ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่ม 7 สมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย นำโดยนายวิน วิริยประไพกิจ ได้ยื่นหนังสือ “ขอความอนุเคราะห์พิจารณากำหนดมาตรการเยียวยา และบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับอุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ” ถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาระบุว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้อุปสงค์ของสินค้าเหล็กหดตัวลงทั่วโลก ความต้องการใช้เหล็กไตรมาสที่ 1 ปี 2563 ลดลงถึง 36% หรือ 70 ล้านตัน ส่งผลให้ ณ สิ้นเดือน มี.ค.2563 จีนมียอดสินค้าเหล็กคงคลังเพิ่มขึ้นถึง 103% ซึ่งรัฐบาลจีนได้ส่งสัญญาณระบายสินค้าเหล็ก และมีความเสี่ยงสูงสุดที่สินค้าจะไหลมาไทย
ดังนั้น เพื่อให้อุตสาหกรรมเหล็กของประเทศอยู่รอดต่อไปได้ จึงขอเสนอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณากำหนดมาตรการเพิ่มเติม 5 ข้อ คือ 1. พิจารณาสนับสนุนอุตสาหกรรมเหล็กเป็นอุตสาหกรรมสำคัญยิ่งยวด 2. พิจารณาเร่งรัดการจัดทำระเบียบปฏิบัติที่ส่งเสริมการใช้สินค้าเหล็กในประเทศในโครงการรัฐ โดยการให้แต้มต่อ 3-7% กับผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองคุณภาพตาม มอก.และกำหนดสัดส่วนการใช้สินค้าเหล็กและเหล็กกล้าที่ผลิตได้ภายในประเทศ 90%
3.บังคับใช้มาตรการทางการค้าสินค้าเหล็ก ป้องกันการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรมจากต่างประเทศอย่างทันท่วงที ตามแนวทางที่เอกชนเสนอ 4.ดำเนินมาตรการตรวจติดตามเชิงรุก ตรวจติดตามอย่างใกล้ชิดว่ามีการนำเข้าสินค้าเหล็กเพิ่มขึ้นผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะจากจีนและเวียดนาม และ 5. นอกจากการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) ต้องมีความพร้อมที่จะใช้มาตรการปกป้องการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น (Safeguard), มาตรการตอบโต้การอุดหนุน, มาตรการตอบโต้การหลบเลี่ยง และมาตรการห้ามนำเข้า เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเหล็กสามารถยืนหยัดสู้ฝ่าฟันวิกฤติโควิด-19 ต่อไป.