ค้าเพื่อวางแผนการชำระเงิน”.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ