เปิดประเทศรอบใหม่ ททท.ผุดระบบ “Thailand Pass Hotel & Swap System (ทีพีเอชเอส)” ดึงโรงแรมรับหน้าเสื่อยืนยันการจองห้องพัก–ตรวจโควิดสองครั้ง แก้ปัญหาพอทัวริสต์ได้ไทยแลนด์พาสแล้วหายเข้ากลีบเมฆ ตามตัวไม่เจอ ด้านโรงแรมละเหี่ยใจ รับสภาพภาระเยอะขึ้น
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การเปิดประเทศรอบใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.เป็นต้นไป
ตั้งเป้าเก็บผลการตรวจ RT-PCR จากผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักรจำนวน 2 ครั้ง/คน คือ วันที่ 1 และวันที่ 5 ที่เดินทางมาถึงประเทศไทย
ให้ได้ครบ 100% โดยได้ประชุมทำความชี้แจงกับผู้ประกอบการโรงแรมทั่วประเทศไปแล้ว ถึงขั้นตอนการลงทะเบียนเข้าประเทศในระบบ
ไทยแลนด์ พาส ซึ่งต่อไปโรงแรมจะเข้ามามีบทบาทในการช่วยยืนยันบุ๊คกิ้งที่นักท่องเที่ยวกรอกเข้ามาในระบบ ซึ่งเรียกว่า Thailand Pass Hotel & Swap System (ทีพีเอชเอส) โดยมีเวลาหลังจากได้รับข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศ โรงแรมที่ได้รับการจองต้องตอบกลับภายใน 30 ชั่วโมง ผู้ลงทะเบียนจึงสามารถได้รับการอนุมัติให้เข้าประเทศ หากไม่มีการยืนยันหรือปฏิเสธยอดจองดังกล่าว ระบบจะปฏิเสธการลงทะเบียนโดยอัตโนมัติทันที เพื่อแก้ปัญหาที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจองโรงแรมผ่านระบบออนไลน์ ทราเวล เอเจนท์ (OTA) บางคนได้ไทยแลนด์ พาส แล้วไปยกเลิกการจองห้องและการตรวจหาเชื้อจนทำให้เกิดปัญหา โดยระบบนี้ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ใช้ได้ผลจึงนำมาใช้กับทั่วประเทศ
นายศิริปกรณ์ เชี่ยวสมุทร รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท.กล่าวว่า ระบบทีพีเอชเอส ได้รับการออกแบบเพื่อจุดมุ่งหมาย 3 ประการ คือ เพื่อติดตามนักท่องเที่ยวและควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ, เพื่อ เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์ให้เกิดประสิทธิผล เพื่อความมั่นใจในการกลับมาของเทสต์แอนด์โก (T&G) เรื่องการตรวจ RT-PCR ให้ครบถ้วน จึงกำหนดให้ทางโรงแรมเข้ามาร่วมตรวจสอบ (verify) เฉพาะเรื่องที่พัก การตรวจ รถรับวันแรก และยังเป็นการแก้ไขจุดบกพร่องหรือ pain point ที่ในบางกรณีโรงแรมไม่ได้รับข้อมูลจากช่องทางจองอื่นๆ ว่านักท่องเที่ยวจะมาพักกับตนเอง ส่วนเรื่อง 30 ชั่วโมง เป็นเพื่อส่งต่อให้กรมควบคุมโรคตรวจใบรับรองวัคซีน ฯลฯ รวมเวลาแล้วนักท่องเที่ยวจะได้รับอนุมัติภายในไม่เกิน 7 วัน ซึ่งที่ผ่านมาอนุมัติใน 1-3 วันมาโดยตลอด
อย่างไรก็ตาม จากการเพิ่มเกณฑ์ให้ผู้เดินทางเข้ามาต้องจองโรงแรมเพื่อรับการตรวจครั้งที่ 2 ในวันที่ 5 ของการเดินทาง และอาจทำให้ชาวไทยหรือชาวต่างชาติที่มีถิ่นพำนักถาวร ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาไปแล้ว อาจไม่สะดวกในการหาโรงแรม SHA Extra Plus ที่มีบริการตรวจโควิดด้วยนั้น ขอยืนยันว่าปัจจุบัน โรงแรมที่ได้รับมาตรฐานและมีบริการดังกล่าว มีอยู่ถึง 2,247 แห่ง ใน 39 จังหวัด หรือหมายความว่า ในทุกๆ สองจังหวัดจะต้องมีโรงแรมอย่างน้อยหนึ่งจังหวัด หากไม่สามารถหาโรงแรมและบริการตรวจในพื้นที่ของตน ก็สามารถเดินทางไปยังพื้นที่ใกล้เคียงได้
ด้านนายธเนศ ศุภรสหัสรังสี รักษาการแทนประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวชลบุรี กล่าวว่า การเพิ่มขั้นตอนระบบทีพีเอชเอสจะทำให้โรงแรมมีภารกิจเพิ่มเติมในการติดตามบุ๊คกิ้งและต้องจัดสรรทีมงานเพิ่มเติมเพื่อช่วยยืนยันตอบกลับไปยังระบบไทยแลนด์ พาส ตามเวลาที่กำหนด 30 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้กระทบต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยว ทั้งนี้ ระบบดังกล่าวเป็นไป
เพื่อยืนยันการจองบริการตรวจของนักท่องเที่ยวเป็นหลัก แต่ต้องยอมรับว่า หากกรณีที่ถึงเวลาแล้ว นักท่องเที่ยวยังไม่เดินทางมาเช็กอินตามที่กำหนด จะมีวิธีการดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะที่ผ่านมา ได้รายงานปัญหาที่พบเจอบ่อยครั้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะความไม่เชื่อมโยงกันระหว่างระบบหลังบ้านของแต่ละหน่วยงาน.