ผู้บริหารรถไฟฟ้า MRT-BTS-Airport Rail Link เตรียมหารือกรมการขนส่งทางราง เสนอให้รถไฟฟ้าทุกระบบ ปิดให้บริการในเวลา 21.30 น. พร้อมกัน เผื่อเวลาให้ผู้โดยสาร พนักงานเดินทางจากสถานีกลับเคหสถานก่อนเวลาเคอร์ฟิว 22.00 น.
นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า หลังนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศเคอร์ฟิว โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามประชาชนที่ไม่มีกิจจำเป็น ออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 22.00 น. ถึง 04.00 น. มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (3 เม.ย.) เป็นต้นไปนั้น รฟม.ในฐานะที่กำกับดูแลการให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสายสีม่วง จะเร่งหารือกับกรมการขนส่งทางราง เพื่อกำหนดเวลาปิดให้บริการให้สอดคล้องกับการประกาศเคอร์ฟิวดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในความเห็นส่วนตัวเห็นว่า การปิดให้บริการในเวลา 21.30 น. เป็นเวลาที่เหมาะสม เพื่อเผื่อเวลาให้ประชาชนเดินทางจากสถานีกลับเคหสถานได้ทันตามกำหนดเวลาเคอร์ฟิว รวมทั้งรถไฟฟ้าทุกระบบจะต้องปิดทำการในเวลาเดียวกัน เพื่อให้รูปแบบบริการสอดคล้องกันทั้งระบบ ส่วนเวลาเปิดให้บริการ ในส่วนของรฟม. การประกาศเคอร์ฟิวถึงเวลา 04.00 น. ไม่มีผลกระทบแต่อย่างไร
ด้านนายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เผยว่า ประกาศดังกล่าวจะทำให้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะปรับเวลาในการให้บริการโดยในช่วงเช้าจะให้บริการในเวลาเดิมคือ ขบวนแรกเวลา 05.30 นาที และขบวนสุดท้ายจะให้บริการ ปลายทางทั้งจากสถานีพญาไทและสถานีสุวรรณภูมิ ในเวลา 21.30 นาที โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการเดินทางกลับที่พัก
นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ระบบขนส่งมวลชน กรุงเทพ ผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส กล่าวว่า เวลาปิดให้บริการ 21.30 น น่าจะเป็นเวลาที่เหมาะสมในการปิดให้บริการที่จะสอดคล้องกับประกาศเคอร์ฟิว 22.00 น. ซึ่งขณะนี้ผู้บริหาร BTS อยู่ระหว่างการหารือถึงแนวทางปฏิบัติ และจะมีการหารือร่วมกับกรมการขนส่งทางราง อีกครั้ง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบัน การเปิดให้บริการของรถไฟฟ้าแต่ละระบบนั้น ในส่วนรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง ให้บริกาาตั้วแต่ 06.00-24.00 น. เช่นเดียวกับรถไฟฟ้า BTS เปิดให้บริการ 06.00-24.00 น. สวนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 05.30-24.00 น.
ทางด้านนายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า จากที่มีการประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศห้ามออกจากบ้าน 22.00 - 04.00 น.นั้น ในส่วนของ รฟท. นั้น จะงดให้บริการเดินรถในเส้นทางสายยาวที่จะต้องออกจากสถานีต้นทางทุกสถานีที่มีการเดินรถในช่วงเวลา 13.00 น. เป็นต้นไป เนื่องจากจะการเดินทางระหว่างทางจะคาบเกี่ยวที่ประกาศห้ามเดินทาง ซึ่งจะทำให้เส้นทางบริการเดินรถสายยาวของ รฟท. จำนวนกว่า 30 เส้นทาง ต้องหยุดให้บริการไปโดยปริยาย จากเดิมที่ รฟท. หยุดให้บริการรถไฟในสายยาวไปแล้วกว่า 22 เส้นทาง ส่วนรถไฟสายสั้นนั้นยังไม่ได้รับผลกระทบ
ขณะที่ นายสุรชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า หลังจากประกาศเคอร์ฟิวดังกล่าว ขณะนี้สำนักเขตเดินรถต่างๆ ได้รับทราบแล้ว โดยจะต้องมีการปรับเวลาในการเดินรถโดยในช่วงเช้าจะออกรถได้เวลา 04.00 น. เหมือนเดิมแต่ว่าในช่วงเที่ยวขากลับรถเมล์ ขสมก.ทุกคัน ให้บริการถึงเวลา 21.00 - 21.15 น. และจำเป็นที่จะต้องถึงอู่ก่อนในเวลา 22.00 น.
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีจำนวนผู้โดยสารเหลือที่ใช้บริการเพียง 40% เท่านั้น ส่วนมาตรการระยะห่างยืนยันว่ายังมีการดำเนินการอยู่แต่ภาพที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น เป็นเพียงแค่ผู้โดยสารบางส่วนทั้งนี้ได้กำชับให้พนักงาน ขสมก.เข้มงวดกับมาตรการดังกล่าวแล้ว
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ตามที่นายกรัฐมนตรีประกาศเคอร์ฟิว โดยใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ห้ามประชาชนที่ไม่มีกิจจำเป็น ออกนอกเคหสถาน ระหว่างเวลา 22.00น.-04.00 น มีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้(3 เม.ย.) เป็นต้นไปนั้น เบื้องต้นได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานด้านขนส่งสาธารณะปรับแผนการให้บริการ เพื่อให้สอดคล้องกับคำสั่งดังกล่าว โดยให้ปิดบริการตั้งแต่เวลา 21.30 น. เริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้(3เม.ย.)เป็นต้นไป.