นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย เปิดเผยว่า สมาคมฯ และภาคีเครือข่ายขอเสนอ 3 มาตรการร่วมกับภาครัฐเพื่อช่วยเหลือประชาชนและภาคธุรกิจในภาวะที่ค่าครองชีพสูงและเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย คือ
1.รัฐควรเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายของภาครัฐ ที่มีวงเงินงบประมาณ 3.1 ล้านล้านบาท
2.ควรพยุงราคาพลังงานให้คงที่และนานที่สุด แม้มีมาตรการพยุงราคาด้วยการปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซล 3 บาทต่อลิตร 3 เดือน แต่ยังไม่พอ ควรพิจารณามาตรการอื่นๆเพิ่มเติม เช่น การใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง และการออกมาตรการควบคุมราคาค่าขนส่ง ซึ่งค่าขนส่งถือว่ามีสัดส่วนถึง 8-10% ของต้นทุนสินค้า
3.กระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน โดยคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการ “คนละครึ่ง” และโครงการ “ช็อปดีมีคืน” โดยขอให้ภาครัฐพิจารณาโครงการ “ช็อปดี มีคืน” เฟสสองเพิ่มเติม และให้ยืดทั้งระยะเวลาโครงการ รวมถึงวงเงินที่สามารถใช้จ่าย โดยเพิ่มจาก 30,000 บาท เป็น 100,000 บาท ทั้ง 2 โครงการจะเป็นการเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศถือเป็นการช่วยเพิ่มรายได้ให้ผู้ประกอบการและเอสเอ็มอีไทย.