ไหวไหม “กัปตันตู่”?

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ไหวไหม “กัปตันตู่”?

Date Time: 4 ส.ค. 2563 05:01 น.

Summary

  • เมื่อวานนี้ ผมเขียนต้อนรับ “ว่าที่รัฐมนตรี” ด้านเศรษฐกิจ พร้อม กับเปรียบเทียบประเทศไทยว่า เหมือนเครื่องบินที่กำลังจะบินเข้าสู่บริเวณ “พายุ” หรือ “มรสุม” ทางเศรษฐกิจลูกใหญ่

Latest

จาก อสังหาฯหรู ถึง DIOR GOLD HOUSE เมื่อไทย คือปลายทางลักชัวรี ฮับสินค้าพรีเมียม ที่น่าจับตามอง

นำประเทศไทยฝ่า “มรสุม”

เมื่อวานนี้ ผมเขียนต้อนรับ “ว่าที่รัฐมนตรี” ด้านเศรษฐกิจ พร้อม กับเปรียบเทียบประเทศไทยว่า เหมือนเครื่องบินที่กำลังจะบินเข้าสู่บริเวณ “พายุ” หรือ “มรสุม” ทางเศรษฐกิจลูกใหญ่

พร้อมกับฝากความหวังไว้ที่ “กัปตันตู่” และบรรดาผู้ช่วยกัปตันคือ คณะรัฐมนตรีทั้งคณะ ขอให้ช่วยนำเครื่องบินไทยแลนด์ของเราฝ่า “พายุ” อันร้ายแรงลูกนี้ไปให้จงได้

วันนี้เรามาว่ากันต่อเลยครับ พร้อมกับคำถามที่ผมนำมาพาดหัวคอลัมน์ไว้ว่า...จะไหวไหมเนี่ย กัปตันตู่ของพวกเรา?

ก่อนจะตอบว่า ไหวหรือไม่ไหว? เรามาลองประเมินสถานการณ์พายุล่าสุดกันเสียก่อนดีกว่าว่าฤทธิ์เดชของไต้ฝุ่น “โควิด-19” ลูกนี้เป็นอย่างไร? ทำให้โลกสะเทือนแค่ไหน?

สหรัฐฯเพิ่งแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้เองว่า เศรษฐกิจไตรมาส 2 ของเมืองลุงแซมหดตัวถึง 32.5% มากที่สุด นับตั้งแต่มีการเก็บสถิติเมื่อปี 2490 หรือเมื่อ 73 ปีที่แล้วเป็นต้นมา

เทียบกับเมื่อปีวิกฤติการเงินที่ว่าหนักหนาแล้ว ปรากฏว่ามากกว่ากันถึงเกือบ 4 เท่า เพราะเมื่อปี 2551 เศรษฐกิจสหรัฐฯที่ว่าหดตัวลงเป็นประวัติการณ์ก็หดไปแค่ 8.4% เท่านั้นเอง

ของยูโรก็เพิ่งแถลงตัวเลข GDP ไปหมาดๆเมื่อวานนี้ว่า ไตรมาส 2 จะหดไป 12.1% โดยสเปนจะหนักกว่าเพื่อนหดถึง 18.5%

จะมีก็แต่ยักษ์ใหญ่อย่างจีนเท่านั้น ที่แถลงออกมาว่า GDP ของเขาเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสที่ 2 คือฟื้นกลับมาด้วยอัตราร้อยละ 3.2 หลังจากที่ร่วงลงไปราวๆ 6.8% ในไตรมาสแรก

น่าจะเป็นประเทศเดียวในโลกนี้ที่แถลงว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวแล้ว

สำหรับของประเทศไทยเราเองนั้น ทุกๆสำนักทำนายเศรษฐกิจระดับบิ๊กของโลกต่างพยากรณ์ว่า เราจะได้รับผลกระทบมากสุดในอาเซียน (ทั้งๆที่เราจัดการแก้ปัญหาโควิด-19 ได้ดีกว่าเพื่อน)

ธนาคารโลกบอกว่า ทั้งปี GDP เราจะหดไม่น้อยกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าจะลดทั้งปี 7.7% แย่ที่สุดในอาเซียนเช่นกัน

สำนักต่างๆในบ้านเราเอง คาดว่าจะลดประมาณร้อยละ 8 และตัวเลขการว่างงานอาจสูงแตะระดับ 10 ล้านคน แต่ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทยออกมาให้ความหวังว่า ตัวเลขหลายๆตัวดูดีขึ้นในเดือนมิถุนายน แสดงว่าเศรษฐกิจไทยอาจลงไปถึงจุดต่ำสุดแล้วก็ได้

แต่ไม่ว่าอย่างไร GDP ไทยหดตัวแน่ๆ เพียงแต่จะหดมากหรือน้อยเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยบาดเจ็บ และเจ็บกว่าทุกครั้งที่เราเคยเจ็บมา แม้ในช่วงวิกฤติ “ต้มยำกุ้ง” ก็จะไม่แรงเท่าวิกฤติ “โควิด”

สรุปแล้ว “กัปตันตู่” จะต้องหนักและเหนื่อยอย่างสาหัส แน่นอนในการนำเครื่องบินประเทศไทยฝ่าเข้าสู่ซุปเปอร์ไต้ฝุ่นลูกนี้

ลำพังผู้โดยสารนั่งรัดเข็มขัดนิ่งๆ ก็ยังเหนื่อยอยู่แล้ว แต่ปรากฏว่าของเรามาถึงยุค “บิ๊กตู่” ช่วงขาลงพอดิบพอดี

เสียงเรียกร้องให้ดำเนินการต่างๆ โน่นนี่นั่นดังกระหึ่มไปหมด การประท้วงประเภทแฟลชม็อบก็เกิดขึ้นทุกวันทั่วประเทศ ฯลฯ

เทียบกับเครื่องบินก็คือ ผู้โดยสารวิ่งพล่านไปทั้งลำ

ผมยังนึกไม่ออกเลยว่า เราจะฝ่ามรสุมอันหนักหน่วงครั้งนี้ไปได้อย่างไร

แต่ก็อย่างว่าแหละครับ...คนเรายังไงๆ ก็ต้องอยู่ด้วยความหวัง และสำหรับประเทศไทยเรา ใครไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่เป็นอันขาด

เจ็บแต่ไม่ถึงตาย...ร้ายแต่ก็ไม่แรงสุดๆ เผลอหน่อยเดียวก็มักจะฟื้นกลับมาได้ ซึ่งเกิดขึ้นแล้วหลายครั้งหลายหน

มองในแง่ไสยศาสตร์ก็คือ เรามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง

ส่วนการมองอย่างวิทยาศาสตร์ก็คือ ในแง่ความเป็นจริง GDP ของเราที่คิดคำนวณกันนั้น น่าจะต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงเยอะ เพราะมีหลายๆอย่างที่เราคำนวณไม่ได้ โดยเฉพาะธุรกิจและการทำมาหากินนอกระบบที่มีมูลค่ามหาศาลในบ้านเรา

นอกจากนั้น สังคมไทยส่วนใหญ่ยังเป็นสังคมเกษตรและชนบทผลกระทบจาก GDP หดตัวในชีวิตจริงจะรุนแรงน้อยกว่าในประเทศพัฒนาแล้ว ที่ต้องพึ่งพาการจ้างงานภาคอุตสาหกรรมและบริการในเมือง

ผมฟันธงว่าโอกาสที่ “บิ๊กตู่” กับทีมเศรษฐกิจของท่านจะไปไม่รอดค่อนข้างสูง แต่ประเทศไทยของเราจะยังคงรอดต่อไป เหมือนที่รอดมาตลอดกาลนาน และอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้

เอาละ! เครื่องบินกำลังจะเข้าสู่บริเวณอากาศแปรปรวนแล้ว... รัดเข็มขัดแน่นๆนะครับ...ขอให้โชคดีจงเป็นของคนไทยและประเทศไทย!

“ซูม”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ