การจะนำพาธุรกิจ-กิจการอะไรสักอย่าง ให้ก้าวสู่ความสำเร็จ เติบโตสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้นั้น แน่นอนสิ่งสำคัญคือต้องมี “ผู้นำ” ที่เก่งมีความสามารถ นำธุรกิจฝ่าฟันอุปสรรคที่เกิดขึ้นระหว่างทางที่จะไปพบความสำเร็จได้
แต่ในสังคมยุคปัจจุบัน สิ่งที่หลายธุรกิจ หลายองค์กรมองหา และต้องการสรรค์สร้างให้มีในธุรกิจ หรือองค์กรของตนนั้นคือ “ผู้นำที่ดีและเก่ง” ควบคู่กัน เพื่อนำไปสู่การบริหารธุรกิจที่ดี ไม่ได้หวังโกยหาแต่ผลกำไร แต่รู้จักตอบแทนคืนสังคมและประเทศชาติ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก
Business On My Way สัปดาห์นี้ขอนำท่านผู้อ่านไปรู้จักโครงการหนึ่ง ที่ชื่อว่า “IMET MAX” (ไอเม็ท แม็กซ์) โดยมีความน่าสนใจคือเป็น “อุทยานผู้นำ” ที่จะมาบ่มเพาะผู้นำรุ่นใหม่ เน้นเสริมสร้างจิตสำนึกสร้างคุณค่าเพื่อสังคม
คุณสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการบริหาร มูลนิธิเพื่อสถาบันการศึกษาวิชาการจัดการแห่งประเทศไทย (IMET) เล่าว่า โครงการ IMET MAX เป็นโครงการที่มูลนิธิ IMET ริเริ่มทำต่อเนื่องมาแล้ว 2 ปี โดยปีนี้ก้าวสู่ปีที่ 3 ทั้งนี้ จุดกำเนิดโครงการนี้ เป็นเพราะมูลนิธิเล็งเห็นว่าการพัฒนาประเทศให้สำเร็จอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องสร้างผู้นำที่ทั้งดีและเก่ง ทำให้มูลนิธิมีนโยบายในการมุ่งสร้าง และพัฒนาผู้นำระดับสูงรุ่นใหม่ ให้มีความพร้อมทั้งในด้านความสามารถและจิตสำนึกเพื่อเป็นรากฐานที่เข้มแข็งของสังคม
มูลนิธิ IMET เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2526 บนความร่วมมือของทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา โดยมีเงินทุนเริ่มแรกจากองค์การให้ความช่วยเหลือระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (United States Agency for International Development) หรือ USAID มีผู้ร่วมก่อตั้ง คือ ฯพณฯ ดร.เชาวน์ ณ ศีลวันต์ และมีคุณพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา (2536-2547) คุณชุมพล พรประภา (2554-ปัจจุบัน) เป็นประธานมูลนิธิ
ทั้งนี้ มูลนิธิมีจุดประสงค์เพื่อดำเนินการยกระดับศักยภาพ ความสามารถในการบริหารจัดการ และการบริหารความเปลี่ยนแปลงของผู้นำทุกระดับทั้งในระดับสูง กลาง และล่าง ในส่วนกลางและท้องถิ่น ควบคู่กับการส่งเสริมให้ผู้นำเหล่านั้นมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศและรับผิดชอบต่อสังคม นับเป็นจำนวนกว่า 18,000 คน ใน 76 จังหวัดทั่วประเทศ ผ่านการดำเนินโครงการมาแล้ว 400 โครงการ ตลอดช่วง 37 ปีที่ผ่านมา
คุณธนพล ศิริธนชัย หรือ “คุณวู้ดดี้” ประธานโครงการ IMET MAX เล่าว่า รูปแบบการเรียนรู้ ไม่ได้เกิดจากการอ่านหนังสือ หรือการเล่าเรียนเพียงอย่างเดียว แต่สิ่งที่สำคัญเกิดจากการที่คนเราสามารถสะท้อนมุมมอง แนวคิด รวมทั้งการเรียนรู้จากประสบการณ์จากเมนเทอร์ ผู้นำองค์กรผู้มากประสบการณ์ได้ โดยรูปแบบของโครงการ IMET MAX เป็นรูปแบบที่เมนเทอร์จับคู่เมนที ในลักษณะใกล้ชิดในสัดส่วน 1 ต่อ 3 เพื่อให้ได้ใช้เวลาตลอดของโครงการกว่า 8 เดือน
ผ่านการพูดคุย และแลกเปลี่ยนมุมมองกัน ในสิ่งที่เมนเทอร์ใช้จัดการกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ โดยเชื่อว่าประสบการณ์ของเมนเทอร์จะกระตุ้นให้เมนทีได้คิด และขณะเดียวกันรูปแบบของกระบวนการการให้คำปรึกษา จะมุ่งเน้นในเรื่องสติปัญญาที่สมบูรณ์พร้อม Wisdom for Life and Social Values ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการปลูกฝังแนวคิดในการทำเพื่อสังคมให้กับเมนทีได้ตระหนัก และเอื้อเฟื้อต่อสังคม
“ส่วนตัวเชื่อว่าเมนทีเหล่านั้น เมื่อได้รับสิ่งที่ดีก็จะส่งต่อสิ่งดีๆ เหล่านี้ให้กับสังคม ซึ่งจะเป็นการปลูกฝังให้ผู้นำใหม่ๆ ที่เป็นทั้ง “คนดี” และ “คนเก่ง” เพื่อสร้างอุทยานผู้นำรุ่นใหม่ รับมือยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงที่ต้องก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว และรับผิดชอบต่อสังคม”
คุณวู้ดดี้ เล่าว่า สำหรับในปีนี้ IMET MAX กำหนดคุณสมบัติที่สำคัญของเมนทีไว้ 3 ประการ คือ 1.เป็นนักบริหารที่มีศักยภาพระดับสูงหรือมีความมุ่งมั่นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับสังคมหรือประเทศชาติ 2.เป็นผู้ที่ไม่มีประวัติด่างพร้อย และ 3.เป็นผู้ที่มีความต้องการและเชื่อมั่นในการพัฒนาตนเองผ่านกระบวนการเมนเทอริ่ง
“ไฮไลต์ของปีนี้ คือเป็นการคัดสรรและเชิญผู้ประสบความสำเร็จอย่างสูงระดับชาติมาเป็นเมนเทอร์รวม 12 ท่าน อาทิ คุณบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) คุณสมประสงค์ บุญยะชัย รองประธานกรรมการ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) คุณขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) มาเป็นเมนเทอร์ เพื่อช่วยคิดและชวนคิด แชร์ประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้ให้กับเหล่าเมนที”
ทั้งนี้ ในส่วนการรับสมัครเมนทีร่วม IMET MAX รุ่นที่ 3 เปิดรับตั้งแต่วันนี้ - 31 ก.ค.2563 ผู้สนใจติดต่อขอรับข้อมูลได้ที่ www.imet.or.th หรืออีเมล imetmax3@gmail.com โดยเปิดรับเพียง 36 คน
ท้ายที่สุดคุณวู้ดดี้ กล่าวว่า การจะสร้างคนเก่งและคนดีให้เกิดขึ้นในสังคม ก็เสมือนการปลูกต้นไม้ ต้องเริ่มตั้งแต่เตรียมเมล็ดพันธุ์ที่ดี ควบคู่การดูแล ที่ต้องมีการรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย และกำหนดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เพื่อให้เมล็ดพันธุ์ที่หว่านไป เติบโตกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแกร่ง หยั่งรากลึกในดิน โดยยามที่ต้องเผชิญภัยร้ายต่างๆก็ไม่โค่นล้มหักได้ง่าย.