“พิพัฒน์” พอใจภาพรวมการเปิด “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” มีขลุกขลักบ้างให้รีบแก้ไข สั่งคุมเข้มค้าประเวณี หวั่นเป็นต้นเหตุแพร่ระบาดโควิด-19 ขณะที่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาวันแรก ตรวจหาโควิด-19 แล้ว ปลอดเชื้อทุกคน วันแรกเข้ามา 350 คน ขณะที่วันที่ 2, 3, 4 ก.ค.มี 528, 425 และ 385 คน
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินโครงการในวันแรกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แม้ว่าจะมีปัญหาทางด้านขั้นตอนการปฏิบัติบริเวณจุดต่างๆ ในสนามบินบ้าง ทำให้ใช้เวลานานกว่าเป้าหมาย แต่ล่าสุดได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่แก้ไขและเพิ่มจุดให้บริการมากขึ้น เพื่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาใช้เวลาอยู่ในสนามบินน้อยที่สุด
ส่วนกรณีที่มีผู้ไม่หวังดีโจมตีโดยนำรูปภาพงานเลี้ยงของสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยที่จังหวัดภูเก็ตภายหลังการเดินทางมาร่วมเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ว่าไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนสาธารณสุข จนเกิดกระแสดราม่าในโลกออนไลน์นั้น นายพิพัฒน์ ยืนยันว่า กรณีงานเลี้ยง ที่เกิดขึ้นอยู่ภายใต้การปฏิบัติตัวตามประกาศของสาธารณสุขทั้งหมด โดยผู้ที่มาร่วมงาน 180 ราย ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และการจัดเลี้ยงก็เป็นไปตามข้อกำหนดของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ในพื้นที่สีเขียว คือ ไม่เกิน 200 คน และรองผู้ว่าฯ ภูเก็ต รับทราบแล้ว สามารถรับประทานอาหารและเครื่องดื่มได้ ในเวลาไม่เกิน 5 ทุ่ม ซึ่งงานนี้เลิกในเวลา 3 ทุ่มกว่าๆเท่านั้น
“กรณีนี้ไม่ได้ฝืนคำสั่งของทางจังหวัด และปฏิบัติตามมติของ ศบค.ทั้งหมด โดยจังหวัดภูเก็ตได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่สีเขียวแล้ว จึงอยากให้ผู้ที่ไม่หวังดีต้องระวังการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง หรือทำเป็นเฟกนิวส์ออกมา เพราะจะสร้างความไม่มั่นใจให้เกิดขึ้น ทั้งที่จริงทุกๆหน่วยงานก็พยายามตั้งใจทำภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ออกมาเพื่อรีสตาร์ตการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กลับมาอีกครั้ง”
นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ยังได้ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ตรวจตราให้รอบคอบ อย่าให้มีการลักลอบค้าประเวณี ในจังหวัดภูเก็ต เพราะอาจเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่ยากต่อการควบคุม พร้อมขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับศูนย์ประสานการปฏิบัติในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ของกองทัพเรือ ตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้มีการก่อเหตุผิดกฎหมายและหนีไปทางน้ำด้วย
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตัวเลขผู้โดยสารที่เข้าภูเก็ตทางท่าอากาศยานภูเก็ต เมื่อวันที่ 1 ก.ค.2564 ซึ่งเป็นวันแรกของ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนแล้วเข้ามาโดยไม่ถูกกักตัว เดินทางมารวม 5 เที่ยวบิน ทั้งสิ้น 350 คน เป็นนักท่องเที่ยวที่ใช้ใบอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ (COE) ที่ได้รับอนุมัติจากสถานทูตไทยในประเทศต้นทาง ตามเงื่อนไขภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ 349 คน ซึ่งกลุ่มนี้จะไม่ถูกกักตัว และนักท่องเที่ยวที่ใช้ COE ตามเงื่อนไขถูกกักตัวในห้องพัก 14 วันของสถานที่กักตัวทางเลือก (ALQ) 1 คน ได้แก่ สายการบินเอติฮัตแอร์เวย์ เที่ยวบิน EY430 มีผู้โดยสาร 25 คน เป็นนักท่องเที่ยวเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ 24 คน และเข้าพัก ALQ 1 คน
นอกจากนั้นเป็นนักท่องเที่ยวที่เข้าเงื่อนไขภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ทั้งหมด จากสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ เที่ยวบิน QR840 มีผู้โดยสาร 136 คน สายการบินแอล อัล อิสราเอล เที่ยวบิน LY087 มีผู้โดยสาร 137 คน สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ736 มีผู้โดยสาร 51 คน และอีก 1 คนมาโดยเครื่องบินไพรเวท เจ็ทเที่ยวบิน HS-VSK ทั้งนี้จากจำนวนทั้งหมด ผู้ที่อายุ 6 ปีขึ้นไปจะต้องถูกตรวจหาเชื้อโควิด-19 ครั้งแรกที่ท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งผลตรวจของ 325 คนออกมาเป็นลบ ไม่ติดเชื้อทั้งหมด สามารถเดินทางได้ทั่วเกาะภูเก็ต
สำหรับจำนวน COE ข้อมูล ณ วันที่ 2 ก.ค.2564 เวลา 09.00 น. ที่ได้รับการอนุมัติเฉพาะภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ลงทะเบียนแล้ว 7,090 รายตรวจการฉีดวัคซีนครบโดส ผ่านแล้ว 3,942 ราย กระทรวงการต่างประเทศออก COE แล้ว 2,212 ราย ยังมีที่รออนุมัติทั้งหมด 4,465 ราย ถูกปฏิเสธ 413 ราย เฉพาะผู้ที่เข้าไทยวันที่ 2 ก.ค.ที่ได้รับ COE แล้ว 528 ราย วันที่ 3 ก.ค. ที่ได้รับ COE แล้ว 425 ราย และวันที่ 4 ก.ค. ที่ได้รับ COE แล้ว 385 ราย.